มารู้จัก “Chicken Town” ฟาร์มเพาะ-ขายไก่สวยงามต่างประเทศที่แปลก สวยงาม หายาก ชวนให้หลงใหล

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไก่สวยงามจากต่างประเทศเป็นที่นิยมเลี้ยงเพิ่มมากขึ้น เพื่อหวังตอบสนองรสนิยมที่หลากหลายของคนที่ชอบเลี้ยงหรือสะสมไก่สวยงามและชื่นชอบความแปลก น่ารัก เป็นงานอดิเรก หรือทำเป็นอาชีพสร้างรายได้

คุณศักดา บรรพจุลจินดา หรือคุณนิ้ง เจ้าของ“Chicken Town”

ไก่สวยงามต่างประเทศที่กำลังฮ็อตฮิตตอนนี้คือ ซิลกี้และโปแลนด์ ซึ่งทั้งสองพันธุ์มีรูปร่างลักษณะเด่นเฉพาะ สร้างจุดสนใจให้แก่ผู้พบเห็น ขณะเดียวกัน กระบวนการเพาะเลี้ยงดูแลให้เจริญเติบโตสมบูรณ์ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ทักษะ ประสบการณ์ จึงไม่แปลกที่มีราคาสูง หากผู้สนใจทำเป็นอาชีพดูแลใส่ใจอย่างจริงจังสามารถสร้างรายได้อย่างมาก

ลานสนามหญ้าปล่อยให้ไก่ออกมาวิ่งเล่น เป็นการผ่อนคลาย

“Chicken Town” เป็นฟาร์มเพาะ-ขายไก่สวยงามต่างประเทศหลายชนิดที่เน้นความแปลก สวย หายาก ทั้งยังจัดเป็นโชว์รูมสำหรับการซื้อขายแลกเปลี่ยนไก่ทั้งในและต่างประเทศในบางโอกาส ขณะเดียวกัน ยังจัดให้มีกิจกรรมเข้าเยี่ยมชมฟาร์ม สัมผัสใกล้ชิดกับไก่สวยงามหลายสายพันธุ์ พร้อมเหล่าสัตว์อื่นอีกมากมาย ตลอดจนร่วมสนุกกับความบันเทิงหลากหลายแบบฟรี ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ พร้อมกับเติมความเหนื่อยได้ที่โซน Chicken Town Café & FARM คาเฟ่ขนาดเล็กภายในฟาร์มที่มีบริการอาหาร/เครื่องดื่มด้วย

เปรียบขนาดตัวระหว่างไก่ชนยักษ์บราซิลกับไก่ชนแคระอังกฤษ

คุณศักดา บรรพจุลจินดา หรือ คุณนิ้ง เจ้าของ “Chicken Town” หนุ่มอารมณ์ดีที่ทำงานแบบมีหลักการ ซึ่งในอดีตเคยเป็นมนุษย์เงินเดือน และผ่านงานบริหารการตลาดมาหลายแห่ง กระทั่งผันตัวเองมาเลี้ยงไก่สวยงามต่างประเทศเป็นอาชีพเพราะมีรายได้ดีกว่า

ไก่ชนอินเดียปากนกแก้ว ที่มีราคานำเข้าสูงสุดในฟาร์ม ตัวละ 30,000 50,000 บาท

เส้นทางเลี้ยงไก่สวยงามต่างประเทศของคุณนิ้งดำเนินไปอย่างเป็นขั้นตอน เริ่มต้นด้วยการใช้บ้านพักย่านบางบัวทองเป็นฟาร์มย่อมๆ หาซื้อพันธุ์ซิลกี้ที่มีขายในประเทศแล้วนำมาเพาะ-ขายก่อน พอมีลูกค้าสนใจมากขึ้น จึงเพิ่มอีกสายพันธุ์คือโปแลนด์ หลังจากประชากรไก่ทั้งสองเพิ่มมากขึ้น จนทำให้สถานที่ดูคับแคบจึงตัดสินใจขยับจากบ้านเก่าแล้วย้ายมาสร้างฟาร์มแห่งใหม่บนพื้นที่ 5 ไร่ อยู่ที่ลาดยาว นครสวรรค์ ซึ่งเป็นที่ดินของครอบครัวเมื่อปี 2562 แล้วทยอยสั่งสายพันธุ์ไก่สวยงามจากต่างประเทศที่คัดสรรว่ามีความแปลก เด่น เข้ามาเลี้ยงในฟาร์ม

ไก่ยักษ์บราม่า King Of Chicken จากตุรกี

“Chicken Town” เปิดฟาร์มเป็นทางการเมื่อปี 2563 จากเดิมที่มีสายพันธุ์อยู่ 2 ชนิด สั่งมาเพิ่มเป็น 20 ชนิด ด้วยการทำการบ้านอย่างหนักเพื่อดูว่าในประเทศทั่วโลกมีไก่พันธุ์อะไรบ้างที่มีลักษณะความแปลก เด่น หายาก โดยนำเข้ามาทั้งแบบเป็นตัวและไข่ พร้อมกับวางแผนทำเป็นโชว์รูมเพื่อซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยน ตลอดจนยังใช้เป็นสถานที่สำหรับศึกษาเรียนรู้ให้แก่ผู้สนใจจะเลี้ยงเล่นหรือเลี้ยงเป็นอาชีพ

ไก่วายด็อทจากเบลเยี่ยม

คุณนิ้งให้รายละเอียดเกี่ยวกับการปรับวิธีเลี้ยงไก่ต่างประเทศที่คุ้นเคยกับสภาพอากาศหนาวเย็นแล้วนำมาเลี้ยงในไทย อย่างไก่ซิลกี้ที่สั่งจากอเมริกาเป็นไก่ที่มีขนมากเพราะอากาศหนาวต้องปรับวิธีเลี้ยงด้วยการเปิดพัดลมตลอดเวลา เพื่อให้ร่างกายค่อยๆ ปรับความสมดุล วิธีนี้ใช้เวลาประมาณ 2 เดือนก็สามารถสร้างความคุ้นเคยกับสภาพอากาศในบ้านเราได้ แล้วสามารถผสมพันธุ์ออกลูกหลานได้

ไก่ออพิงตันจากอังกฤษ

“จนทุกวันนี้ ซิลกี้ทุกตัวเป็นสายพันธุ์ที่เกิดและโตในไทย ซึ่งมีลักษณะคุณสมบัติครบถ้วน ทั้งรูปร่าง ขน และจุดเด่นเช่นเดียวกับพันธุ์ดั้งเดิมของอเมริกา ที่เพิ่มเติมคือมีความแข็งแรงและสามารถอยู่ในสภาพอากาศในประเทศไทยอย่างสบาย มีกิจกรรมทุกอย่างได้เช่นเดียวกับไก่ไทย ส่วนสายพันธุ์อื่นใช้วิธีเลี้ยงแบบเดียวกัน ดังนั้น ทุกวันนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องสั่งพันธุ์จากต่างประเทศมาอีก”

ซิลค์กี้อเมริกา

คุณนิ้งมีหลักการเลือกซื้อไก่จากต่างประเทศโดยพิจารณาจากความแปลกหายากและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น โดยอันดับไก่ที่ขายดีของ Chicken Town คือซิลกี้, โปแลนด์, ไก่ยักษ์บราม่า King of Chicken นำเข้าจากตุรกี (โด่งดังที่สุดในโลก), ไก่ซีไปรท์ (ที่มีลวดลายเหมือนเกล็ดปลา ซึ่งทางจีนเรียก เกล็ดมังกร มีสีเงินและทอง จึงเรียกมังกรเงินและทอง ซึ่งได้รับความนิยมมาก), ไก่ชนยักษ์บราซิล นับเป็นไก่ชนที่มีรูปร่างสูงที่สุดในโลก แล้วถ้าโตเต็มที่มีความสูงถึง 1 เมตร และอีกชนิดที่แปลกคือ ไก่หน้าขาวสเปน ที่มีใบหน้าขาวคล้ายผีเกาหลี ตัวดำเป็นพันธุ์ที่ตลาดบ้านเราสนใจไม่น้อย

ไก่ชนแคระอังกฤษ ตัวเท่านกพิราบ

“อย่างไรก็ตาม กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของสายพันธุ์ที่นำเข้าสามารถเพาะ-ขยายพันธุ์ได้อย่างสมบูรณ์ อัตราส่วนพ่อ-แม่พันธุ์ ของไก่แต่ละชนิดจำนวนไม่เท่ากัน ถ้าซิลกี้มีพ่อพันธุ์ 10 ตัว แม่พันธุ์ 20 ตัว หรือ 1 : 2 เป็นอัตราส่วนที่ทำให้เชื้อพ่อพันธุ์สมบูรณ์ แข็งแรง ส่วนพันธุ์อื่นมีอัตราส่วน 2 : 3 หรือ 2 : 4 ขึ้นอยู่กับจำนวน โดยทั้งฟาร์มมีพ่อ-แม่พันธุ์ที่สมบูรณ์พร้อมผสมราว 200 ตัว”

ไก่ดำอินโดนีเซีย

คุณนิ้ง บอกว่า ไก่สวยงามต่างประเทศแต่ละสายพันธุ์มีระยะเจริญพันธุ์ไม่เท่ากัน แต่จะอยู่เฉลี่ย 5-8 เดือน ไก่ที่โตและพร้อมผสมพันธุ์เร็วที่สุดคือกลุ่มไก่ชน และช้าที่สุดคือซิลกี้ และจำนวนการตกไข่ของแต่ละสายพันธุ์มีความต่างกัน อย่างสเปนหน้าขาวตกไข่วันละฟอง หรือรอบละ 10-12 ฟอง ส่วนซิลกี้ตกไข่วันเว้นวัน

หลังจากได้ไข่จากการผสมพันธุ์แล้วจะนำไข่ทั้งหมดเข้าตู้ฟักอัตโนมัติเพราะสามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นได้ตามต้องการ ทำให้คุณภาพการฟักได้ผลสมบูรณ์เต็มที่ ลดปัญหาการสูญเสีย ขณะเดียวกัน ยังไม่ต้องให้แม่ไก่เสียเวลาไปกับการกกไข่ถึง 20 วัน แล้วเลี้ยงลูกอีก 1 เดือน จึงทำให้แม่ไก่สามารถไปผสมพันธุ์ต่อได้อีก เป็นข้อดีคือได้อัตราผลผลิตจำนวนมากในเวลารวดเร็ว

ไก่ดิเอนเวอร์จากเบลเยี่ยม

หลังจากไข่ฟักเป็นตัวในตู้แล้วจะอยู่ต่ออีก 2-3 วันเพื่อให้ตัวแห้ง จึงย้ายมาอยู่ในกรงอนุบาลที่มีแสงไฟส่อง อุณหภูมิประมาณ 30 องศาเพื่อให้อุ่น เป็นระดับอุณหภูมิพอเหมาะที่ลูกไก่จะสบายตัว ร่าเริง ทั้งนี้ ให้อยู่กับไฟเพียง 7 วัน จึงย้ายออกมาอยู่ในสภาพอากาศปกติ แต่หากช่วงนั้นอุณหภูมิภายนอกเย็น อาจต้องให้อยู่ต่อไปตามที่เหมาะสม

สำหรับอาหารใช้เป็นสูตรลูกไก่ที่มีขายทั่วไป ยี่ห้ออะไรก็ได้ไม่แตกต่าง เพียงแต่ต้องการให้เน้นประเภทโปรตีนเพื่อเสริมโครงสร้างให้เนื้อแน่น ขนดกสวย ส่วนอาหารไก่โต โดยเฉพาะตัวที่พร้อมผสมพันธุ์จะเน้นอาหารไก่ไข่ เพราะแม่พันธุ์ต้องให้อาหารประเภทแคลเซียมสูง เพื่อผลิตไข่ให้มีความสมบูรณ์แข็งแรง ขณะเดียวกัน ต้องมีอาหารเสริม อย่างหนอน แมลง ไข่ต้ม อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง พร้อมกับผสมวิตามินลงในน้ำอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เพื่อสร้างความสดชื่นและเสริมภูมิต้านทาน

ไก่ลาเค่น จากเยอรมัน

“Chicken Town” ออกแบบฟาร์มที่มีความต่าง ให้มีลักษณะคล้ายสนามกีฬา ตั้งชื่อว่า Chicken Stadium ขนาดพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร มีกรงล้อมรอบ 4 ด้าน แต่ละกรงมีขนาด 3 คูณ 3.5 เมตร มีขนาดใหญ่เพื่อให้ไก่อยู่อย่างสบาย เดินไปมาได้โดยไม่แออัด ไม่เครียด ตรงกลางเป็นลานสนามหญ้าเพื่อปล่อยให้ไก่ออกมาวิ่งเล่น เป็นการผ่อนคลาย ทั้งยังใช้ทำกิจกรรมต้อนรับคณะผู้เดินทางเข้ามาเที่ยวในฟาร์มในแบบกลุ่มหรือครอบครัวจำนวนมาก ในทุกวันเสาร์-อาทิตย์ บริเวณโดยรอบยังได้ปลูกต้นไม้เล็ก-ใหญ่ เพื่อให้เกิดร่มเงา มีความร่มเย็น

ไก่หน้าขาวสเปน

การขายไก่ โดยส่วนมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ขายในประเทศ เป็นไก่อายุตั้งแต่ 1 ถึง 1 เดือนครึ่ง ราคาแต่ละพันธุ์ต่างกัน เช่น โปแลนด์ที่แบ่งเป็นสองเกรดคือ สีพื้นกับสีพัฒนา โดยสีพื้นราคาตัวละ 200 บาท และสีพัฒนาราคาเริ่มต้นที่ตัวละ 500 บาท สำหรับซิลกี้ไก่พระเอกของฟาร์มกำหนดราคาไว้ดังนี้ ถ้าอายุ 1 เดือนราคาตัวละ 500 บาท, 1 เดือนครึ่ง ถึง 2 เดือน ราคาตัวละ 800 บาทหรือคู่ละ 1,500 บาท สำหรับไก่สเปนหน้าขาว ไก่ชนยักษ์ ไก่ออพิงตันจากอังกฤษ ที่อายุ 1 เดือนขึ้นไป ราคาตัวละ 1,000-1,500 บาท สำหรับตลาดต่างประเทศมักขายเป็นไก่โต เป็นไก่หนุ่มสาวหรือพ่อ-แม่พันธุ์ ลูกค้ามีทั้งประเทศเพื่อนบ้าน หรืออินเดียกับจีน โดยเฉพาะทางจีนกำลังนิยมไก่สวยงามจากไทยอย่างมาก

คุณนิ้งกับไก่หายากและไก่ที่กำลังได้รับความนิยมสูงในตอนนี้

คำแนะนำสำหรับผู้เลี้ยงมือใหม่ คุณนิ้ง บอกว่า ควรเริ่มซื้อไก่ที่มีอายุประมาณ 1 เดือนครึ่ง เนื่องจากวัยนี้มีความแข็งแรง ควรเลี้ยงในพื้นที่จำกัดก่อน ไม่ว่าจะเป็นกรงหรือคอกเพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์อื่น ควรระวังเรื่องฝนกับยุง โดยเฉพาะตอนกลางคืน เพราะลูกไก่ยังมีภูมิต้านทานต่ำ แต่พอเลี้ยงไปจนถึงอายุ 3 เดือน สามารถปล่อยให้มีอิสระภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมย้ำว่าการเลี้ยงไก่วัยเด็กก็เหมือนกับเลี้ยงเด็กน้อย คือขอให้กินอิ่ม นอนอุ่น และอย่าให้โดนฝนเท่านั้น หากลูกค้าที่มีพื้นที่จำกัดควรให้ข้อมูลทางฟาร์มด้วย เนื่องจากลักษณะรูปร่างไก่บางพันธุ์อาจไม่เหมาะสม

ซีไบร์ทจากอังกฤษ

“สำหรับท่านผู้อ่านที่กำลังวางแผนจะเลี้ยงไก่สวยงามต่างประเทศในเบื้องต้นควรศึกษาหาข้อมูลก่อน เพราะมีหลายสายพันธุ์ที่น่าสนใจและแปลก แล้วถ้าอยากเห็นไก่แวะมาเยี่ยมที่ Chicken Town มาดูความสวยงามน่ารักของไก่ก่อนตัดสินใจ หรือท่านใดประสงค์จะเลี้ยงเพื่อหารายได้ก็มาพูดคุยกัน อยากจะบอกว่าตลาดไก่สวยงามต่างประเทศยังเป็นที่ต้องการทั้งในและต่างประเทศ เพียงแต่ขอให้ใส่ใจกับอาชีพให้มาก”

โปแลนด์

สอบถามรายละเอียด ติดต่อโดยตรงได้ที่ คุณนิ้ง โทรศัพท์และไลน์ (081) 405-2612 เฟซบุ๊ก Nink ChickenTown

…………………..

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ.2564