ที่มา | เทคโนโลยีการเกษตร |
---|---|
ผู้เขียน | กัลยดา ชุ่มอินทรจักร |
เผยแพร่ |
บ้านสวนอันร่มรื่นที่ซ่อนอยู่ในตัวเมืองลำปาง มีซุ้มหน้าร้านที่มุงด้วยตองตึง ซึ่งเป็นใบไม้ที่ร่วงจากต้นไม้ใหญ่ในป่าประเภทเดียวกับต้นเหียง โดยนำมาเรียงร้อยเป็นแผงคล้ายๆ หลังคาที่มุงด้วยต้นจาก และยังเป็นร้านกาแฟ ชื่อว่า กาแฟดอย สโลบาร์ กาแฟดริปแบบบ้านๆ บ้านสวนเฮือนจันทร์ ได้พบกับเจ้าของบ้านวัย 64 ปี ชื่อว่า คุณจันศิริ ดวงคำปัน ที่มีบุคลิกดีดูทะมัดทะแมงและแข็งแรง แววตาที่เปี่ยมด้วยพลังและความเมตตา

ที่ร้านบ้านสวนเฮือนจันทร์ ขายทั้งกาแฟสด ถ้วยละ 20 บาท ยังสอนให้ผู้ที่ต้องการเรียนรู้เรื่องกาแฟฟรีอีกด้วย และนำส่วนผสมของไม้ขอนเห็ดลมที่แก่และแห้งบนขอนไม้มาประดับร้าน ทำให้ดูร่มรื่นและเย็นตา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณแยกหัวเวียง กลางเมืองลำปาง คุณจันศิริ ดวงคำปัน เปิดเผยว่า กำลังดีใจมากที่เห็นผลผลิต คือ “เห็ดลมป่า” ที่ทำไว้ในสวนออกดอกเยอะเป็นพิเศษในปีนี้ ทำมาเป็นปีที่ 4 แล้ว ครั้งนี้ไม้ทุกท่อนหรือทุกขอน เห็ดลมป่าออกดอกสะพรั่งสวยงาม โดยปีนี้ออกเยอะมากคงกินไม่หมด ต้องแบ่งปันและขายด้วย
เป็นศาสตร์การเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติ

หลังจากที่ผ่านมา คุณจันศิริสะสมประสบการณ์ตรงจากการเรียนรู้และเป็นคนช่างสังเกต พอถึงช่วงหนึ่งของชีวิตหลังจากสะสมประสบการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากมาย มองเห็นว่าการอยู่กับธรรมชาติบ้านเกิดนั้นเหมาะกับเธอที่สุด และเป็นผู้ที่ต่อต้านการปลูกพืชแบบใหม่ๆ ภายใต้สัญญาการรับซื้อคืน ด้วยการซื้อต้นพันธุ์ที่มีราคาแพงลิ่ว คุณจันศิริไม่เห็นด้วย คุณจันศิริกังวลว่าจะเป็นการหลอกลวงชาวบ้าน ด้วยความจริงใจต่อชาวบ้านและประสบการณ์ที่พบกับนายทุนต่างๆ ที่มาเอาเงินจากชาวบ้านที่จนอยู่แล้ว ยังจะต้องมาแบกหนี้เพื่อที่จะซื้อต้นพันธุ์ที่เขานำมาหลอกขายเป็นขบวนการในราคาแพง จนถึงปัจจุบันนี้มีการหลอกลวงหลายรูปแบบ คุณจันศิริจึงเป็นแม่พระเกษตรกรชาวบ้านรวมถึงการต่อต้านการหลอกลวงเรื่องของการเกษตร และการแนะนำเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

“การศึกษาไม่ได้สอนให้คนเก่ง ต่อให้คุณจบสูงๆ มาก็ตาม แต่วิชาชีวิตนี่แหละ ว่าจริงๆ แล้วคุณจะดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างไรให้รอด การให้ความรู้ที่ถูกต้องต่างหากที่จะทำให้คนอยู่รอด ด้วยปณิธานแน่วแน่ว่าจะให้ความรู้และประสบการณ์ที่มี คืนให้แก่สังคมได้เท่าที่ทำได้” คุณจันศิริเธอกล่าว
เห็ดลม หรือ เห็ดกระด้าง ของชาวอีสาน เป็นที่รู้กันถึงรสชาติความอร่อย เหมือนมีผงชูรสในตัวเวลานำไปทำกับข้าว เห็ดลมอ่อนนั้นจะมีรสชาติเหนียวนุ่มหนึบๆ ส่วนเห็ดลมแก่นอกจากนำมาเพาะพันธุ์ต่อยอดแล้ว ชาวเหนือยังนำไปแช่น้ำหั่นเป็นเส้นตามขวางใส่แกงแค เป็นความสมบูรณ์แบบของแกงแค ถ้าขาดเห็ดลมแก่นี้ จะทำให้รสชาติด้อยลงหรือไม่เต็มรสชาติของแกงแค

การเพาะเห็ดลมด้วยต้นทุนหลักพันบาท
เห็ดหลายชนิดที่เกิดจากธรรมชาตินั้นมีอยู่แล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็จะรู้ดีที่สุด ตามธรรมชาติของเห็ดทุกชนิดจะมีเชื้อเห็ดหรือสปอร์เพื่อการขยายพันธุ์อยู่แล้ว คุณจันศิริจึงเอาแนวคิดจากชาวบ้านมาต่อยอดในการที่จะเพาะเห็ดลมที่เลียนแบบธรรมชาติในบ้านในสวน ก็ปรึกษากับชาวพื้นบ้านเรานี่แหละนำเชื้อเห็ดมาเพาะตามแบบธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้โรงเรือน เพราะธรรมชาติของเห็ดอยู่ใต้ต้นไม้ในที่ร่มอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องสร้างโรงเรือน
การเพาะเห็ดลมนั้นใช้ต้นทุนต่ำมาก รวมถึงเห็ดอีกหลายชนิดที่สามารถนำมาเพาะต่อยอดได้โดยใช้หลักการเลียนแบบธรรมชาติ แต่ยกมาเพาะใกล้ตัวใกล้มือ

ท่อนไม้ที่เหมาะสำหรับการเพาะเห็ดนั้น ใช้ไม้เนื้ออ่อนดีที่สุด เช่น ไม้มะม่วง ไม้ฉำฉา หรือไม้ที่ขึ้นตามป่าละเมาะ ยกเว้นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้ลำไย ไม้มะขาม (ความเปรี้ยวของเนื้อไม้ไม่เหมาะต่อการสร้างสปอร์ของเห็ด)
เพาะครั้งเดียว เก็บผลผลิตได้ 3 ปี

การเพาะเห็ดลมในระยะเริ่มแรกจะใช้เวลานานหลายเดือน แต่หลังจากท่อนไม้มีเชื้อเห็ดแล้วจะคุ้มค่าแก่การรอคอย โดยเริ่มใส่เชื้อเห็ดบนขอนไม้เดือนมกราคม นับไปอีก 8 เดือน ก็จะเริ่มให้ดอกหรือผลผลิตแล้ว โดยเฉพาะหน้าหนาวของบ้านเรายิ่งจะออกเยอะ เพราะชอบอากาศเย็น เห็ดลมจะให้ผลผลิตไปเรื่อยๆ เพาะครั้งเดียวให้ผลผลิตนานถึง 3 ปี หลังจากนั้นตัวของเนื้อไม้ยังนำมาประดับร้าน ประดับสวนได้ดูสวยและดูเย็นตา คุณจันศิริจึงนำไม้เพาะเห็ดที่อายุครบ 3 ปี ก็ยังมีผลผลิตอีกเพราะเชื้อเห็ดหรือสปอร์เห็ดยังอยู่ ก็จะปล่อยให้เขาแก่จัด ก็จะนำมาขายเพื่อการตกแต่งได้อีกด้วย ในราคาท่อนละ 1,500-2,000 บาท ความยาวประมาณ 1-1.5 เมตร เป็นที่นิยมของผู้ที่ต้องการจัดสวนเลียนแบบธรรมชาติเป็นอย่างดี
การเพาะเชื้อเห็ดที่นำสปอร์เห็ดมาจากเห็ดลมป่าจะมีรสชาติดีกว่าเพาะมาจากเชื้อเห็ดทั่วไป ราคาเห็ดลมอยู่ที่กิโลกรัมละ 300 บาท เป็นเห็ดที่ค่อนข้างได้ราคาดี

“เรื่องของเชื้อเห็ดจากป่าเป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านที่มีการรักษาสปอร์ของเห็ดไว้ เหมือนรักษาเมล็ดพันธุ์พืชเพื่อการเกษตรในครั้งต่อไป คุณจันศิริมีหน้าที่นำสปอร์มาเพาะแบบเลียนแบบธรรมชาติ โดยการนำเชื้อเห็ดมาใส่ในรูไม้ที่เราเจาะไว้ ใส่เชื้อเห็ดและปิดปากรูไว้ ใช้วัสดุ เช่น เศษไม้มาปิด ที่นี่เราใช้ปูนซีเมนต์ปิด เชื้อเห็ดเขาก็จะเดินของเขาภายในเอง เพาะแบบลืมๆ ไปจนถึงเดือนที่ 8 ยังมีฝนอยู่ก็เริ่มที่จะให้ดอกเห็ด จนถึงเดี๋ยวนี้เดือนพฤศจิกายนก็ยังคงมีดอกเป็นที่น่าชื่นใจที่ได้เห็นผลผลิต และยินดีที่จะแนะนำท่านที่สนใจ ส่วนการนำเชื้อเห็ดมาเพาะนั้นเป็นภูมิปัญญาของชาวบ้าน เป็นแนวคิดและวิธีการตามวิถีของแต่ละท้องถิ่น” เจ้าของบอก

เห็ดลม หรือ เห็ดกระด้าง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Lentinus polychrous Lèv. เป็นเห็ดที่เจริญบนซากกิ่งไม้หรือขอนไม้ นิยมนำมากิน โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือของไทย เห็ดกระด้าง (เห็ดลม เห็ดบด) มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง แก้ไข้พิษ รวมทั้งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
ขั้นตอนและอุปกรณ์การเพาะเห็ดลมป่า
วัสดุอุปกรณ์
1. ขอนไม้มะม่วง ไม้เต็ง ไม้รัง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4-6 นิ้ว ยาว 1-1.50 เมตร
2.เชื้อเห็ดหรือสปอร์เห็ดลมแก่
3.ทราย
4.ปูนซีเมนต์
5.สว่าน
6.ไม้สำหรับอัดกดเชื้อเห็ด
วิธีทำ

- ใช้สว่านไฟฟ้า ขนาด 5-6 หุน เจาะขอนไม้ที่เตรียมไว้เป็นรู ให้มีความลึกประมาณ 2-4 เซนติเมตร โดยทำเป็นแถวๆ ตามความยาวของไม้ และให้แต่ละแถวห่างกันประมาณ 10-15 เซนติเมตร แต่ละขอนเจาะรูจำนวนเท่ากัน
- นำเชื้อเห็ดที่เตรียมไว้ยัดใส่ลงไปในรูที่เจาะจนเต็ม แล้วใช้ไม้ขนาดเท่ารูกดและดันเชื้อเห็ดให้แน่นจนเต็มรู
- ใช้ปูนซีเมนต์ผสมทราย อัตราส่วน 1 : 1 คลุกน้ำหมาดๆ ปิดขอนเห็ดที่ใส่เชื้อเห็ดแล้ว
4.นำขอนเห็ดไปเก็บพักไว้ในที่ร่มใต้ต้นไม้เพื่อเป็นการบ่มเชื้อเห็ด และถ้าอากาศแห้งควรรดน้ำให้ขอนเห็ด ประมาณ 10-15 วัน ต่อครั้ง
- การบ่มเชื้อ เมื่อฝังเชื้อเห็ดเข้าไปในขอนไม้เสร็จแล้ว ให้นำขอนไม้ไปเก็บพักไว้ในที่ร่มใต้ต้นไม้ โดยวางขอนไม้ให้เป็นชั้นซ้อนกันเป็นสี่ด้าน ไม่ให้ถูกแสงแดดและถูกลมพัด เพราะจะทำให้ขอนไม้แห้งเร็วเกินไป เชื้อเห็ดจะเจริญขยายเส้นใยไม่ได้เต็มที่ โดยวางเรียงขอนไม้ซ้อนกันขึ้น การบ่มพักเชื้อจะใช้เวลานาน 8 เดือน หรืออาจจะนานกว่านี้ ขึ้นอยู่กับขนาดของขอนไม้และชนิดของไม้ ถ้าขอนไม้ใหญ่ใช้เวลานานขึ้น โดยเชื้อเห็ดจะอาศัยน้ำเลี้ยงจากเปลือกไม้เป็นอาหาร ดังนั้น ถ้าขอนไม้แห้งเร็วเกินไปควรรดน้ำช่วยบ้าง 10-15 วัน ต่อครั้ง
- การเปิดดอกหรือการทำให้เห็ดเกิดดอก เมื่อเชื้อเห็ดเจริญได้ที่และเปลือกไม้เริ่มผุจนย่างเข้าถึงฤดูฝน เห็ดก็จะออกดอกขึ้นมาเอง โดยไม่ต้องรดน้ำ ปล่อยให้เห็ดเกิดดอกตามธรรมชาติ ซึ่งผลปรากฏว่า เห็ดออกดอกได้ปีละ 3-5 ครั้ง และผลผลิตต่อขอนก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นกว่าเดิมมาก โดยช่วงเวลาที่เห็ดออกดอกได้ดีเป็นช่วงเวลากลางคืนถึงเช้ามืด ตามธรรมชาติเห็ดทั้ง 2 ชนิด มักพบขึ้นตามขอนไม้ที่ผุพังหักโค่น และเป็นไม้เนื้อแข็งในป่าเขตร้อนชื้น เช่น ไม้เต็ง รัง เหียง ตะเคียน และไม้กระบาก ไม้มะม่วงถือว่าเป็นไม้เนื้ออ่อนใช้ได้หมด
เห็ดลม หรือ เห็ดกระด้าง มักจะพบในช่วงฤดูร้อนต่อฤดูฝนหรือฤดูฝนต่อฤดูหนาว ที่อุณหภูมิกลางวันและกลางคืนต่างกันมากๆ เป็นเห็ดพื้นเมืองที่มีรสชาติดี ให้คุณค่าทางอาหารสูง นิยมบริโภคในขณะที่ดอกยังอ่อน เพราะจะกรุบเหนียว ลื่นลิ้น ให้ความรู้สึกในการกินคล้ายเนื้อสัตว์ เมื่อแก่จะเหนียวและแข็ง ให้รสชาติหวานเหนียวเล็กน้อย

สอบถามเพิ่มเติมปรึกษาได้ที่ คุณจันศิริ ดวงคำปัน บ้านสวนเฮือนจันทร์ เลขที่ 292/2 ถนนพหลโยธิน ตำบลหัวเวียง อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง 52000 เบอร์โทร. 099-218-2595