ผู้เขียน | อภิเดช เอ็มเอ็ม |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อถึงหน้าร้อน ผลไม้มาแรงไม่แพ้แสงแดดเลยคือ มะยงชิด ทุเรียน แตงโม มะม่วง มังคุด รวมไปถึง “สละ” แต่ถ้าจะให้ดีต้องพันธุ์ “สุมาลี” เพราะด้วยรสชาติที่หวานกลมกล่อม กลิ่นหอมละมุน กินแล้วสดชื่น ดับกระหาย คลายร้อนได้อย่างแน่นอน คอนเฟิร์ม!

ลุงเอี้ยง หรือ คุณเสนี พานทองชัย เกษตรกรวัย 66 ปี ผู้เป็นเจ้าของสวนพิศมัย ตั้งอยู่ที่ 44/36 หมู่ที่ 3 ตำบลชากไทย อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ที่เห็นช่องทางการหารายได้จากการปลูกสละ เพราะสวนทุเรียนกำลังโทรม จึงเริ่มที่จะนำสละไปปลูกแซม ลุงเอี้ยงเป็นเกษตรกรปลูกทุเรียนมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2536 พึ่งจะเริ่มปลูกสละพันธุ์สุมาลีได้เพียงแค่ 10 ปี โดยเริ่มจากปลูกแค่ 4 ต้นเท่านั้น ลงทุนต้นละ 5,000 บาท ภายหลังได้เพาะพันธุ์เอาเอง จนมีหลายร้อยกอ สร้างรายได้มากถึงปีละ 200,000 กว่าบาท

สละพันธุ์สุมาลี ของลุงเอี้ยง จะมีรสชาติที่หวาน หอม อร่อย แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในช่วงนั้น หากเป็นช่วงฤดูร้อนก็จะมีรสชาติที่ดี หวานได้ใจ แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูฝน รสชาติที่ได้จะมีความเปรี้ยว ไม่ดีเทียบเท่าช่วงฤดูร้อน ทำให้ช่วงเมษายน-พฤษภาคม ลูกค้าที่ติดใจในรสชาติจมาจองหรือมาเด็ดชิมถึงที่สวนเลยทีเดียว
ถึงจะโทร. มาจองได้ แต่ลุงเอี้ยงขอปฏิเสธที่จะส่งให้ เพราะกลัวคุณภาพของสละไม่ดีเมื่อถึงมือลูกค้า อาจเกิดปัญหาขณะขนส่งได้ ลุงเอี้ยงเลยอยากให้มาชิมที่สวนก่อน ถ้ารสชาติหวานถูกใจ ค่อยซื้อกลับบ้านได้ กี่กิโลค่อยว่ากัน แต่ไม่ผิดหวังแน่นอน

ขั้นตอนการดูแล…ลุงเอี้ยง บอกว่า ให้น้ำพร้อมทุเรียน 4 วันให้ครั้ง ครั้งละ 40 นาที ให้น้ำผ่านสปริงเกลอร์ โดยระยะห่างระหว่างต้นจะอยู่ที่ 4×4 เมตร เรื่องปุ๋ยก็ไม่ได้พิเศษอะไรมาก นานๆ ถึงจะให้ที ไม่ได้ให้บ่อยๆ เป็นปุ๋ยที่เหลือจากการให้ทุเรียนแล้วทั้งนั้น ไม่ได้เน้นว่าจะต้องเอาปุ๋ยนั้นปุ๋ยนี้มาใส่ เอาเท่าที่เจ้าของมีจะได้ไม่เสียเงินลงทุนเยอะ แต่ก็มีฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช สละมีศัตรูพืชเป็นด้วงกับมอด ลุงเอี้ยงเลือกใช้สารกำจัดแมลง ส่วนผลเน่าใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อรา เพราะใช้แล้วสละแทบไม่มีเน่า ไร้ศัตรูพืชเข้ามาก่อกวน ทำให้สละเพียงพอต่อการขาย ไม่จำเป็นต้องเด็ดทิ้ง

การผสมเกสร…ลุงเอี้ยงจะใช้ผงเกสรตัวผู้ที่ได้รวบรวมเอาไว้ในถุง นำมาคลุกเข้าให้กับดอกตัวเมีย หรือนำดอกตัวผู้มาเสียบไว้ที่ดอกตัวเมีย โดยใช้หนามของต้นสละเสียบจากข้างๆ ดอกตัวผู้ให้ทะลุไปสู่ดอกตัวเมีย ลุงเอี้ยงจะผสมเกสรวันเว้นวัน หลังจากนั้น 8 เดือน ผลสละจะพร้อมกินได้ทันที รสหวาน เนื้อนุ่ม อร่อย
การโยงสละ…ถ้าไม่โยง ลูกสละจะห้อยลงพื้น ทำให้ทั้งเลอะดิน และทำให้เกิดเชื้อราขึ้นด้วย การโยงไว้จึงเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ และไม่ต้องเสียเวลาเอาไปล้างดินออกอีกด้วย
จุดเด่นสละสวนพิศมัย…เรื่องรสชาติเลย หวาน อร่อย เนื้อนุ่ม ถึงแม้ว่าลูกจะไม่สวยเหมือนของสวนอื่นๆ แต่เรื่องรสชาติไม่เป็นรองใคร การันตีจากการประกวด และได้รับรางวัลด้านความหวาน

ราคาขาย…ขายกิโลกรัมละ 50 บาท ไม่ลด ไม่เพิ่มมา 10 ปีแล้ว เพราะว่าที่สวนไม่ได้เอาออกไปขายข้างนอก ลูกค้ามาซื้อถึงที่ ถึงที่อื่นขายกิโลกรัมละ 70 บาท ลุงจะไม่ตามเขา มันก็ตามเขาไม่ทัน เพราะสละเดี๋ยวราคาขึ้น เดี๋ยวราคาลง
“เอ้า! วันนั้นทำไม 50 ทำไมวันนี้ขึ้น 60 ล่ะ เอ้า! ทำไมวันนี้ 40 วันนั้น 60 เราเลยตั้งกิโลกรัมละ 50 บาท ไว้เป็นหลักเลย แล้วเราจะได้ไม่ต้องไประแวงว่าใครจะขึ้น ใครจะลง มันเรื่องเขา เราไม่สนใจ ราคาแค่นี้ก็พอใจแล้ว เราอยู่ได้ คนกินพอมีเงินซื้อ” ลุงเอี้ยง กล่าว
ท้ายนี้ ลุงเอี้ยงได้ให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจจะเป็นเกษตรกรว่า ไม่ว่าจะปลูกอะไรก็แล้วแต่ ปัจจัยคุณคืออะไร คุณมีน้ำหรือเปล่า ถ้ามีน้ำ คุณสามารถปลูกได้หมดทุกอย่าง แต่ถ้าคุณไม่มีน้ำ คุณปลูกอะไรมันก็ตายหมด ต้องขุดสระไว้ เตรียมไว้เลย นอกจากคุณภาพของสิ่งที่จะปลูกแล้ว “น้ำ” คือสิ่งสำคัญที่สุดของการเป็นเกษตรกร

สำหรับผู้ที่สนใจลิ้มรสความหวานอร่อยของสละพันธุ์สุมาลี สวนพิศมัย สามารถโทร. ติดต่อได้ที่ 087–022–5292 (ลุงเอี้ยง) หรือ 087–150–6811 (ป้าพิศมัย)
…………………………..
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2564