กรมส่งเสริมการเกษตรเผยผลสำเร็จยกระดับแปลงใหญ่ ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด

กรมส่งเสริมการเกษตรเผยผลสำเร็จยกระดับแปลงใหญ่ ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด จังหวัดจันทบุรี เดินหน้าร่วมโครงการ 28 แปลงรับวงเงินอุดหนุนกว่า 67 ล้านบาท

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ได้รับมอบหมายจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการจัดทำโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่ และเชื่อมโยงตลาด ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 ภายใต้แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เพื่อให้เกษตรกรมีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีความหลากหลาย มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาศักยภาพความเข้มแข็งในการบริหารจัดการแปลงใหญ่ โดยใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมสมัยใหม่ต่อยอด ด้านคุณภาพมาตรฐาน แปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม และเชื่อมโยงการตลาด การลดต้นทุนการผลิต รายได้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน ดำเนินการในพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ครอบคลุมกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่จำนวน 5,250 แปลง

ด้านนายปิยะ สมัครพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 จังหวัดระยอง กล่าวว่า จังหวัดจันทบุรี ถือว่าเป็นจังหวัดที่ประสบความสำเร็จ เป็นศูนย์กลางของระบบส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ของภาคตะวันออก โดยจังหวัดจันทบุรีมีกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ จำนวน 66 แปลง เป็นแปลงใหญ่ที่จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน ประเภทนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และเข้าร่วมโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด จำนวนทั้งสิ้น 28 แปลง เกษตรกรจำนวน 1,274 ราย รวมพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ 13,694 ไร่

ประกอบด้วย 1) แปลงใหญ่มังคุด จำนวน 7 แปลง สมาชิก 342 ราย พื้นที่ 3,369 ไร่ ได้รับเงินสนับสนุนตามโครงการประมาณ 16.4 ล้านบาท โดยได้ดำเนินการจัดซื้อรถตัดหญ้าแบบนั่งขับแอร์บัส เครื่องคัดมังคุด อุปกรณ์แปรรูปและเครื่องมือเครื่องจักรอื่นๆ เช่น รถโฟล์คลิฟท์ เครื่องชั่ง เครื่องรัดกล่อง 2) แปลงใหญ่ทุเรียน จำนวน 13 แปลง สมาชิก 568 ราย พื้นที่ 7,526 ไร่ ได้รับเงินสนับสนุนตามโครงการประมาณ 30.6 ล้านบาท นำไปใช้จัดซื้อรถตัดหญ้าแบบนั่งขับแอร์บัส ระบบน้ำโซล่าเซลล์ และท่อส่งน้ำ ปรับปรุงสถานที่เพื่อการแปรรูป และพัฒนาอุปกรณ์การแปรรูป 3) แปลงใหญ่ลำไย จำนวน 2 แปลง สมาชิก 97 ราย พื้นที่ 1,543 ไร่ ได้รับเงินสนับสนุนตามโครงการประมาณ 5.9 ล้านบาท นำไปใช้จัดทำระบบน้ำโซล่าเซลล์ จัดซื้อเครื่องย่อยกิ่งไม้ เครื่องขุด 4) แปลงใหญ่สมุนไพรพริกไทย จำนวน 3 แปลง สมาชิก 93 ราย พื้นที่ 175 ไร่ ได้รับเงินสนับสนุนตามโครงการประมาณ 4.2 ล้านบาท นำไปใช้ในการวางระบบน้ำเพื่อการเกษตร จัดทำห้องอบพลังงานแสงอาทิตย์ จัดซื้อวัสดุเพื่อการแปรรูป เช่น ตู้อบลมร้อน เครื่องซีน เครื่องบดแห้ง เครื่องกลั่นสมุนไพร และก่อสร้างอาคารรวบรวมผลผลิต 5) แปลงใหญ่ปศุสัตว์ จำนวน 2 แปลงสมาชิก 138 ราย พื้นที่ 282 ไร่ โคนม 2,576 ตัว ได้รับเงินสนับสนุนตามโครงการประมาณ 5.6 ล้านบาท นำไปใช้จัดซื้อรถตัดหญ้าเนเปียร์ รถตักล้อยาง และจัดทำระบบน้ำ และโซล่าเซลล์ และ 6) แปลงใหญ่ประมง จำนวน 1 แปลง สมาชิก 32 ราย พื้นที่ 733 ไร่ ได้รับเงินสนับสนุนตามโครงการประมาณ 2.8 ล้านบาท นำไปใช้จัดซื้อเครื่องวัดค่าออกซิเจนในน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

นายธีรภัทร อุ่นใจ ประธานกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียน บริษัทแปลงใหญ่ทุเรียนคิชฌกูฏ จำกัด กล่าวว่า ต้องขอบคุณนโยบายของทางภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีโครงการยกระดับแปลงใหญ่นี้ นโยบายนี้ถือว่าเป็นการช่วยเหลือ สนับสนุนทางด้านปัจจัยการผลิต ให้กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ ได้มีนวัตกรรมและเทคโนโลยี ใช้ร่วมกันภายในกลุ่ม เพื่อที่จะเป็นการลดต้นทุน เพิ่มรายได้ ให้แก่กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ และทำให้กลุ่มแปลงใหญ่มีความมั่นคง แข็งแรงและสร้างผลกำไรในการประกอบการได้ ในอนาคตก็สามารถที่จะขยายฐานการตลาด ฐานการผลิต ในกลุ่มแปลงใหญ่ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ก็ต้องขอบคุณนโยบายของภาครัฐในครั้งนี้ที่ให้โอกาสกลุ่มแปลงใหญ่ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ จังหวัดจันทบุรี โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี ได้ดำเนินการทำบันทึกข้อตกลงกับผู้แทนกลุ่มแปลงใหญ่ และแจ้งทาง ธกส. โอนเงินให้กลุ่มแปลงใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564 รวมจำนวนกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ทั้งสิ้น 28 แปลง งบประมาณสนับสนุนตามโครงการ รวมทั้งสิ้นประมาณ 67.8 ล้านบาท ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ที่มีความเข้มแข็ง สามารถพัฒนาต่อยอด นำระบบเกษตรสมัยใหม่ เทคโนโลยีนวัตกรรม พร้อมทั้งการเชื่อมโยงตลาด

ซึ่งการสนับสนุนงบประมาณจากโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด จะเป็นการสร้างโอกาสทางการค้า การลงทุน พัฒนา คุณภาพสินค้าเกษตร โดยมีกลุ่มสมาชิกเกษตรกรเป็นหลักในการขับเคลื่อนดำเนินการ เพื่อศักยภาพการบริหารจัดการแปลงใหญ่ ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทำให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตดี สร้างรายได้อย่างยั่งยืน ส่งผลให้เศรษฐกิจระดับครัวเรือน ชุมชน เกิดความมั่นคงด้านเศรษฐกิจฐานรากและการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต