“ครองจักร งามมีศรี” เกษตรกรดีเด่น จังหวัดลพบุรี ปลูกอินทผลัม 20 ไร่ โกยรายได้ปีละ 7 ล้าน

“อินทผลัม” เป็นหนึ่งในผลไม้ทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยมสูงในกลุ่มผู้รักสุขภาพ ราคาขายผลสด 400-500 บาท ต่อกิโลกรัม อินทผลัมแม้เป็นไม้ผลต่างถิ่นที่นำเข้ามาปลูกในไทย แต่เกษตรกรไทยมีฝีมือด้านการปลูก สามารถปรับการปลูกให้มีผลผลิตที่มีคุณภาพได้ไม่ยาก ซึ่ง “คุณครองจักร งามมีศรี” เป็นหนึ่งในเกษตรกรคนเก่ง ที่ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการผลผลิตอินทผลัมได้เป็นอย่างดี และสำนักงานเกษตรจังหวัดลพบุรีคัดเลือกให้เป็นเกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพทำสวน ปี 2564 ของจังหวัดลพบุรี

ผลผลิตอินทผลัมที่คุณครูครองจักรภาคภูมิใจ

 

ครูเกษียณ สนใจปลูกอินทผลัม          

คุณครองจักร งามมีศรี เป็นอดีตข้าราชการครู ที่เกษียณอายุเมื่อปี พ.ศ. 2555 เนื่องจากมีนิสัยรักการปลูกต้นไม้ จึงสนใจปลูกไม้ยืนต้นเพื่อสร้างป่าให้กับชุมชน บนพื้นที่ 58 ไร่ แต่ด้วยประสบการณ์ด้านการปลูกต้นไม้มีน้อย ทำให้ต้นไม้ที่ปลูกตายไปประมาณ 50% ต่อมาปี พ.ศ. 2556 ลูกชายซื้ออินทผลัมผลสดจากประเทศบาห์เรนมาให้ลองรับประทาน ก็รู้สึกติดใจในรสชาติและประโยชน์ของอินทผลัม คุณครูครองจักรจึงได้ทดลองนำเมล็ดไปเพาะในกระถาง ปรากฏว่าเมล็ดสามารถงอกได้ จึงสนใจศึกษาการปลูกอินทผลัมอย่างจริงจัง

ปี พ.ศ. 2557 คุณครูครองจักร ได้สั่งซื้อต้นพันธุ์อินทผลัมเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อจากต่างประเทศเข้ามาปลูก ได้แก่ สายพันธุ์บาร์ฮี สายพันธุ์อัมเอ็ดดาฮาน สายพันธุ์โคไนซี่ สายพันธุ์อัจวะห์ สายพันธุ์คาลาส ปัจจุบันถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง จึงได้จัดตั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการปลูกอินทผลัมให้ผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษา รวมทั้งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน

สำนักงานเกษตรจังหวัดลพบุรี เยี่ยมชมสวน

แม้ คุณครูครองจักร จะเป็นเกษตรกรมือใหม่ที่เพิ่งปลูกอินผลัมได้แค่ 9 ปี (เริ่มปี 2556) แต่ปัจจุบัน “สวนอินทผาลัมชอนสารเดช” แห่งนี้ ได้รับความสนใจจากหน่วยงานภาครัฐ เกษตรกร ประชาชนจำนวนมาก รวมทั้งสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เข้ามาเยี่ยมชมกิจการเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการปลูกอินทผลัมตลอดทั้งปี เนื่องจากสวนแห่งนี้ เป็นสวนแรกในจังหวัดลพบุรี ที่ใช้ต้นพันธุ์จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการปลูกอินทผลัมของอำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี มีฝีมือในการผลิตอินทผลัมที่มีคุณภาพ ไร้สารพิษตกค้าง เกิดความปลอดภัยต่อผู้บริโภค  ขณะเดียวกันได้รับการรับรองมาตรฐานเป็นแหล่งผลิตพืชปลอดภัยสารเคมี

ต้นพันธุ์จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

สวนแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดี ในฐานะแหล่งศึกษาดูงานและแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้านการผลิตอินทผลัม ที่โดดเด่นเรื่องการผลิตอินทผลัมปลอดสารพิษ การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น โดรนเพื่อการเกษตร มาใช้ในการบริหารจัดการสวนเพื่อลดการใช้แรงงาน การใช้สารชีวภัณฑ์ในการป้องกันโรคและแมลง 100% ที่นี่นอกจากจำหน่ายอินทผลัมผลสดและแช่แข็งแล้ว ยังแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มอินทผลัมในรูปแบบต่างๆ เช่น นมสดอินทผลัม ชาดอกอินทผลัม น้ำเชื่อมอินทผลัม เป็นต้น “สวนอินทผาลัมชอนสารเดช” ภายใต้การบริหารงานของคุณครูครองจักร ยืนยันได้ทั้งปริมาณ คุณภาพ ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินกิจการมา ถือได้ว่าประสบความสำเร็จในด้านรายได้และมีความยั่งยืนในอาชีพอย่างชัดเจน

นำโดรนเพื่อการเกษตรมาใช้ในการบริหารจัดการสวน ลดการใช้แรงงาน

ปลูกอินทผลัม ให้ผลตอบแทนสูง

ในปี 2557 คุณครูครองจักร เริ่มเตรียมดิน เตรียมพื้นที่ปลูกอินทผลัม เนื้อที่ 20 ไร่ เนื่องจากอินทผลัมเป็นพืชที่ลงทุนค่อนข้างสูง คิดเป็นค่าต้นพันธุ์ซึ่งเป็นต้นพันธุ์เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อทั้งหมด ที่ความสูง 20 เซนติเมตร ราคา 2,000-2,500 บาท/ต้น ใช้ต้นพันธุ์ 25-30 ต้น/ไร่ ค่าวางระบบน้ำ 40,000 บาท/ไร่ รวมต้นทุน 62,955บาท/ไร่ หรือประมาณ 1.2 ล้านบาท

การปลูกอินทผลัมถือว่าให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับการลงทุน เพราะผลสดอินทผลัมเป็นพืชที่ยังไม่แพร่หลายในประเทศไทย สามารถขายได้ราคาสูงกว่าไม้ผลชนิดอื่น ประกอบกับแต่ละต้นให้ผลผลิตสูง และเป็นพืชที่มีอายุยืนยาว ถึงแม้การลงทุนจะค่อนข้างสูงแต่ก็คุ้มกับผลตอบแทนที่ได้รับ เปรียบเทียบได้จากผลประกอบการในช่วง 3 ปีหลังที่ผ่านมา (ปี 2561-2563) โดยปี 2561 ได้ผลผลิต 12,000 กิโลกรัม มีรายได้ 4.2 ล้านบาท ปี 2562 ได้ผลผลิต 900 กิโลกรัม มีรายได้ 6.3 ล้านบาท ปี 2563 มีผลผลิตออกจำหน่ายทั้งสิ้น 20 ตัน ราคาขายอยู่ที่ กิโลกรัมละประมาณ 500-1,000 บาท มีรายได้ 7 ล้านบาท สำหรับปีนี้ คุณครูครองจักรประมาณการผลผลิตอยู่ที่ 22-25 ตัน และคาดว่าจะได้ผลผลิต  28-30 ตัน ในปี 2565

ต้นอินทผลัมสายพันธุ์บาร์ฮี

การดูแลจัดการสวนอินทผลัม

การใส่ปุ๋ย 

สำหรับต้นอินทผลัมที่ยังไม่ให้ผลผลิต นอกจากปุ๋ยคอกและใบก้ามปูแล้ว หากเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์เน้นตัวหน้าคือไนโตรเจน ก่อนออกดอกสะสมอาหาร ด้วยสูตร 8-24-24 ก่อนเก็บผลผลิต เพิ่มความหวาน ด้วยสูตร 13-13-21 เน้นตัวท้ายสูง

การจัดการศัตรูพืช

ต้นอินทผลัม มีแมลงศัตรูพืชกลุ่มเดียวกับมะพร้าว คือ ด้วงเจาะลำต้น ด้วงแรดเจาะลำต้น ไม่ทำให้ต้นอินทผลัมตาย แต่หลังจากนั้น หากมีด้วงงวงเจาะตามเข้าไป ด้วงงวงจะเข้าไปวางไข่ เกิดตัวอ่อนมากมาย เข้าทำลายลำต้น ทางป้องกันคือ ทำแปลงปลูกให้สะอาด ไม่ให้มีกองขยะ กองมูลสัตว์ เพราะจะเป็นที่อาศัยวางไข่ของด้วง

วิธีการเก็บเกสรและการผสมเกสร

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บเกสรคือ เครื่องดูดฝุ่น ที่ใช้ดูดฝุ่นตามบ้านก็จะนำมาดูดเกสร พอดูดมาแล้วนำมาใส่ขวดที่มีฝาปิดมิดชิด แล้วนำเข้าตู้เย็น อุณหภูมิก็จะเป็นอุณหภูมิปกติที่ใช้แช่ผัก แล้วจึงนำไปใส่ตัวบีบนำไปพ่นใส่ดอกตัวเมีย ดอกที่จะพ่นต้องเป็นดอกที่แตกออกในวันแรกหรือวันที่ 2 เท่านั้น ที่จะมีประสิทธิภาพสูงสุด

ตัดแต่งช่อผลอินทผลัม

การจัดการหลังติดผล

หลังติดผลควรมีการเด็ดผลทิ้งบ้าง โดยเส้นย่อยหนึ่งเส้นควรไว้ 8-12 ผล ไม่มีสูตรตายตัว ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผลและความยาวของช่อ ที่สำคัญคือ ไม่ควรให้ผลเบียดกัน

การห่อผล

การห่อผล ควรใช้มุ้งตาข่ายไนลอน (ลี่) ที่มีตาถี่เพื่อป้องกันแมลงทุกชนิดที่จะเข้าไปทำลายผลผลิต และชั้นในควรคลุมด้วยถุงกระดาษเพื่อป้องกันแสงแดดที่จะส่องกระทบผลโดยตรง ที่จะทำให้ผิวของผลไม่สวยงาม

การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว

เมื่อเก็บผลจากต้น นำอินทผลัมมาแขวนไว้ หลังจากนั้นก็นำไปล้างทำความสะอาด โดยใช้ปั๊มน้ำแรงดันสูงฉีดพ่นทำความสะอาดผลอินทผลัม หลังจากนั้นนำไปเป่าลมให้แห้ง จึงบรรจุใส่ภาชนะหีบห่อเพื่อเตรียมส่งจำหน่าย

การตลาด

ปัจจุบัน คุณครูครองจักร จำหน่ายต้นพันธุ์อินทผลัม อินทผลัมผลสด หน่ออินทผลัม ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากอินทผลัมผ่านช่องทางตลาดออนไลน์เป็นหลัก ในชื่อ “Facebook สวนอินทผาลัมชอนสารเดช”

ทั้งนี้ เกษตรกรหรือประชาชนที่สนใจ สามารถแวะเยี่ยมชมกิจการได้ที่ บ้านเลขที่ 96/1 หมู่ที่ 4 บ้านชอนสารเดช ตำบลชอนสารเดช อำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี รหัสไปรษณีย์ 15170 เบอร์โทรศัพท์ 085-909-7445, 099-275-6444

 

ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลผลิตอินทผลัม

ขอขอบคุณ สำนักงานเกษตรอำเภอหนองม่วง สำนักงานเกษตรจังหวัดลพบุรี ที่สนับสนุนข้อมูลและภาพประกอบข่าว มา ณ ที่นี้