ส่อวิกฤติ!! น้ำในคลองเน่าปลาตายเป็นตัน เกษตรกรเดือดร้อนหนักไม่มีน้ำทำการเกษตร

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ชาวบ้านและเกษตรกรในพื้นที่หมู่ 7 ต.ขุนพิทักษ์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจากน้ำในลำคลองเกิดการเน่าเสียใช้ในการเกษตรไม่ได้ และ ปลาหลากหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในคลองธรรมชาติลอยตายจำนวนมาก

นายธำรงค์ พูนทองดีวัฒนา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลขุนพิทักษ์ อ.ดำเนินสะดวก หลังได้รับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบบริเวณลำคลองที่ประชาชนใช้ประโยชน์ พบว่าปลาขนาดใหญ่ลอยตายเกลื่อนเป็นตัน เช่น ปลาตะเพียนขาว ตะเพียนแดง ปลาแขยง ปลาบึก และอื่น ๆ อีกหลายชนิด บางตัวเริ่มลอยหัวขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำ นอกจากนี้น้ำเริ่มส่งกลิ่นเหม็นไปตลอดลำคลอง ส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนดำเนินสะดวกที่ปลูกพืชผัก ผลไม้ อย่างมะนาว ละมุด องุ่น และพืชผักอีกหลายชนิดไม่สามารถใช้น้ำในลำคลองสายนี้ได้

นายธำรงค์ พูนทองดีวัฒนา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลขุนพิทักษ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุการตายของปลาที่ลอยตายอยู่ตลอดคลอง ซึ่งเป็นคลองซอยที่เชื่อมต่อจากคลองซินแซครก และคลองรางห้าตำลึง ซึ่งจะไหลเชื่อมต่อคลองในตำบลดอนมโนรา จ.สมุทรสงคราม และยังเชื่อมต่อคลองในตำบลโรงเข้ จังหวัดสมุทรสาครอีกด้วย จากการตรวจสอบตั้งแต่ต้นคลองจนถึงปลายคลองก็พบปลาขนาดใหญ่ เช่น ปลาตะเพียน และปลาบึกลอยตายเป็นจำนวนมากนอกจากนี้ยังมีสีดำคล้ำและมีกลิ่นเหม็นปะปนมาด้วย พร้อมกับแจ้งชาวบ้านและเกษตรกรที่อยู่ริมคลองให้ช่วยกันนำสวิงช้อนปลาที่ลอยตายขึ้นจากน้ำเพื่อลดผลกระทบ และกลิ่นเหม็นในพื้นที่ หลังจากนั้นจะได้แจ้งให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมจังหวัดทราบ เพื่อเร่งตรวจสอบพร้อมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว

ด้านนายมาน้อม วรรณศิริ อายุ 65 ปี เกษตรกรผู้ปลูกมะนาว เปิดเผยว่า ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีโรงงานปล่อยน้ำเสียออกมา ที่ผ่านมาเคยมีแต่ไม่หนักมากถึงขนาดนี้ หลังได้เกิดปลาตายมาแล้วเมื่อประมาณ 2 วันที่แล้วและเริ่มตายเป็นจำนวนมากในวันนี้จากที่เกิดฝนตกหนักลงมาในช่วงกลางคืนและจะมีการปล่อยน้ำไหลลงมาถึงที่บริเวณนี้ประมาณ 4-5 วัน ส่งผลกระทบให้น้ำเสียเข้าสวนผัก ผลไม้ ทำให้ใช้น้ำไม่ได้หากนำน้ำเสียเข้าไปผสมกับสารเคมีเพื่อฉีดพ่นผักผลไม้ก็จะได้รับความเสียหาย

ขณะนี้ได้แจ้งเรื่องมาที่ อบต.ขุนพิทักษ์ให้เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุ เบื้องต้นคงจะต้องนำสวิงช้อนปลาที่ตายขึ้นจากน้ำก่อนเพื่อลดปัญหาน้ำเสียและเรื่องกลิ่นเหม็น นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยังเกษตรกรที่เลี้ยงปลากะพงในพื้นที่ใกล้เคียงอย่าเพิ่งสูบน้ำเข้าบ่อปลา เพราะน้ำเสียอาจทำให้ปลากะพงที่เลี้ยงตายได้ จึงขอฝากสื่อช่วยประชาสัมพันธ์ช่วยเหลือเรื่องการกระตุ้นการแก้ไขปัญหาให้ได้รับการแก้ไขโดยเร็วด้วย