เผยเคล็ดลับ ปลูก “แตงร้าน” เสริมอาชีพ 1 ไร่ ลูกดก น้ำหนักดี ผลไม่งอ เก็บขายได้ทุกวัน!

ประเทศไทยนั้น มีพื้นที่ปลูก “ข้าว” ทั่วทุกภาคมากกว่า 60 ล้านไร่ (ข้อมูล : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ปี 63) ซึ่งปกติการทำนาจะทำในรูปแบบเกษตรเชิงเดี่ยว แต่หากเกษตรกรลองใช้เวลาระหว่างรอผลผลิต ปลูก “พืชระยะสั้น” ปรับรูปแบบการทำเกษตรเป็นเกษตรผสมผสาน เชื่อหรือไม่ว่าแค่พื้นที่เหลือตามหัวไร่ปลายนา ก็อาจสร้าง “รายได้เสริม” หลักหมื่นได้อย่างคาดไม่ถึง

คุณเริงฤทธิ์ แสงเงิน ต.มาบแก อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ หรือ คุณฤทธิ์ วัย 30 ปี เป็นเกษตรกรทำนาบนพื้นที่ 30 ไร่ ที่ได้เริ่มมองหาลู่ทางใหม่ในการสร้างรายได้เสริม โดยตั้งต้นจากพื้นที่โคกปลายนาประมาณ 1-2 ไร่ ลองปลูก “แตงร้าน” ควบคู่ไปกับการทำนา เพราะมองว่าเป็นพืชที่มีอายุเก็บเกี่ยวสั้นเพียง 38-45 วัน และเหมาะกับพื้นที่ที่มีน้ำไม่มากนัก ทั้งนี้ แม้ว่าจะเป็นอาชีพเสริม แต่ก็ต้องศึกษาอย่างจริงจัง เพราะกว่าจะเริ่มปลูกแตงร้าน คุณฤทธิ์ ได้ไปเป็น “ลูกมือ” พี่สาวที่มีประสบการณ์อยู่พักใหญ่ จากนั้นได้นำความรู้ที่ได้มาปรับใช้เข้ากับการเรียนรู้ของตนเอง จนสามารถปลูกแตงร้านได้ผลผลิตสูงถึง 8-10 ตัน/ไร่ สร้างรายได้เฉลี่ย 30,000-50,000 บาท

ทั้งนี้ คุณฤทธิ์ บอกว่า สำหรับการปลูกแตงร้านเป็นอาชีพเสริม รายได้จะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพและปริมาณของผลผลิตเป็นสำคัญ หากเรารักษาคุณภาพของแตงร้านให้ตรงตามความต้องการของตลาด สัดส่วนกำไรก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

ลองไปดูกันว่าเกษตรกรหนุ่มคนนี้มีเคล็ดลับอะไร ที่สามารถทำให้ผลผลิตทั้งดกและดีมีคุณภาพ!

 

“แตงร้าน” พืชอายุสั้น ปลูกได้ทุกพื้นที่
ตลาดต้องการทั้งปี

“แตงร้าน” ถือเป็นพืชตระกูลแตงที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ และได้รับความนิยมบริโภคต่อเนื่องตลอดทั้งปี มีจุดเด่นคือ เป็นพืชใช้น้ำน้อย สามารถปลูกได้ในทุกพื้นที่และทุกฤดู สามารถเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ใน 38-45 วัน เท่านั้น เกษตรกรจึงนิยมปลูกเนื่องจาก เป็นพืชที่สร้างรายได้ทุกวัน เก็บเงินได้ไว

สำหรับแตงร้านที่จำหน่ายในตลาดจะแบ่งออกเป็น 4 เบอร์ คือ “เบอร์สวย, เบอร์รอง, เบอร์ข้อ, และเบอร์ใหญ่”

โดยแตงร้าน “เบอร์สวย” จะมีผลทรงกระบอก ความยาวผลประมาณ 18-20 ซม. ผิวสีเขียวนวลสม่ำเสมอ เนื้อหนา เป็นแตงร้านที่ขายได้ราคาดีที่สุด และเป็นที่ต้องการของตลาดตลอดทั้งปี ส่วน “เบอร์รอง” คือแตงร้านที่ผลงอเล็กน้อย “เบอร์ข้อ” คือแตงร้านที่ผลคดงอชัดเจน สุดท้ายคือ “เบอร์ใหญ่” คือแตงร้านเบอร์สวยที่หลงตาผู้เก็บ จนมีขนาดใหญ่เกิน 20 ซม.

ทั้งนี้ จุดเด่นด้านการตลาดของแตงร้านคือ ผลผลิตนั้นสามารถขายได้ทั้งหมดทุกเบอร์ และหากเกษตรกรสามารถผลิตแตงร้านได้ “เบอร์สวย” มีคุณภาพ พ่อค้าก็อาจจะรับซื้อในราคาสูงกว่าเกษตรกรรายอื่นประมาณกิโลกรัมละ 1-2 บาท เลยทีเดียว

เลือกใช้ “ระบบน้ำหยด”
พืชได้น้ำสม่ำเสมอ-ช่วยประหยัดน้ำ

การให้น้ำ แตงร้านสามารถทำได้หลายวิธี โดยระบบน้ำที่พบบ่อยนั้น ได้แก่ ระบบสปริงเกลอร์, ระบบน้ำหยด เป็นต้น เกษตรกรจะต้องเลือกให้สอดคล้องกับความต้องการของพืช และเหมาะสมกับพื้นที่มากที่สุด

คุณฤทธิ์ เผยว่า “แตงร้าน” นั้นเป็นพืชที่ต้องการน้ำในระดับพอดี ไม่ชอบน้ำท่วมขัง หรือดินแฉะ เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อโรครากเน่าโคนเน่า สมัยที่ตนเองปลูกแตงร้านในระยะแรกนั้นเคยใช้ “ระบบปล่อยน้ำตามร่องปลูก” ตามแบบพี่สาวมาก่อน แต่ปลูกมาสักระยะพบว่า “วัชพืช” เยอะมาก จึงได้ลองเปลี่ยนมาใช้ “ระบบน้ำหยด”

ข้อดีของ “ระบบน้ำหยด” คือ น้ำจะค่อยๆ หยดลงมาที่บริเวณโคนต้นของแตงร้านอย่างช้าๆ และสม่ำเสมอ ช่วยให้ดินมีความชื้นในระดับที่เหมาะสม และที่สำคัญคือ “ประหยัดน้ำ” เพราะน้ำที่ใช้ทำการเกษตรแทบทั้งหมดนั้นสูบมาจากสระน้ำของตนเองเท่านั้น แม้ไม่ได้เจาะน้ำบาดาลเพิ่มก็มีปริมาณน้ำเพียงพอสำหรับการปลูกแตงร้านทั้งปี

“ระบบน้ำหยด” จะประกอบด้วย “ท่อเมน, ท่อเมนย่อย และเทปน้ำหยด” โดยท่อเมนเป็นท่อที่ใช้ลำเลียงน้ำจากปั๊มน้ำไปยังท่อเมนย่อย (ตามภาพ) เพื่อลำเลียงน้ำไปยังสายเทปน้ำหยดอีกต่อหนึ่ง
สายเทปน้ำหยด จะถูกวางไว้บริเวณโคนต้นแตงร้าน น้ำจะหยดซึมลงมาที่บริเวณรากของต้นพืชอย่างช้าๆ และสม่ำเสมอ ช่วยให้ดินมีความชื้นคงที่

“ค้าง” เรื่องพื้นฐานที่ต้องรู้
พลาดแล้ว “พัง” ไม่รู้ตัว

แตงร้านเป็นพืชเถาเลื้อยที่จำเป็นต้องทำ “ค้าง” เพื่อให้เถาสามารถเกาะเกี่ยวได้ โดยรูปแบบของค้างเกษตรกรสามารถพิจารณาตามงบประมาณ และความเหมาะสมของพื้นที่

ซึ่งตามประสบการณ์ของคุณฤทธิ์ เคยใช้ทั้ง “แบบกระโจม” และ “แบบเสาหลัก” ซึ่งก็มีข้อดีแตกต่างกัน “แบบกระโจม” นั้นมีข้อดีหลักเลยคือความคงทนแข็งแรง แต่ก็มีต้นทุนสูง ประกอบกับคุณฤทธิ์ ไม่สะดวกในการก้มเก็บผลแตงร้านภายในซุ้มกระโจม ปัจจุบันจึงเลือกใช้ค้าง “แบบเสาหลัก” แทน

ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเลือกใช้ค้างรูปแบบใด คุณฤทธิ์ มีหลักการสั้นๆ 2 ข้อ คือ ต้อง “ทัน” และ “ทน”

“ทัน” ในที่นี้คือ “ทันเวลา” คุณฤทธิ์ เน้นว่า หลังจากหยอดเมล็ดแตงร้านแล้วประมาณ 7-10 วัน เกษตรกรควรปักค้างตามทันที เพื่อให้ทันกับเวลาที่แตงร้านเริ่มเลื้อยหาที่เกาะ หากเกษตรกรจับเถามาเกาะค้างภายหลัง จะทำให้ลำต้นหักได้

ส่วน “ทน” นั้นคือ “ทนทาน” เนื่องจากผลแตงร้านนั้นมีน้ำหนักมาก และด้วยความที่เสาค้างสูงประมาณ 1.5-2 เมตร ในช่วงฤดูฝน ที่ทั้งดินแฉะมีลมกระโชกแรง อาจทำให้ “ค้างต้านลม” จนล้มพังไปทั้งแถบได้ คุณฤทธิ์ จึงแนะนำว่า เกษตรกรไม่ควรละเลยการตอกเสาค้างให้แน่นหนา เพื่อไม่ให้ผลผลิตเสียหายภายหลัง

คุณฤทธิ์ เลือกใช้ค้างแบบเสาหลัก โดยจะปักเสาค้างไม่เกิน 7 วัน  หลังหยอดเมล็ดแตงร้าน
แตงร้านผลใหญ่ มีน้ำหนักมาก ต้องปักเสาค้างให้มั่นคง และใช้ตาข่ายที่แข็งแรง

“การบำรุงตามระยะ”
เคล็ดลับได้แตงร้าน “เบอร์สวย-ให้ผลผลิตนาน”

“แตงร้าน” สามารถให้ผลผลิตหลังหยอดเมล็ดประมาณ 38-45 วัน และโดยทั่วไปแล้วสามารถเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 15-20 มีด แต่แตงร้านแปลงของคุณฤทธิ์ นั้นสามารถยืดอายุการให้ผลผลิตออกไปถึง 30 มีด แถมยังคงคุณภาพได้แตงร้าน “เบอร์สวย” ในสัดส่วนที่มากไม่ต่างจากมีดแรกๆ
กว่าจะได้ผลลัพธ์แบบนี้ คุณฤทธิ์ เผยถึงหลักการสำคัญ คือ ต้องบำรุงตามระยะการเจริญเติบโต และต้องสม่ำเสมอ เพราะพืชทุกชนิดมีความต้องการธาตุอาหารในแต่ละระยะที่แตกต่างกัน

การบำรุงที่ไม่เหมาะสมกับระยะการเจริญเติบโตของพืช ย่อมได้ผลลัพธ์ไม่ตรงจุด หรือการเร่งบำรุงพืชเพียงบางระยะก็ไม่อาจช่วยให้ได้ผลผลิตสมบูรณ์ไปได้ตลอดได้เช่นกัน

ดังนั้น คุณฤทธิ์ จึงได้แบ่งการบำรุงแตงร้านออกเป็น 4 ช่วง ตามระยะการเจริญเติบโต คือ ระยะเตรียมดิน, ระยะก่อนออกดอก, ระยะติดดอก และระยะเก็บผลผลิต

          • การบำรุงช่วงที่ 1 คือ “ระยะเตรียมดิน

ก่อนปลูกนั้นจะต้องมีการไถพรวนดิน 2 รอบ เพื่อกำจัดวัชพืชและช่วยให้ดินร่วนซุย หลังจากไถพรวนรอบแรกแล้วจะตากดินทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้นจะไถพรวนรอบที่ 2 ตามด้วยการยกร่อง โดยยกร่องสูง ประมาณ 25-30 ซม. ระยะห่างระหว่างแถว 1.2-1.5 เมตร จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนสำคัญคือ “การบำรุงดิน”

คุณฤทธิ์ จะใช้ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 15-15-15 อัตรา 20-25 กก./ไร่ ค่อยๆ โรยไปตามสันร่อง ช่วยเติมธาตุอาหารหลักที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช ทำให้แตงร้านเจริญเติบโตได้ดีในระยะแรก จากนั้นจึงวางสายเทปน้ำหยด ตามด้วยการคลุมดินด้วยพลาสติกคลุมแปลง โดยใช้ระยะห่างระหว่างต้น 30 ซม.

คลุมดินด้วยพลาสติกคลุมแปลง โดยใช้ระยะห่างระหว่างต้น 30 ซม.

เมื่อเสร็จขั้นตอนการเตรียมแปลงทั้งหมดแล้ว ให้ปล่อยน้ำหยดประมาณ 1-2 รอบ และทิ้งระยะไว้ประมาณ 1 วัน ก็สามารถหยอดเมล็ดแตงร้านลงแปลงได้เลย โดยคุณฤทธิ์ นั้นมีเคล็ดลับปิดท้ายคือ ใช้วิธีกลบเมล็ดด้วย “ขี้เถ้า” เพื่อปรับสภาพดินให้เป็นกลาง เนื่องจากค่าความเป็นกรด-ด่าง ของดินนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัยแวดล้อม การรักษาระดับค่าดินให้เป็นกลาง จะช่วยให้พืชสามารถดูดซับธาตุอาหารจากดินได้ดีขึ้น

          • การบำรุงช่วงที่ 2 คือ “ระยะก่อนออกดอก”

หลังแตงร้านอายุได้ประมาณ 7 วัน จะสังเกตเห็น “ใบแท้” เริ่มแตกออกมา ช่วงนี้คุณฤทธิ์ จะใส่ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู วันเว้นวัน โดยปริมาณปุ๋ยนั้นเริ่มตั้งแต่ 5กก./ไร่ และค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 10 กก./ไร่ ในประมาณวันที่ 29 (หลังหยอดเมล็ด)

ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู นั้นมีธาตุอาหารรองและธาตุอาหารเสริม อย่าง “แคลเซียม-โบรอน” ที่คุณฤทธิ์ บอกว่า ช่วยให้ยอดแตงร้านจะเดินดี ต้นแข็งแรง เตรียมความพร้อมสำหรับการติดดอกได้เป็นอย่างดี

แตงร้านอายุประมาณ 7 วัน จะเริ่มมีใบแท้งอก

          • การบำรุงช่วงที่ 3 คือ “ระยะติดดอก-ติดผลเล็ก”

หลังแตงร้านอายุได้ประมาณ 30-34 วัน จะเริ่มติดดอก รวมถึงมีผลขนาดเล็กให้เห็นบ้างแล้วคุณฤทธิ์ จะบำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 15-9-20 อัตรา 10 กก./ไร่ ความถี่วันเว้นวัน เพื่อเร่งสร้างเนื้อเยื้อให้ผลแตงร้านสมบูรณ์ น้ำหนักดี

          • การบำรุงช่วงที่ 4 คือ “ระยะเก็บเกี่ยวผลผลิต”

หลังแตงร้านอายุได้ประมาณ 35-60 วัน เป็นช่วงที่แตงร้านให้ผลผลิต คุณฤทธิ์ ยังคงใส่ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 15-9-20 เช่นเดิม แต่จะปรับเพิ่มปริมาณขึ้นเป็น 15 กก./ไร่ โดยจะเริ่มใส่ตั้งแต่การเก็บเกี่ยวผลผลิตมีดที่ 2 เรื่อยไปจนถึงมีดที่ 20

จากนั้นพอเข้ามีดที่ 21 จะเริ่มลดปริมาณปุ๋ยลงเรื่อยๆ จนถึง 5 กก./ไร่ ในมีดที่ 25 และหลังจากนั้นหยุดใส่ปุ๋ยในที่สุด

ทั้งนี้ คุณฤทธิ์ เน้นว่า “ระยะเก็บเกี่ยวผลผลิต” นั้นถือเป็นช่วงสำคัญที่ต้องบำรุงแตงร้านอย่างต่อเนื่องในทุกๆ วัน เพื่อรักษาระดับความสมบูรณ์ของผลผลิต ได้แตงร้านผลตรงยาวสม่ำเสมอเหมือนกับผลผลิตมีดแรกๆ และช่วยให้แตงร้านสามารถให้ผลผลิตได้นานขึ้น

โดยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 15-9-20 นั้นมีส่วนสำคัญช่วยให้แตงร้านติดผลผลิตดก น้ำหนักดีขึ้นอย่างชัดเจน เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับเกษตรกรรายอื่นจะได้ผลผลิตอยู่ที่ประมาณ 4-6 ตัน/ไร่ แต่แปลงของตนเองนั้นสามารถเก็บได้ถึง 8-10 ตัน/ไร่

ทั้งนี้ การบำรุงแตงร้านหลังจากหยอดเมล็ดเป็นต้นมา (ตั้งแต่ระยะก่อนออกดอก จนถึงระยะเก็บเกี่ยวผลผลิต) คุณฤทธิ์ จะใช้วิธีให้ปุ๋ยผ่านระบบสายน้ำหยดทั้งหมด ดังนั้น ปุ๋ยที่ใช้ในระยะนี้ต้องมีคุณสมบัติสามารถละลายได้ดีเยี่ยม เพื่อไม่ให้กากปุ๋ยอุดตันสายน้ำหยด และพืชได้รับธาตุอาหารครบถ้วน ซึ่งปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 16-16-16 บลู และปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 15-9-20 นั้น ตอบโจทย์การประยุกต์ใช้ผ่านระบบน้ำหยดมาก เนื่องจากละลายไว ไม่ต้องใช้ผ้ากรองกากปุ๋ยก่อนปล่อยผ่านหัวจ่ายน้ำ ช่วยประหยัดเวลาทำงานมากขึ้น

คุณฤทธิ์ กับผลผลิตแตงร้านมีดที่ประมาณ 20 แต่ผลแตงร้านยังคงคุณภาพเหมือนกับมีดแรกๆ และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้นานถึง 30 มีด
ปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 16-16-16 บลู และปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 15-9-20  เม็ดปุ๋ยละลายง่าย  ตอบโจทย์การประยุกต์ใช้ผ่านระบบน้ำหยด
ปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 16-16-16 บลู และปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 15-9-20  เม็ดปุ๋ยละลายง่าย ตอบโจทย์การประยุกต์ใช้ผ่านระบบน้ำหยด

การแต่งแขนง
เทคนิคช่วยลดโรค-แมลง เพิ่มผลผลิตมากขึ้น

การปลูกแตงร้านนั้นไม่ควรปล่อยให้เถาเลื้อยไปอย่างไร้ทิศทาง โดยเฉพาะในระยะแรก ต้องมีการช่วยมัดยอดเถาแตงร้านเข้ากับค้างบ้าง จนกระทั่งแตงร้านเริ่มแตกแขนง คุณฤทธิ์ จะตัดแขนง ข้อที่ 1-3 ทิ้ง (นับจากโคนต้นขึ้นมา) เพื่อให้เถาหลักเป็นทรงพุ่มโปร่ง ลดการสะสมโรคและแมลง และยังช่วยกระตุ้นให้แตงร้านโตไว เดินยอดได้ดี เพิ่มผลิตมากขึ้นอีกด้วย

ผลผลิตได้คุณภาพ ราคาดี
มีผู้มารับซื้อถึงที่

การเก็บเกี่ยวแตงร้านจะทยอยเก็บผลผลิตทุกวัน ไม่ปล่อยให้ผลแก่คาต้น เพราะนอกจากจะทำให้แตงร้านตกไซซ์แล้ว ยังทำให้ผลผลิตโดยรวมลดลงด้วย

หลังจากเก็บแตงร้านแต่ละวันจนเสร็จแล้ว คุณฤทธิ์ ก็จะรวบรวมผลผลิตทั้งหมดมาใส่ลงถุง ถุงละ 10 กก. เพื่อรอพ่อค้ามารับซื้อถึงบ้าน โดยภาพรวมของราคาที่ตนเองเคยเจอนั้น จะอยู่ที่ประมาณ 6-8 บาท/กก. เท่ากับมีรายได้ประมาณ 30,000-50,000 บาท เมื่อหักต้นทุนประมาณ 10,000 บาท/ไร่ ก็ถือว่าเป็นรายได้เสริมที่น่าพอใจ เพราะว่าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งเอง โดยบางช่วงที่ผลผลิตขาดตลาด ราคาอาจพุ่งไปถึง กก.ละ 20 บาท รอบนั้นก็ถึงขั้นจับเงินแสนกันเลยทีเดียว

คุณฤทธิ์ ถือเป็นตัวอย่างของเกษตรกรรุ่นใหม่ ที่มองหาโอกาสจากสิ่งรอบตัวได้เป็นอย่างน่าชื่นชม แม้ว่าพื้นที่แค่ 1 ไร่กว่าๆ อาจดูไม่มากนักสำหรับการทำเกษตร แต่หากมีการเลือกปลูกพืชให้เหมาะสมกับพื้นที่ และความต้องการของตลาด รวมทั้งมีการศึกษาหาความรู้เพื่อพัฒนาผลผลิตอย่างจริงจัง พืชปลูกเสริมอย่าง “แตงร้าน” ก็อาจพลิกโอกาสสร้างรายได้ เทียบเท่ากับอาชีพหลักได้อย่างคาดไม่ถึง

แตงร้าน “เบอร์สวย” ผลทรงกระบอก ความยาวผลประมาณ 18-20 ซม. ผิวสีเขียวนวลสม่ำเสมอ เนื้อหนา เป็นที่ต้องการของตลาดตลอดทั้งปี
แปลงแตงร้านเนื้อที่เพียง 1 ไร่กว่าๆ สามารถสร้างรายได้เสริมหลักหมื่นได้

 


ติดตามข่าวสารอื่นๆ ข้อมูลสินค้า และข่าวสารจากปุ๋ยตรากระต่าย เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: www.facebook.com/puitrakratai/
YouTube: www.youtube.com/c/Puitrakratai
ข้อมูลสินค้าปุ๋ยตรากระต่าย : http://www.chiataigroup.com/business/fertilizer/puitrakratai