ที่มา | คิดเป็นเทคโนฯ |
---|---|
ผู้เขียน | ธงชัย พุ่มพวง |
เผยแพร่ |
ในภาวะเร่งด่วนยามเช้าของประชาชนทั่วไปในเมืองใหญ่ ที่ต้องทำงานแข่งขันกับเวลา ตื่นนอนแต่เช้า รีบร้อนออกจากบ้านเพื่อไปให้ทันกับเวลาทำงาน เวลาเข้าโรงเรียน ให้ทันเวลาตามที่นัดหมาย ไม่มีเวลาที่จะทำอาหารเช้าที่บ้าน ต้องไปแวะหาซื้ออาหารเช้าข้างหน้า จึงเกิดอาชีพหนึ่งที่ทำรายได้ดี ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคลักษณะนี้คือ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ขายอยู่ข้างเส้นทางที่เดินทางผ่าน ราคาถูก ซื้อได้รวดเร็ว รับประทานได้ง่าย
การขายหมูปิ้งหมูย่าง บางรายอาจจะเปลี่ยนเป็นเนื้อหรือไก่ ตามแต่ลูกค้าชอบ แต่สิ่งที่จำเป็นสำหรับอาชีพนี้ที่จะขาดเสียไม่ได้คือ เตาปิ้งย่าง บางรายอาจจะใช้ถังขนาด 200 ลิตร นำมาผ่าครึ่งทำเป็นเตาปิ้ง มีตะแกรงเหล็กวางด้านบน บางรายอาจใช้ถังขนาดเล็กลงมา เพื่อให้มีความกะทัดรัด ด้านล่างเตาใช้ถ่านไม้เป็นเชื้อเพลิง ด้านบนเป็นตะแกรงเพื่อวางหมู เนื้อ หรือไก่ เพื่อให้ได้รับความร้อนจากถ่านจนสุก แต่ในขณะที่กำลังปิ้งย่างนั้น จะเกิดน้ำมันจากเนื้อหมู เนื้อ หรือไก่ ที่ถูกความร้อนนั้น หยดไหลลงในเตาปิ้งย่างกระทบกับถ่านที่เป็นเชื้อเพลิง ทำให้เกิดควันไฟลอยขึ้นไปในอากาศ ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งเนื้อหมูปิ้งที่ถูกควันรมอยู่ตลอดเวลา ทางการแพทย์ระบุว่ามีสารทำให้เกิดมะเร็งด้วย
สำนักวิชาการพลังงานภาค 10 กระทรวงพลังงาน ระบุว่า สำนักวิชาการพลังงานฯ เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการส่งเสริมและพัฒนาการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ลดการสูญเสียและหันมาใช้พลังงานทดแทน เพื่อให้มีการบริโภคพลังงานอย่างพอดีและพอเพียง ถ่ายทอดเทคโนโลยีและการวางแผนพลังงานชุมชน รับผิดชอบในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำพูน ลำปาง และจังหวัดแม่ฮ่องสอน
จากสถานการณ์การขายหมูปิ้งนี้เอง จึงเกิดแนวคิดทำเป็นโครงการรถขายหมูปิ้งประหยัดพลังงานด้วยเตาประสิทธิภาพสูง เป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ประชาชนเกิดความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีพลังงานในอนาคต และสอดคล้องกับการประกอบอาชีพในชีวิตประจำวัน และเป็นเทคโนโลยีที่ง่ายต่อการเรียนรู้ของประชาชน สำนักวิชาการพลังงานฯ จึงประสานงานกับศูนย์วิจัยพลังงาน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดทำโครงการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีพลังงานที่เหมาะสม งานออกแบบและพัฒนาเตาปิ้งย่างไร้ควันสำหรับชุมชน
ระยะแรกทำการศึกษาวิจัยขนาดและรูปแบบต่างๆ ของเตาปิ้งย่างหมูไม่ให้มีควัน แต่ต้องใช้ความร้อนสูงมาทำให้หมูปิ้งสุกนั้น ต้องคำนวณหาระยะความกว้าง ยาว สูง ให้มีความสัมพันธ์กัน กว่าจะได้ขนาดต้นแบบของเตาปิ้งย่างที่ถูกต้อง ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปี จนได้เตาปิ้งย่างต้นแบบไร้ควันที่มีประสิทธิภาพ ประหยัดเชื้อเพลิง ตัวเตาทำจากเหล็กโดยตรง เตามีลักษณะขนาดกว้าง 46 เซนติเมตร ยาว 60 เซนติเมตร สูงจากพื้นที่ที่ตั้ง 75 เซนติเมตร มีตะแกรงย่างที่ทำจากสแตนเลส ไม่เป็นสนิม ขนาดกว้าง 20 เซนติเมตร ยาว 60 เซนติเมตร วางสูงจากถ่านประมาณ 20 เซนติเมตร
ด้านล่างของตะแกรงปิ้งย่างจะมีถาดรองรับน้ำมันที่เกิดจากการปิ้งย่างให้ไหลลงอีกด้านหนึ่ง ตัวเตาทำกล่องสี่เหลี่ยมบรรจุถ่านที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงประกอบไว้ด้านข้างทั้งสองด้าน พร้อมบานพับเปิดปิดเพื่อใช้เติมถ่านลงในเตา มีการออกแบบช่องลมที่สามารถปรับระดับมากหรือน้อยได้ เพื่อให้เป็นตัวนำความร้อนจากส่วนที่เป็นเตาเชื้อเพลิง ที่มีอุณหภูมิความร้อนมากถึง 300-450 องศาเซียลเซียส ความร้อนที่สูงนี้จะถูกส่งไปถึงหมูปิ้งหรือสิ่งที่ปิ้งย่างนั้น อุณหภูมิประมาณ 110-120 องศาเซียลเซียส เวลาที่ทำให้หมูปิ้งสุกรับประทานได้ประมาณ 3-5 นาทีเท่านั้น
ลักษณะของเนื้อหมูที่ปิ้งด้วยระบบไร้ควันเนื้อจะนิ่มอ่อนนุ่ม เมื่อเปรียบเทียบกับเตาปิ้งย่างที่ใช้กันทั่วไปนั้น เตาปิ้งย่างไร้ควันต้นแบบ สามารถประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายได้ประมาณร้อยละ 70 ประหยัดถ่านได้ปีละ 650 กิโลกรัม ราคาต้นทุนสร้างเตาปิ้งย่างไร้ควันต้นแบบประมาณ 5,000 บาท อายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 6-7 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา
หากผู้บริโภคหรือผู้ที่ซื้อหมูปิ้งย่างไม่สังเกตลักษณะของเตารูปแบบใหม่ไร้ควัน กับเตาแบบเดิมที่ใช้กันอยู่และเกิดควันขึ้นมากมายนั้น ผู้บริโภคก็จะไม่ทราบและเห็นความแตกต่างกัน จึงเกิดแนวคิดการออกแบบรถเข็น หรือรถที่จะใช้เตาปิ้งย่างแบบไร้ควันวางอยู่บนรถเข็นไปขายนั้น จึงได้ออกแบบให้ดูเด่น สะดุดตาแก่ผู้พบเห็น ทำให้มีผู้สนใจเดินเข้าไปหาซื้อหมูปิ้งเป็นจำนวนมาก เพราะหมูปิ้งย่างบนเตาไร้ควันจะไม่เกิดโทษจากสารก่อมะเร็ง เป็นการช่วยรักษาสภาพแวดล้อมด้วย สำหรับการสร้างรถเข็นให้เป็นสิ่งจูงใจ ต้องใช้งบประมาณ 15,000 บาท หากรวมทั้งเตาและรถเข็นแบบนี้ ราคารวมแล้ว 20,000 บาท
สำหรับประชาชนที่ต้องการประกอบอาชีพการปิ้งย่าง สนใจสั่งซื้อเฉพาะตัวเตาปิ้งย่างไร้ควัน หรือพร้อมรถเข็น หรือขอแบบแปลนการสร้างเตาไร้ควันเพื่อนำไปทำใช้เอง ติดต่อได้ที่ศูนย์วิจัยพลังงาน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โทรศัพท์ 0-5349-8168 หรือ 08-1531-5376 หรือที่สำนักวิชาการพลังงานภาค 10 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ถนนโชตนา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0-5311-2588-91 หรือ www.region10.m-energy.go.th