ส้มโอบ้านแท่น ไม้ผลขึ้นชื่อมีคุณภาพ ส่งขายทั้งในและต่างประเทศ สร้างรายได้งาม

อำเภอบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ ในอำเภอแห่งนี้มีการปลูกพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ การปลูกข้าว การทำไร่อ้อย และพืชไร่อื่นๆ อีกหลายชนิด ในส่วนของพืชสวนอย่างส้มโอเป็นอีกหนึ่งพืชที่ทำรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยทำการตลาดส่งจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในขณะนี้ผลผลิตอย่างส้มโอมีกำลังผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด เพราะด้วยรสชาติที่ดีในแต่ละปีเมื่อมีผลผลิตออกจำหน่าย ลูกค้าต่างเข้ามาติดต่อขอซื้อกันอย่างมาก จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่ขึ้นชื่อของอำเภอบ้านแท่นไปแล้วในเวลานี้

คุณประจวบ ป้อมสุวรรณ

คุณประจวบ ป้อมสุวรรณ เกษตรกรปลูกส้มโออยู่ที่อำเภอบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรที่ปลูกส้มโอจนประสบผลสำเร็จ สามารถทำการตลาดส่งจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ จึงทำให้เกิดรายได้จากการจำหน่ายส้มโอเป็นอย่างดี พร้อมทั้งทำการผลิตกิ่งพันธุ์จำหน่าย ช่วยให้นอกจากจำหน่ายผลผลิตแล้ว ยังเกิดรายได้จากการตอนกิ่งพันธุ์จำหน่ายอีกด้วย

 แบ่งพื้นที่ทำนา

มาปลูกส้มโอพันธุ์ทองดี

คุณประจวบ เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนยึดการทำเกษตรเชิงเดี่ยวเพียงอย่างเดียว คือ การทำนา แต่ด้วยระยะหลังมานี้ผลผลิตมีบางช่วงที่ได้ราคาไม่ดีนัก จึงทำให้เกิดความคิดที่อยากจะทำเกษตรแบบผสมผสาน เมื่อเข้าสู่ปี 2554 จึงได้แบ่งพื้นที่นาบางส่วนมาทำสวนส้มโอ โดยซื้อพันธุ์ส้มโอทองดีจากเกษตรกรในพื้นที่มาปลูกดูแลอยู่ประมาณ 4 ปี จึงมีผลผลิตออกจำหน่ายสู่ท้องตลาด

“ช่วงนั้นในพื้นที่นี้ จะมีเกษตรหลายท่าน ที่ปลูกส้มโอประสบผลสำเร็จ ทีนี้เราก็มองว่าตัวเราเองก็น่าจะทำได้ เพราะพื้นที่เรามีอยู่ จึงได้แบ่งพื้นที่นามาปลูกส้มโอเพื่อทดลองประมาณ 3 ไร่ พอผลผลิตเริ่มจำหน่ายได้ เกิดรายได้ดี จึงขยับขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้น จนตอนนี้ปัจจุบันปลูกอยู่ประมาณ 10 ไร่ คิดว่าน่าจะคงพื้นที่ปลูกอยู่ในปริมาณเท่านี้ เราเน้นดูแลเอง ใช้แรงงานในครอบครัว เมื่อพื้นที่ปลูกไม่มาก เราดูแลได้ง่ายทั่วถึง ทำให้ควบคุมในเรื่องของคุณภาพได้” คุณประจวบ บอก

ต้นส้มโอที่ผลิตทั้งผล และตอนกิ่งขายได้

 ใช้เวลาดูแลอย่างต่ำ 4 ปี

ส้มโอจึงให้ผลผลิต

ในการเตรียมพื้นที่สำหรับปลูกส้มโอ คุณประจวบ บอกว่า เนื่องจากพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ทำนามาก่อนจึงต้องปรับพื้นที่ปลูกบางส่วน ด้วยการขุดให้ภายในสวนมีร่องน้ำเพื่อกักน้ำไว้ใช้หน้าแล้ง และยกสันร่องที่มีความกว้างอยู่ที่ 12 เมตร เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมขังกับโคนต้น ส่วนการให้น้ำกับต้นส้มโอจะวางระบบน้ำหยดทั้งสวน จึงทำให้ไม้ได้รับน้ำอย่างเพียงพอทุกต้น เมื่อเตรียมแปลงปลูกเรียบร้อยแล้ว นำกิ่งพันธุ์ส้มโอทองดีอายุ 3 เดือน ที่ได้จากการตอน มาปลูกลงในแปลงที่เตรียมไว้ให้มีระยะห่างระหว่างต้นและแถวอยู่ที่ 6 x 6 เมตร

“ช่วงแรกที่เราปลูกลงไปใหม่ๆ ก็จะรดน้ำอาทิตย์ละ 2-3  ครั้ง จากนั้นก็รดน้ำตามความเหมาะสมโดยดูความชื้นความแฉะของดินเป็นหลัก มีการใส่ป๋ยบำรุงต้นบ้าง มีปุ๋ยเคมีสลับกับปุ๋ยคอก ซึ่งส้มโอกว่าจะให้ผลผลิตได้ ต้องใช้เวลาดูแลอย่างน้อยถึง 4 ปี ช่วงนี้ต้องมีการป้องกันโรคและแมลงต่างๆ อยู่เสมอ พร้อมทั้งกำจัดวัชพืชภายในสวนให้เรียบบร้อย อย่าให้รกมากจนเกินไป เมื่ออายุเริ่มได้กำหนดที่จะให้ผลผลิตได้แล้ว เราก็จะมีการดูแลความพร้อมของต้นให้พร้อม สำหรับการออกผล” คุณประจวบ บอก

ผลส้มโอใกล้ตัดจำหน่ายได้

การเตรียมต้นส้มโอให้ออกดอกติดผลนั้น คุณประจวบ เล่าว่า ประมาณเดือนธันวาคมจะใส่ปุ๋ยสูตรเสมอในอัตรส่วน 1-3 กิโลกรัม ต่อต้น พร้อมทั้งให้น้ำตามความเหมาะสม ไม่นานต้นก็จะเริ่มออกดอกมาให้เห็น จากนั้นเดือนมกราคมจากดอกจะเริ่มติดเป็นผล โดยใน 1 ต้น ให้มีผลอยู่บนต้นที่ 200 ผล เป็นอย่างต่ำ เพราะถ้าหากให้มีผลบนต้นมากจนเกินไป จะทำให้ผลส้มโอมีขนาดที่เล็กและต้นอาจรับน้ำหนักไม่ไหว

ผลผลิตออกดกสวยเต็มต้น

เมื่อต้นเริ่มติดผลเป็นที่เรียบร้อยช่วงนี้จะดูแลอย่างใกล้ชิด ด้วยการใส่ปุ๋ยทางใบและทางรากเดือนละ 1 ครั้ง หมั่นดูแลไปเรื่อยๆ จนกว่าผลจะได้ขนาดที่ใหญ่ขึ้น จากนั้นก่อนตัดจำหน่าย 1 เดือน จะใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 เพื่อให้ผลมีรสชาติที่ดี โดยระยะเวลาออกดอกจนกว่าจะได้ผลส้มโอที่แก่พร้อมจำหน่ายได้ ใช้เวลาดูแลถึง 7 เดือนเลยทีเดียว

“พอเข้าสู่เดือนสิงหาคม ส้มโอในสวนก็พร้อมที่จะตัดขายได้ ในช่วงนี้เราก็จะเก็บผลผลิตขายทั้งหมด ซึ่งผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ก็อยู่ที่ 3 ตัน หากดูแลดีๆ ไม่มีแมลงศัตรูพืชมารบกวน และโรคที่ต้องป้องกันอยู่เสมอของส้มโอ คือโรครากเน่าโคนเน่า ส่วนแมลงศัตรูพืชก็จะเป็นเพลี้ยไฟไรแดง หากช่วงไหนที่เรารู้ว่าจะเกิดการระบาด ก็จะหมั่นตรวจเช็คและฉีดพ่นยาป้องกันอยู่เสมอ ก็จะช่วยให้ต้นส้มโอมีความสมบูรณ์ และให้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ หลังจากเก็บผลผลิตหมดต้น เราก็จะใส่ปุ๋ยคอกเสริม และพักต้นประมาณ 1-2 เดือน หลังจากนั้นก็ตัดแต่งกิ่งและเตรียมผลิตรอบใหม่ต่อไป” คุณประจวบ บอก

การตอนกิ่งพันธุ์

 การรวมกลุ่มทำตลาด

ช่วยให้ผลผลิตขายได้ดี

ในเรื่องของการทำตลาดจำหน่ายส้มโอทองดีนั้น คุณประจวบ เล่าว่า เนื่องจากปัจจุบันเกษตรกรผู้ปลูกส้มโอได้มีการรวมกลุ่มกันมากขึ้น จึงทำให้ลูกค้าที่เข้ามาติดต่อซื้อขายสามารถได้ผลผลิตในปริมาณที่แน่นอน และทำตลาดได้อย่างต่อเนื่องไม่ขาดช่วง โดยเฉพาะพ่อค้าที่เข้ามาติดต่อเพื่อนำผลผลิตไปส่งจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งผลผลิตอย่างส้มโออำเภอบ้านแท่นตลาดหลักที่ส่งออกไปจำหน่ายคือประเทศจีน และบางส่วนก็จะจำหน่ายตลาดในประเทศ

โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 35 บาท ซึ่ง 1 ผล จะทำน้ำหนักให้อยู่ที่ 1 กิโลกรัม เป็นขนาดที่เหมาะสมและลูกค้าสามารถซื้อทานได้เรื่อยๆ ในราคาที่ไม่สูงมากจนเกินไป

ออกร้านตามงานต่างๆ

“ตั้งแต่ผมมาปลูกส้มโอเป็นอีกหนึ่งพืชทางเลือก ก็รู้สึกว่าคุณภาพชีวิตเราดีขึ้น โดยเราไม่ต้องมีความเสี่ยงจากการไปปลูกพืชเชิงเดี่ยวเพียงอย่างเดียว อย่างน้อยเมื่อผลผลิตจากข้าวไม่ได้ราคา เราก็ยังมีสวนส้มโอที่สร้างรายได้ให้กับเรา ดังนั้น การปลูกส้มโอไม่ใช่เรื่องอยาก หากมีการเรียนรู้และดูแลต้นให้สมบูรณ์ ส้มโอก็จะให้ผลผลิตที่ดี ซึ่งใครที่สนใจอยากจะปลูกส้มโอสร้างรายได้ อยากแนะนำว่าสิ่งแรกให้ดูก่อนเลย คือเรื่องของพื้นที่ปลูก อย่าให้ต่ำเกินไป มีปริมาณน้ำที่ให้ไม้อย่างเพียงพอ พร้อมทั้งเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในเรื่องของการปลูกอยู่เสมอ ก็จะทำให้ได้ผลผลิตที่ดี จากนั้นก็ผลิตแบบมีคุณภาพ ก็จะสามารถขายและมีรายได้เป็นอาชีพที่ยั่งยืนได้แน่นอน” คุณประจวบ ทิ้งท้ายหลักความสำเร็จของการปลูกส้มโอ

พื้นที่ภายในสวน

สำหรับท่านใดที่สนใจการปลูกส้มโอพันธุ์ทองดีให้ได้คุณภาพ สามารถติดต่อเข้าศึกษาดูงานหรือพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ได้ที่ คุณประจวบ ป้อมสุวรรณ หมายเลขโทรศัพท์ (089) 534-9139