ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอินทรีย์วิถีไทย (โคก หนอง นา โมเดล) หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หน่วยซีล (SEAL) กองเรือยุทธการ

บนเนื้อที่ 11 ไร่ ภายในหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้จัดสรรพื้นที่จัดทำเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ตามปณิธาน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ปัจจุบันได้ผสมผสานกับโครงการ โคก หนอง นา โมเดล ในการทำเป็น “ศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์วิถีไทย” เพื่อเปิดกว้างให้นักเรียน นิสิตนักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ เพื่อนำไปต่อยอดใช้ดำรงชีวิตแบบพอเพียงตามปณิธานในหลวงรัชกาลที่ 9

ทางเดิน

ทั้งนี้ นาวาตรี ทองสุข ถาวงษ์กลาง รองประธานศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์วิถีไทย และ พันจ่าเอก ทัศ นิลบุตร ผู้ดูแลชุดผู้ปฏิบัติฯ รับผิดชอบศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์วิถีไทยได้พาสื่อมวลชนชมพื้นที่บริเวณโดยรอบศูนย์พร้อมอธิบายในทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มลงมือปลูกพืชผักต่างๆ กรรมวิธี เทคนิคในการปรุงดินจนถึงนำไปจำหน่ายสร้างรายได้

สวยงาม

นาวาตรี ทองสุข อธิบายว่า หลักการของเราคือ ผู้บัญชาการหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ให้การสนับสนุนเต็ที่ดินโดยได้รับนโยบายจากกองทัพเรือ ในการน้อมนำเอาแนวความคิดปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง อันเป็นศาสตร์ความรู้ ความพัฒนา ที่ยั่งยืนของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานให้กับพสกนิกรชาวไทย มาจัดทำเป็น ศูนย์การเรียนรู้อินทรีย์วิถีไทย ที่ครบวงจร ที่มีทั้งป่า นา และน้ำ มีนาปลูกข้าวไว้กิน มีน้ำไว้เป็นแหล่งกักเก็บ ปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจพอเพียง โดยนำโครงการทฤษฎีใหม่ของในหลวงรัชกาลที่ 9 และโครงการเกษตรอินทรีย์ทฤษฎีใหม่ประยุกต์ หรือโคกหนองนาโมเดล นำมาผสมผสาน เพื่อให้เกิดการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน
ภายในศูนย์แน่นอนจะมีการปลูกพืชผักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผักสลัด มะม่วง กล้วย ข้าว มะเขือ รวมถึงการเลี้ยงเป็ด ไก่ และปลายี่สก

นาวาตรี ทองสุข ถาวงษ์กลาง

ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงเรายึดหลักทฤษฎีใหม่ นั่นก็คือ “ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” โดยปลูกทั้งไม้สูง ไม้กลาง และไม้เตี้ยหรือไม้กินใบ ลักษณะการปลูกในหลุมพอเพียงยั่งยืนที่จะปลูกพืชทุกชนิดที่กินได้ลงในหลุมและยึดหลักเกษตรอินทรีย์ โดยใช้หญ้าแห้งฟางและน้ำหมักจุลินทรีย์จอมปลวก ฮอร์โมนที่ทำขึ้นเอง รดพืชผักให้เจริญงอกงาม

แหล่งน้ำ

นาวาตรี ทองสุข กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ เรายังมีการเผาถ่านแบบอินทรีย์โดยใช้ความร้อนอบ เพื่อป้องกันสารก่อมะเร็ง และมีโรงสีข้าวอินทรีย์ รวมถึงโรงเลี้ยงไส้เดือน เพื่อเอามูลไส้เดือนและน้ำมาใช้ประโยชน์ในการรดพืชผักสวนครัว

นาวาตรี ทองสุข และผู้รับผิดชอบ

และที่สำคัญของศูนย์การเรียนรู้ ที่จะหารายได้มาหมุนเวียน นั่นก็คือ การปลูกอ้อยอินทรีย์ พันธุ์ RK 03 ที่มีลักษณะของพันธุ์ ทนต่อโรค แข็งแกร่ง ต้นลำสวย เมื่อคั้นน้ำออกมาแล้วจะมีรสหวานหอม เป็นที่ถูกอกถูกใจของนักท่องเที่ยว โดยทางศูนย์ได้ปลูกไว้จำนวนมากเพื่อนำมาคั้นน้ำเป็นน้ำอ้อยสดและขายให้นักท่องเที่ยวในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้เจ้าหน้าที่ รวมถึงครอบครัวที่สนใจนำไปปลูกสามารถสร้างรายได้ให้ครอบครัว

อ้อยพันธุ์ RK03
น้ำอ้อยที่ได้

“นี่คือหลักสำคัญของศูนย์เรียนรู้ฯ ที่เรายึดปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ว่า “พอกิน พอใช้ พออยู่ พอร่มเย็น” นาวาตรี ทองสุข กล่าว