เผยแพร่ |
---|
อุบัติการณ์โรคระบาดในปี 2563 เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในคนและในสัตว์ เช่น โรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่ระบาดในคน ซึ่งการแพร่ระบาดของโรคนี้ รอบใหม่ มาไว กระจายไว กลายพันธุ์ไว แต่อาจไม่จบไว ตามความเห็นของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านที่ประเมินสถานการณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า อาจกินเวลาไม่น้อยกว่า 2 เดือน เท่าๆ กับรอบแรก ขณะที่โรคระบาดในสัตว์ เช่น แอฟริกาสไวน์ฟีเว่อร์ และโรค PRRS หรือ เพิร์ส ที่เกิดในสุกรและแม้ทั้งสองโรคนี้จะไม่ติดต่อสู่คน ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการบริโภคอาหารของประชาชนพฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนไปสู่การกินเพื่อสุขภาพ เลือกสรรอาหารปลอดภัยจากแหล่งต้นทาง และบริษัทผู้ผลิตที่ได้การรับรองมาตรฐานสากล
นอกจากกำหนดมาตรการป้องกันโรคที่เคร่งครัดแล้ว ภาครัฐ หน่วยงานสาธารณสุข นักโภชนาการ และภาคเอกชน ยังต้องร่วมมือกันเรียกความมั่นใจของผู้บริโภคในการบริโภคเนื้อสัตว์ เช่น ไก่ หมู ไข่ และอาหารทะเล เช่น กุ้ง ปู ปลา ว่าเป็นอาหารที่บริโภคได้อย่างปลอดภัย มาจากการผลิตซึ่งผ่านการตรวจสอบและรับรองโดยกรมปศุสัตว์ ทั้งมาตรฐานการปฏิบัติที่ดีในการผลิตอาหาร ซึ่งเป็นระบบประกันคุณภาพเพื่อให้เกิดความปลอดภัย หรือ GMP (Good Manufacturing Practice) และ มาตรฐานภายใต้มาตรฐานการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี GAP (Good Aquaculture Practice) ของกรมประมง โดยผู้บริโภคควรนำไปทำความสะอาดก่อนปรุงอาหารทุกครั้ง และปรุงสุกตามหลักสุขอนามัย
สำหรับบริษัทอาหารชั้นนำของไทยต่างให้ความสำคัญกับการผลิตตามมาตรฐานสากลและใช้เป็นมาตรฐานการผลิตเดียวกัน (Single Standard) เพื่อความปลอดภัยทางอาหาร สำหรับผู้บริโภคในประเทศและผลิตภัณฑ์ส่งออกไปต่างประเทศ ที่มีกระบวนการผลิตที่มีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการรับผิดชอบต่อสังคม ตามแนวทางการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ หนึ่งในผู้ผลิตอาหารไทยที่ได้รับการยอมรับในเวทีโลก ทั้งกระบวนการผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ตระหนักดีถึงการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีกระบวนการผลิตที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ และตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่ทั้งธุรกิจสัตว์บกและธุรกิจสัตว์น้ำ โดยฟาร์มสุกร ไก่ ไก่ไข่ และกระบวนการผลิตได้การรับรองมาตรฐาน GMP และมาตรฐานควบคุมดูแลความปลอดภัยในทุกกระบวนการผลิตอาหาร เพื่อป้องกันอันตรายและสิ่งปนเปื้อนในอาหาร ที่ผู้บริโภคอาจได้รับจากการบริโภคอาหาร หรือ HACCP (Hazard Analysis Critical Control Point) ตลอดจนนำแนวปฏิบัติสวัสดิภาพสัตว์สากล “หลักอิสระ 5 ประการ” มาประยุกต์ใช้ในฟาร์มเพื่อให้สัตว์มีสุขภาพดีและแสดงออกตามพฤติกรรมตามธรรมชาติ ควบคู่ไปกับวิสัยทัศน์ด้านการใช้ยาต้านจุลชีพอย่างมีความรับผิดชอบ ตามแนวทาง “สุขภาพหนึ่งเดียว” หรือ One Health ซึ่งเป็นการรวมแนวทางการปฏิบัติสุขภาพคน สุขภาพสัตว์ และสุขภาพสิ่งแวดล้อมเข้าไว้ด้วยกันเพื่อนำสู่การมีสุขภาพที่ดีโดยองค์รวม
นอกจากนี้ ฟาร์มปศุสัตว์ของบริษัทยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมีการบริหารจัดการให้ช่วยลดผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน ด้วยการติดตั้ง ไบโอก๊าซ โซลาร์ฟาร์ม เพื่อผลิตพลังงานหมุนเวียนทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า ขณะที่ฟาร์มไก่เนื้อ ไก่ไข่ และเป็ด มีการเฝ้าติดตามและสังเกตอาการป่วยเบื้องต้นและพฤติกรรมของสัตว์ตลอดเวลาด้วยระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) แบบ Real-Time เพื่อทำการรักษาและแก้ไขได้ทันต่อสถานการณ์ รวมถึงถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้กับเกษตรกรในโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ของบริษัท เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตทั้งตลอดห่วงโซ่คุณค่าทั่วโลก
ในส่วนของธุรกิจสัตว์น้ำ มีการคิดค้นนวัตกรรม 3 สะอาด ที่เน้นความสะอาดของพันธุ์ บ่อ และน้ำ เพื่อป้องกันโรค และนำระบบไบโอฟล็อก (Bio-Floc) ซึ่งเป็นการเติมจุลินทรีย์ที่สามารถบำบัดสารละลายไนโตรเจนที่เกิดจากของเสียที่กุ้งขับถ่าย เทคโนโลยีระบบกรองน้ำทันสมัย (Ultra Filtration) มาใช้กรองน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้ว เพื่อหมุนเวียนกลับมาใช้เลี้ยงกุ้งมากกว่า 90% ควบคู่ไปกับการเลี้ยงตามหลักสวัสดิภาพสัตว์และความปลอดภัยทางชีวภาพในฟาร์ม (Biosecurity Farm)
จากวัตถุดิบต้นทางที่สด สะอาด ปลอดภัย สู่กระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล และเทคโนโลยีทันสมัยระดับโลก เพื่อลดการสัมผัสมือให้น้อยที่สุด ส่งผลให้เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ของบริษัท ภายใต้แบรนด์ ซีพี สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิต ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค ที่สำคัญผู้บริโภคควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และนักโภชนาการในการปรุงเนื้อสัตว์ทุกชนิดให้สุก ไม่รับประทานอาหารดิบหรือไม่สุก เพื่อความปลอดภัยจากเชื้อโรค
แม้รัฐบาลจะยังไม่มีประกาศปิดประเทศ (lockdown) เหมือนรอบแรก แต่การระบาดครั้งใหม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมไม่น้อย ทำให้ทั่วโลกยังไม่สามารถก้าวข้ามคำว่า “เศรษฐกิจตกต่ำ” ได้ และยังคงต้องเดินหน้าอย่างเข้มแข็งตามวิถีปกติใหม่ (New Normal) รักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และ “ล็อกดาวน์” ตัวเอง ไว้กับหลักสุขอนามัยส่วนบุคคลที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ กินร้อน ช้อนกลาง อาหารปรุงสุก ออกนอกบ้านสวมหน้ากาก ล้างมือด้วยสบู่บ่อยๆ หลีกเลี่ยงโคจรไปในแหล่งชุมชนที่มีคนจำนวนมาก เหล่านี้เป็นต้น เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ไทยรอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน