อาลัย-สูญเสีย‘ฐากูร บุนปาน’ รองประธานมติชน อดีต บก.-เอ็มดี ด้วยวัย 59 ปี

นายฐากูร บุนปาน รองประธานเครือมติชน สิ้นใจอย่างสงบเมื่อเวลา 13.55 น. วันที่ 12 มกราคม ที่บ้านพัก ด้วยวัย 59 ปี หลังจากล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งตั้งแต่ปี 2562

สำหรับพิธีศพ จะตั้งบำเพ็ญกุศล ที่วัดเสมียนนารี ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2564

กำหนดการจะแจ้งให้ทราบต่อไป

นายฐากูร บุนปาน รองประธานคณะกรรมการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) อายุ 59 ปี เกิดวันที่ 18 ธันวาคม 2504 เรียนประถมศึกษาที่โรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร จบมัธยมศึกษาที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รุ่น 97

ปริญญารัฐศาสตรบัณฑิต สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่น 32

ผ่านการอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านวิทยาการพลังงาน สถาบันวิทยาการพลังงาน รุ่นที่ 1 (วพน.1) อบรมหลักสูตรนักบริหารระดับสูงด้านการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมและการลงทุน สถาบันวิทยาการธุรกิจและอุตสาหกรรม รุ่นที่ 1

อบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน รุ่นที่ 18 (วตท.18)

นายฐากูรถือเป็นลูกหม้อของมติชน โดยเริ่มทำงานที่เครือมติชนเมื่อปี 2527 เป็นผู้สื่อข่าวมติชน ก่อนย้ายไปเป็นผู้สื่อข่าวสายการเงิน ประชาชาติธุรกิจ และเป็นหัวหน้าข่าว กอง บก.ประชาชาติธุรกิจ ในเวลาต่อมา ศึกษาเรื่องของธุรกิจการเงินการคลังจากนักธุรกิจ และข้าราชการที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการคลัง จนกระทั่งเป็นตัวหลักในข่าวการเงินการคลังคนหนึ่งในเครือมติชน

ปี 2533 ร่วมบุกเบิก “ข่าวสด” ที่นายขรรค์ชัย บุนปาน รับมาดำเนินกิจการ โดยเป็นหัวหน้าโต๊ะข่าวภูมิภาค

ปี 2534-2546 เป็นบรรณาธิการบริหารข่าวสด ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็ว พุ่งขึ้นเป็น 1 ใน 3 สื่อรายวันที่มียอดจำหน่ายสูงสุด

ปี 2547-2553 เป็นบรรณาธิการข่าวสด และมีบทบาทอย่างสูงในการพัฒนาข่าวสด โดยเฉพาะการตระเตรียมก้าวสู่ระบบออนไลน์ เป็นรากฐานที่ทำให้ข่าวสดออนไลน์กลายเป็นสื่อออนไลน์ที่มีผูัติดตามสูงสุดของประเทศ

เป็นผู้จัดการทั่วไปเครือมติชน จากปี 2553-2557 และเมื่อนายปิยะชาติ มงคลไชยสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ มีปัญหาสุขภาพ ได้เข้ารับหน้าที่เป็นกรรมการผู้จัดการเครือมติชน

จากปี 2557-2562 โดยในปี 2562 นายฐากูรพบว่าตนเองป่วยเป็นมะเร็ง ได้เข้ารับหน้าที่รองประธานกรรมการบริษัทในปี 2562

นายฐากูร สมรสกับ คุณวิสาตรี สุวรรณทัต มีบุตรชาย 1 คน คือ นายบุญรักษา นายฐากูรเป็นคนรักครอบครัว และมีเพื่อนฝูงแวดวงต่างๆ มาก ได้จัดแบ่งเวลาเพื่อดูแลบุตร ภรรยา และครอบครัว ตลอดจนญาติพี่น้อง และรักษาความสัมพันธ์กับมิตรสหายเป็นอย่างดี

นายฐากูรเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการบุกเบิกและพัฒนาเครือมติชน ทั้งมติชน ข่าวสด และประชาชาติธุรกิจ จนเป็นสื่อและกิจการสื่อที่สังคมให้ความเชื่อมั่นเชื่อถือ ทั้งยุคสิ่งพิมพ์กระทั่งก้าวสู่ยุคออนไลน์ และให้ความสำคัญกับการมุ่งทิศทางออนไลน์ของสื่อในเครืออย่างมาก โดยให้คำแนะนำและติดตามผลการพัฒนาของสื่อในเครืออย่างเกาะติดและเอาใจใส่

มีความยึดมั่นในความสุจริต อุดมคติของวิชาชีพสื่อ สนับสนุนหลักการและทิศทางประชาธิปไตย และเห็นว่าสิ่งสำคัญในวิชาชีพคือจุดยืน และความรู้จริง รู้ลึกในด้านต่างๆ ให้มาก และกว้างขวางที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อประโยชน์ในการทำหน้าที่สื่อ นำพาข้อมูลข่าวสารและข้อคิดเห็นไปสู่ประชาชน และเพื่อบริหารงานสื่อได้ถูกทิศทาง นายฐากูรเองจึงศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา

ทั้งจากการอ่าน ค้นคว้า แลกเปลี่ยน รับคำชี้แนะ ความรู้ จากผู้รู้ โดยออกพบปะสนทนากับผู้รู้ แหล่งข่าวในวงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง แม้เมื่อมีอาการป่วยก็พยายามไปพบปะเท่าที่เงื่อนไขสุขภาพจะอำนวย

นายฐากูรเป็นนักบริหาร นักข่าว หนอนหนังสือในทุกสาขา เป็นนักชิม ปรุงอาหาร นักฟังเพลง และเขียนบทกวี กลอน มีงานเขียนคอลัมน์ต่างๆ ในสื่อเครือมติชน อาทิ คอลัมน์ สวรรค์ในครัว ใช้นามปากกา เขียง มะขาม ลงในข่าวสด แล้ว สนพ.มติชน นำมารวมเล่มเป็นหนังสือสวรรค์ในครัว

คอลัมน์ สิงโต สะออน เป็นกลอนที่วิพากษ์วิจารณ์สังคมและการเมืองไทย ในมติชนรายวัน คอลัมน์ ย่ำไปในดงเพลง ใช้นามปากกาว่า เขบ็ดหัวโต มติชนรายวัน วิพากษ์วิจารณ์สังคมและการเมืองไทยผ่านบทเพลงสากลและเพลงไทย นอกจากนี้ ยังมีงานเขียนเชิงวิเคราะห์ในมติชน และเขียนบทบรรณาธิการให้กับสื่อในเครือ

เขียนคอลัมน์ของดีมีอยู่ในมติชนสุดสัปดาห์ ป่วยเป็นโรคมะเร็งในปี 2562 โดยไม่ได้มีสัญญาณเตือนที่ชัดเจนใดๆ มาก่อน และได้ลาออกจากกรรมการผู้จัดการเพื่อรักษาตัว ทางบริษัทได้แต่งตั้ง น.ส.ปานบัว บุนปาน มารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ เนื่องจากมีสุขภาพที่แข็งแรงเป็นต้นทุนที่ดี และมีครอบครัวที่ดูแลให้กำลังใจมาตลอด ทำให้มีสุขภาพในระดับที่มาทำงานและพบปะบุคคลต่างๆ ได้ นายฐากูรยังมานั่งทำงานที่สำนักงานมติชน และเดินไปสนทนากับกอง บก. ต่างๆ เว้นแต่เมื่อต้องเข้ารับการรักษาแล้วแพทย์สั่งให้พักผ่อน

นายฐากูรยังมาทำงานที่อาคารมติชนจนถึงเดือนตุลาคม 2563 อาการป่วยได้ทรุดลงในเดือนพฤศจิกายน นายฐากูรได้เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ท่ามกลางความห่วงใยของมิตรสหาย ผู้ที่รู้จักคุ้นเคย และเพื่อนร่วมงาน ที่ติดตามถามข่าวคราวอย่างต่อเนื่อง

ระหว่างที่อาการทรุดหนัก ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม จนถึงต้นปีใหม่ นายฐากูรมีสติและความคิดที่แจ่มใสชัดเจนตลอดเวลา ยังสามารถพูดคุยวิเคราะห์วิจารณ์เรื่องราวต่างๆ ได้ ความจำแม่นยำ และมีอารมณ์ขัน และตัดสินใจเองร่วมกับครอบครัวในเรื่องของการรักษาอาการป่วย