เผยแพร่	วันพุธที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2564

ต้นแบบแปลงใหญ่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ข้าวโพดเขารวกพัฒนาก้าวไกล” กลุ่มเข้มแข็ง มีการบริหารจัดการผลผลิตที่ดี และบริหารจัดการน้ำใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

เกษตรกรในพื้นที่ ตำบลเขารวก อำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี ส่วนใหญ่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นหลัก ส่งขายพ่อค้าคนกลาง รายได้ไม่เพียงพอต่อสมาชิกในครอบครัว จึงหันมารวมเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ข้าวโพดเขารวกพัฒนาก้าวไกล ปัจจุบัน เป็นอีก 1 กลุ่มตัวอย่าง ความสำเร็จหลังจากที่เข้าร่วมโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่

นายสุริยา ห่วงถวิล ประธานวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ข้าวโพดเขารวกพัฒนาก้าวไกล ตำบลเขารวก อำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า  ปัจจุบัน มีการบริหารจัดการกลุ่มแปลงใหญ่ โดยสมาชิกไม่ต้องจ่ายเงินเลยสักบาท แต่จะหักค่าปัจจัยการผลิตหลังจากที่ขายผลผลิตให้กับบริษัทเอกชนแล้ว หักค่าใช้จ่ายทั้งหมด อาทิ ค่าบริหารจัดการ ค่าปัจจัยการผลิต ค่าธรรมเนียมการขนส่ง หักลบแล้วจะปันผลคืนให้เกษตรกร และทุกครั้งในการจ่ายเงินจะเป็นในรูปแบบโอนเข้าบัญชีทั้งหมด

เพื่อเป็นหลักฐานในการตรวจสอบได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น และกลุ่มมีรายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียมในการซื้อขายผลผลิตผ่านกลุ่มอยู่ที่ 2 เปอร์เซ็นต์ ทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็น การไถ หว่าน หยอดเมล็ดพันธุ์ รวมไปถึงการซื้อเมล็ดพันธุ์นี่ และอีกหนึ่งปัจจัยคือ ค่าธรรมเนียมจากการขายผลผลิตของสมาชิกในกลุ่มจะเก็บตันละ 10 บาท ถ้าเป็นในส่วนของกลุ่มเครือข่าย เก็บตันละ 50 บาท หลังจากหักค่าใช้จ่ายการบริหารจัดการของกลุ่มแล้ว จะเฉลี่ยคืนให้กับเกษตรกรในช่วงถัดไป

โดยการจัดสรรปันส่วนเป็นสวัสดิการสมาชิก อาทิ เสื้อ ประกันชีวิต ทอง โต๊ะจีน โต๊ะประชุม อุปกรณ์สำนักงานทั้งหมด ทุกอย่างที่ใช้ร่วมกันและได้เหมือนกัน และที่สำคัญถ้ากลุ่มไม่มีมาตรฐานการผลิต หรือมาตรฐาน GAP กลุ่มล้มแน่นอน เพราะไม่มีหลักยึด เกษตรกรเก่งหมดทุกคน ก็ต่างคนต่างทำหมด แต่พอทำมาตรฐานทุกคนต้องวิ่งหามาตรฐานในเรื่องของการเตรียมดิน การปลูก การใช้พันธุ์ ทุกคนจะวิ่งเข้าหามาตรฐานทั้งหมด

ในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ข้าวโพดเขารวกพัฒนาก้าวไกล มีการดำเนินการธุรกิจอยู่ 2 อย่างด้วยกัน สำหรับกลุ่มข้าวโพดในฤดูฝนจะปลูกข้าวโพดเมล็ดแห้ง เลือกพันธุ์สายพันธุ์ที่เหมาะกับการใช้เครื่องจักรเก็บเกี่ยวที่มีอายุครบ 120 วัน เพราะมีโปรตีน วิตามีน และเกรดข้าวโพดเป็นเกรดอาหารสัตว์ กลุ่มใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวโพด NK 6253 และ แปซิฟิค 339 กับ 789 ซึ่ง 2 สายพันธุ์นี้ หมาะสมกับการใช้รถเก็บเกี่ยวในแปลงใหญ่ ผลผลิตได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ การบริหารจัดการน้ำของแปลงใหญ่ มีทั้งหมด 4 น้ำ ด้วยกัน น้ำแรก คือ น้ำฝน เราบริหารจัดการน้ำฝน โดยสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ทุกคนต้องมีบ่อเก็บน้ำฝนเป็นของตัวเอง น้ำที่ 2 คือ ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ โดยกรมทรัพยากรน้ำ น้ำที่ 3 คือ น้ำของกลุ่มแปลงใหญ่เอง ใช้น้ำจากระบบโซล่าร์เซลล์เหมือนกัน แต่เป็นน้ำระดับย่อยอีกทีหนึ่ง ไปเติมน้ำใหญ่ที่สามารถใช้ได้ทุกคน น้ำที่ 4 คือ น้ำที่ดึงจากน้ำอ่างเก็บน้ำกุดตาเพชร ทุกคนในกลุ่มพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า การบริหารจัดการเกษตรแบบแปลงใหญ่ จริงๆ ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานของภาครัฐบาล ส่งผลให้เกษตรกรกินดี อยู่ดี มากยิ่งขึ้น