ม.แม่โจ้ ปลูกกัญชาเพื่อวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ที่ให้สารแคนาบินอยด์ที่มีประโยชน์ต่อการแพทย์

เมื่อเร็วๆนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นประธานในพิธีปลูกกัญชาโครงการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กัญชาที่ให้สารแคนาบินอยด์ที่มีประโยชน์ต่อการแพทย์ ซึ่งเป็นการดำเนินงานภายใต้บันทึกความเข้าใจระหว่างมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และบริษัท อีสเทิร์น สเปคตรัม กรุ๊ป โอกาสนี้ คุณธนิสร บุญสูง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทิร์น สเปคตรัม กรุ๊ป จำกัด และทีมงาน รวมถึงคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมเป็นเกียรติในพิธี ณ ศูนย์วิจัยเกษตรใหม่ ฟาร์มมหาวิทยาลัยแม่โจ้

ปัจจุบัน กัญชา ได้รับอนุญาตให้ปลูกเพื่อประโยชน์ทางด้านการแพทย์ภายใต้การกำกับและควบคุมของกฎหมาย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนางานวิจัยที่มุ่งเน้นการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เข้มข้นมีประสิทธิภาพ มาเป็นเครื่องมือสำหรับยกระดับภาคการเกษตร โครงการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กัญชาที่ให้สารแคนนาบินอยด์ที่มีประโยชน์ต่อการแพทย์ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้ร่วมดำเนินการในรูปแบบ PPP ที่มุ่งเน้นวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กัญชาบนฐานเศรษฐกิจชีวภาพ และเป็นแหล่งผลิตสายพันธุ์กัญชาที่สามารถเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมของประเทศ ให้ผลผลิตและคุณภาพผลผลิตที่มีประโยชน์ต่อการแพทย์ที่สูง ตลอดจนเผยแพร่พันธุ์และองค์ความรู้ไปสู่เกษตรกรและผู้ปลูกที่ได้รับอนุญาต อันจะทำให้เกิดความเข้มแข็งและความมั่นคงของระบบการทำการเกษตร ตลอดจนยกระดับเศรษฐกิจให้กับทุกระดับต่อไป

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปรีดา นาเทเวศน์ หัวหน้าโครงการฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “การวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กัญชาจำเป็นต้องมีระบบการควบคุม ตั้งแต่การเพาะปลูก การจัดการธาตุอาหาร โรคแมลง เทคโนโลยีสำหรับการปรับปรุงสายพันธุ์ การวิเคราะห์ทั้งในระดับห้องปฏิบัติการ ตลอดจนสภาพแวดล้อมและปัจจัยที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของกัญชา ดังนั้น โครงการวิจัยในครั้งนี้จึงได้ดำเนินการคลุมทั้ง 3 ระบบ คือ 1) Indoor สำหรับการทำ speed breeding ในการสร้างพันธุ์แท้ 2) Outdoor และ 3) Greenhouse สำหรับการปรับปรุงสายพันธุ์และทดสอบพันธุ์ที่เหมาะสม ทราบปริมาณสารสำคัญแต่ละชนิด เพื่อการนำไปใช้ให้ได้ประโยชน์สูงสุดทางการแพทย์ และสามารถสร้างสายพันธุ์ที่มีศักยภาพสูงตามความต้องการของตลาดได้ เป็นการสร้างแบบมั่นคงทางด้านฐานพันธุกรรมของกัญชาไทย ที่นำไปสู่ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไปในอนาคต”