“โควิด-19 ไม่ใช่อุปสรรค ของโอกาสการมีกินมีใช้อย่างพอเพียง” วินัย สวัสดิ์วิเชียร เกษตรกรขยายผลศูนย์บริการฯ ปลวกแดงตามพระราชดำริ

“จากที่ได้น้อมนำแนวพระราชดำริ ทฤษฎีใหม่ของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ด้วยการปรับสภาพพื้นที่ที่มีอยู่ปลูกพืชผักไว้กินเอง ตามแนวทางตู้เย็นรอบบ้าน ควบคู่กับการเลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ขุดสระเก็บน้ำเพื่อใช้รดต้นไม้ ในสระเลี้ยงปลา กิ่งไม้ที่ตัดแต่งนำมาผลิตน้ำส้มควันไม้ ยามว่างขยายพันธุ์ไม้จำพวกพืชให้ผลเพื่อนำไปปลูกเสริมในพื้นที่ เหลือแบ่งขายให้ผู้สนใจนำไปปลูกในพื้นที่ของตนเอง”

คุณวินัย สวัสดิ์วิเชียร เกษตรกรขยายผลของศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ จังหวัดระยอง

คุณวินัย สวัสดิ์วิเชียร เกษตรกรขยายผลของศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ จังหวัดระยอง เจ้าของศูนย์การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ ตั้งอยู่เลขที่ 289 หมู่ที่ 2 บ้านมะปริง ตำบลแม่น้ำคู้ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง บอกเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตภายหลังการปรับเปลี่ยนวิถีการทำกินด้วยการน้อมนำแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเป็นหลักชัยของชีวิต

คุณวินัยและภรรยา กับความภาคภูมิใจในการเป็นศูนย์การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ

วันนี้พื้นที่ว่างในสวนคุณวินัยได้ปลูกกล้วยแซมด้วยพืชสมุนไพรกว่า 100 ชนิด และทุกๆ วันจันทร์จะเก็บพืชในสวนไปขายที่หน้าอำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง

ผักสดๆ จากแปลง หนึ่งในพืชสร้างรายได้

ในทุกอาทิตย์ คุณวินัย สามารถสร้างรายได้ประมาณ 3,000-4,000 บาท โดยพืชหลักที่นำไปวางจำหน่ายให้ลูกค้าได้เลือกซื้อเป็นประจำ ได้แก่ กล้วย ผักชนิดต่างๆ หน่อกระวาน พริกไทยสด ซึ่งพริกไทยสด หากจำหน่ายไม่หมดจะนำกลับมาทำพริกไทยแห้งเพื่อนำไปจำหน่ายอีกครั้งหนึ่ง

พริกไทยเม็ด การเพิ่มมูลค่าพืชผลทางการเกษตร

“ความรู้ในการทำการเกษตรและการเพาะขยายพันธุ์พืชตลอดถึงการเลี้ยงสัตว์และเลี้ยงปลานั้น ได้รับมาจากทางศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ จังหวัดระยอง ทำการฝึกอบรมให้ ในช่วงแรกๆ ที่เข้ารับการอบรมชาวบ้านไปกันหลายคน หลังการอบรมเสร็จทางศูนย์ได้มอบปัจจัยการผลิตพื้นฐานให้ เช่น พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ก็นำมาขยายผลในพื้นที่ของตนเองจนสามารถยืนอยู่ได้ในทุกวันนี้ และผู้เข้ารับการอบรมแทบทั้งหมดจะน้อมนำแนวทางนี้ไปดำเนินชีวิตทุกคน ทำให้มีกินมีใช้ทุกวัน แถมยังมีเงินเก็บจากการนำผลผลิตออกขายเป็นรายได้เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัว แม้ในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ไม่สามารถออกจากบ้านได้เนื่องจากต้องระวังการระบาดของโรค ก็ไม่เป็นปัญหาทุกคนยังมีกินมีใช้ไม่ขัดสน” คุณวินัย กล่าว

คุณวินัยกับพืชพันธุ์หลากหลายชนิดที่สร้างเงิน

พร้อมกันนี้ คุณวินัย ยังได้นำความรู้จากการฝึกอบรมจากศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ จังหวัดระยอง มาทำการขยายผลจนเกิดรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ นอกจากจะไม่ต้องเพิ่มทุนในการหาพันธุ์ไม้มาปลูก โดยเฉพาะการเพาะขยายพันธุ์มะนาวและพริกไทย

มะนาว ใช้วิธีการขยายพันธุ์ด้วยการเพาะชำแบบควบแน่น

เกษตรกรรายนี้จะใช้วิธีนำวัสดุเหลือใช้จากครัวเรือนมาเป็นวัสดุในการเพาะปลูก ด้วยการนำขวดน้ำที่ใช้แล้วมาตัดออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งใส่ดินปลูก ซึ่งดินปลูกจะผลิตเองด้วยการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาเผาให้เกิดขี้เถ้าผสมดิน ขุยมะพร้าว และปุ๋ยหมัก คลุกเคล้าให้เข้ากันเอามาใส่ในขวดน้ำที่ตัดแล้ว จากนั้นนำกิ่งพันธุ์พริกและมะนาว ด้วยการเลือกเอายอดที่ใบแก่หน่อยมาปักชำ นำขวดน้ำอีกท่อนหนึ่งครอบลงไปเอายางรัดไว้ ไม่ให้โดนลม ตั้งไว้ในที่ร่ม ประมาณ 35-40 วัน ไม่ต้องรดน้ำ รากก็จะงอกออกมา

นำผลผลิตมาร่วมแสดงความสำเร็จของการขยายผล

ทั้งนี้ ในทางวิชาการเรียกวิธีที่คุณวินัยทำว่า การเพาะชำแบบควบแน่น

เมื่อรากงอกออกมาเต็มแก้วจึงเปิดฝาครอบดึงออกมาชำในภาชนะ ช่วงนี้ให้เจอแสงแดดแบบรำไร ประมาณ 1 อาทิตย์ จึงนำเอาไปปลูกในแปลงที่เตรียมไว้ได้เลย หากมีมากก็นำออกจำหน่าย สร้างรายได้อีกทางหนึ่ง

เพาะขยายพันธุ์ไม้เองในสวน
ทุเรียนอีกหนึ่งผลไม้ที่มี

“แนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 หาคนไหนเทียบไม่ได้อีกแล้ว ไม่มีใครคนไหนที่จะมองเห็นประชาชน คนเดินดิน เราสามารถนำแนวทางที่พระองค์พระราชทานให้มาต่อยอดได้เลย ไม่ต้องคิดและลองผิดลองถูกให้เสียเวลากันอีก เมื่อเราทำตามแนวพระราชดำริของพระองค์ท่าน จะอยู่ได้สบายไม่มีการจน ไม่เจ็บไข้ เพราะเรากินผัก และผักเป็นยา มีการรวมกลุ่มกัน ชวนกันทำ ร่วมกันผลิต ในหมู่บ้านเมื่อก่อนไม่มีมะนาวกินต้องหาซื้อมาจากตลาด บางปีแพงมาก หลังจากเข้าอบรมจากศูนย์ ก็นำมาทำที่บ้าน ทุกวันนี้มีมะนาวกันทุกครัวเรือน ไม่ต้องซื้อกิน แถมยังมีขายอีกต่างหาก

จำหน่ายผลผลิต สร้างรายได้อาทิตย์ละ 3,000-4,000 บาท

“รู้สึกดีใจที่ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดของโครงการของในหลวงรัชกาลที่ 9 จะทำการเพิ่มเติมทักษะและความรู้ของเกษตรกรมีการต่อยอดเพิ่มมากขึ้น รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงเมตตาต่อราษฎร เป็นอย่างยิ่ง” คุณวินัย กล่าวในที่สุด