โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ บางเบิด ชุมพร แหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ-การเกษตรดินทราย

หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ “โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ บางเบิด” เนื้อที่ 448 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านน้ำพุ ตำบลปากคลอง อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้อยู่ติดทะเล มีสภาพเป็นดินทรายชายทะเลที่ถูกคลื่นทับถมกันเป็นเวลานานจนกลายสภาพเป็นเนินทราย (Sand Dune) กระจายอยู่ทั่วไป

เดิมสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินโครงการวิจัยปลูกต้นไม้โตเร็วชนิดต่างๆ เป็นจำนวนมากเพื่อศึกษาผลกระทบที่ดินดังกล่าว ต่อมาสำนักงานจัดการทรัพยากรที่ดินส่วนพระองค์ ซึ่งดูแลรับผิดชอบดูแลที่ดินแปลงนี้อยู่ได้นำกลับมาเพื่อพัฒนา หลังจากที่พระบาทสมเด็จ​พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9 ) เสด็จพระราชดำเนินกลับจากจังหวัดชุมพร เมื่อปี พ.ศ. 2541 มีพระราชกระแสรับสั่งให้โครงการพัฒนาส่วนพระองค์รับผิดชอบ โครงการพัฒนาที่ดินแปลงนี้ให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ โดยให้อนุรักษ์สภาพแวดล้อมเดิมซึ่งมีสภาพเป็นสันทรายป่าชายหาด พัฒนาพื้นที่เพื่อการเกษตร โดยการปรับปรุงดินตามความเหมาะสม เพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาวิจัยและพัฒนาส่งเสริมอาชีพและแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดชุมพร

เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพเหมาะสมทุกด้าน สนับสนุนเศรษฐกิจพอเพียง เป็นตัวอย่างให้เกษตรกรเข้ามาศึกษาหาความรู้ฝึกปฏิบัติงานจนนำไปประกอบอาชีพ เกษตรกรสามารถรู้จักวางแผนการทำงานตั้งแต่การผลิต การดูแลรักษา การจัดจำหน่าย ตลอดจนการจัดทำบัญชีฟาร์ม ช่วยเหลือตนเองและครอบครัวได้ และเมื่อมีความชำนาญแล้วก็สามารถขยายผลไปสู่การจัดจำหน่ายในประเทศ นับเป็นตัวอย่างที่ไม่ยากต่อการปฏิบัติ และทุกคนสามารถนำไปปฏิบัติตามได้

 

เรียนรู้ระบบนิเวศสันทรายชายทะเล

หากใครสนใจศึกษาพันธุ์ไม้หายากและระบบนิเวศพื้นที่สันทรายชายทะเล สามารถร่วมกิจกรรมส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงนิเวศในพื้นที่สันทรายที่มีความสมบูรณ์และสูงที่สุดในประเทศไทย ผ่านเส้นทางเดินสำรวจธรรมชาติ และพันธุ์พืชสันทรายริมทะเล ซึ่งมีพืชแปลกตานานาชนิดพร้อมป้ายอธิบายข้อมูลของพันธุ์ไม้อย่างละเอียด ได้แก่ เสม็ดแดง เตยทะเล มังคุดป่า เป็นต้น

โครงการปลูกพืชแบบผสมผสาน

ตลอดเส้นทาง มีแปลงสาธิตการปลูกพืชผสมผสาน จำนวนพื้นที่ทั้งหมด 22 ไร่ โดยแบ่งออกเป็น 4 แปลง ซึ่งได้แก่ แปลงมะม่วงหิมพานต์ โดยจะปลูกแซมด้วยมะขามเปรี้ยว มะม่วง ส่วนแปลงมะพร้าวนั้น จะถูกแซมด้วยส้มโอ ขนุน พุทรา น้อยหน่า มะม่วง กล้วยเล็บมือนาง เป็นต้น ส่วน 2 แปลงที่เหลือจะเป็นการปลูกมะพร้าวเพิ่มขึ้นทั้งหมด โดยแปลงๆ หนึ่งจะถูกแซมด้วย มะม่วง สับปะรด มะม่วง ส่วนอีกแปลงนั้นจะปลูกด้วยสนทะเล อีกทั้งยังมีแปลงสาธิตที่ปลูกดอกหน้าวัว โดยการเพาะชำกางมุ้งที่มีขนาดใหญ่ และที่สำคัญยังเป็นการปลูกโดยปราศจากสารเคมี หรือยาฆ่าแมลงอีกด้วย

สาธิตการปลูก ดอกหน้าวัว

ทางโครงการฯ มีเป้าหมายส่งเสริมอาชีพปลูกไม้ตัดดอกเพื่อเป็นรายได้เสริมให้แก่ราษฎร จึงจัดทำแปลงสาธิตการปลูกดอกหน้าวัวในโรงเพาะชำกางมุ้งขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันแมลงศัตรูพืช โดยไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลงหรือสารเคมี เนื่องจากดินในพื้นที่แห่งนี้มีสภาพเป็นดินทราย ไม่มีอินทรียวัตถุ ทางโครงการฯ จึงปลูกดอกหน้าวัวในถ่านไม้ ที่ได้จากการเผาเพื่อเก็บน้ำส้มควันไม้ นำมาใช้ได้อย่างเกิดประโยชน์และคุ้มค่าที่สุด ปัจจุบัน ผลผลิตของที่นี่ไม่มีขายในท้องตลาด เพราะทางสวนจิตรลดารับซื้อดอกหน้าวัวทั้งหมด

 

แหล่งผลิต กาแฟขี้ชะมด

ขณะเดียวกันที่นี่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องการผลิตกาแฟขี้ชะมด โดยมุ่งศึกษาเก็บไขจากตัวชะมดและขยายพันธุ์ชะมดเช็ด เนื่องจากประชากรชะมดเช็ดในธรรมชาติมีจำนวนลดลงมาก เนื่องจากป่าถูกบุกรุก และการจับชะมดมาเป็นอาหาร ทางโครงการฯ จึงเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์และเก็บไขของชะมดอีก รวมทั้งผลิตกาแฟขี้ชะมดไปพร้อมๆ กัน

โดยธรรมชาติแล้ว ชะมด มักผลิตไขออกมาจากต่อมบริเวณใกล้กับก้นแล้วเช็ดกับเสา จึงเรียกว่า “ชะมดเช็ด” ส่วนไขที่ชะมดเช็ดทิ้งไว้กับเสา มีสารบางชนิดที่ทำให้เกิดกลิ่นที่ติดทนนาน จึงนิยมนำชะมดเช็ดไปผลิตเป็นหัวน้ำหอม ที่นี่ยังให้ชะมดกินเม็ดกาแฟสุก เนื่องจากภายในกระเพาะของชะมดจะมีน้ำย่อยเอนไซม์ชนิดหนึ่งซึ่งทำให้โปรตีนแตกตัว เมื่อชะมดถ่ายออกมาจะได้ผลกาแฟที่มีกลิ่นหอม เม็ดกาแฟมีคุณภาพสูง มีรสชาติอร่อย กลมกล่อมเฉพาะตัว กลายเป็นกาแฟที่มีราคาแพงที่สุดในโลก

ภายในโครงการ เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อสินค้าเกษตรคุณภาพดีติดมือกลับไปด้วย เช่น สเปรย์กันยุงสมุนไพร ถ่านผลไม้ น้ำส้มควันไม้ และน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ ที่นี่นอกจากจำหน่ายสินค้าแก่ผู้สนใจแล้ว ยังเปิดสอนวิธีการทำให้กับชาวบ้านได้มีรายได้เสริมกันอีกด้วย

หากผู้อ่านสนใจที่จะเข้าชม หรือศึกษาเกี่ยวกับโครงการพัฒนาส่วนพระองค์ ณ บางเบิด ที่นี่มีห้องพักและสถานที่เหมาะแก่การอบรมในงานที่เกี่ยวกับโครงการ สามารถติดต่อได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 089-292-2814 หรือเว็บไซต์ www.bangburdtour.com

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบข่าวจาก เว็บไซต์ www.bangburdtour.com