สสก. 3 จ.ระยอง โชว์ผลงาน เทคนิคบังคับทุเรียนออกผลนอกฤดูการผลิต ของสุเทพ จรูญชนม์ เกษตรกรทำสวนดีเด่น ปี 64

สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง โชว์ผลงานการพัฒนาเกษตรกร จนได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่นสาขาทำสวนปี 64 ของภาคตะวันออก ที่เน้นบังคับทุเรียนออกดอก ออกผลนอกฤดู จนได้ราคาดี แถมจัดการพื้นที่แบบลดต้นทุน ใช้เครื่องจักรกล ระบบน้ำอัจฉริยะสั่งการทางมือถือ และปลูกพืชแซมหลากหลายเป็นรายได้ก่อนทุเรียนให้ผลผลิต

นายปิยะ สมัครพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง ( สสก. 3 ) เปิดเผยว่า นายสุเทพ จรูญชนม์ เกษตรกรอำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการพิจารณา ให้ได้รับรางวัล เกษตรกรดีเด่นสาขาทำสวน ระดับเขตภาคตะวันออก ประจำปี 2564 เนื่องจากเป็นผู้ประสบผลสำเร็จเรื่องการทำสวนทุเรียนนอกฤดู โดยบังคับดอกทุเรียนให้ออกก่อนฤดูกาล ทำให้ผลผลิตมีราคาดี กำหนดราคาขายเองได้

นายปิยะ กล่าวต่อไปว่า นายสุเทพ ถือเป็นเกษตรกรหัวไวใจสู้ แม้ในปีแรกๆ ที่ทำนอกฤดูจะไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ต้นทุเรียนให้ผลผลิตเพียงร้อยละ 40 เท่านั้น แต่ไม่ละความพยายาม ได้ศึกษาเรียนรู้อย่างจริงจังจากผู้มีประสบการณ์และนักวิชาการการเกษตร เช่น การนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในพื้นที่เพาะปลูกเพื่อแก้ปัญหาแรงงาน ลดต้นทุนการผลิต โดยหันมาสารชีวภัณฑ์ในการควบคุมแมลงศัตรูพืช จนประสบความสำเร็จ สามารถผลิตทุเรียนนอกฤดูได้

“นายสุเทพปลูกทุเรียนบนเนื้อที่รวม 176 ไร่ เป็นการผลิตทุเรียนนอกฤดู ร้อยละ 80 ของผลผลิตทั้งหมด ส่งขายตลาดต่างประเทศ ที่เหลืออีกร้อยละ 20 ขายตลาดในประเทศ เทคนิคการบังคับให้ทุเรียนออกดอกและให้ผลผลิตก่อนฤดูปกติ สามารถขายผลผลิตในราคาที่ดี ลดการกระจุกตัวของผลผลิตในฤดู สามารถกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิตในช่วงเก็บเกี่ยวกว้างมากขึ้น ลดเสี่ยงปัญหาภัยธรรมชาติ ที่มักเกิดขึ้นทุกปี มีการนำสารกลุ่มควบคุมการเจริญเติบโตพืช ซึ่งมีผลในการควบคุมระดับฮอร์โมน GA ภายในยอดมาใช้ ทำให้ทุเรียนมีความเครียดและผลิดอกออกผลในช่วงเวลาที่กำหนดได้” นายปิยะ กล่าว

ด้าน นายสุเทพ จรูญชนม์ เปิดเผยถึงปัจจัยสำคัญของการผลิตทุเรียนนอกฤดูให้ประสบความสำเร็จว่า ต้นทุเรียนต้องมีความสมบูรณ์แข็งแรง อายุประมาณ 5 -15 ปี มีใบที่สมบูรณ์ ใบหนาไม่มีความเสียหายจากโรคและแมลง  ต้องบำรุงให้ใบทุเรียนมีคุณลักษณะดังกล่าวก่อนที่จะกระตุ้นให้เกิดตาดอกอย่างน้อย 2 ชุด

“ ที่สำคัญต้องมีการวางแผนการผลิตไม่ให้มีผลผลิตออกมาเก็บเกี่ยวพร้อมกับทุเรียนในฤดู ของภาคตะวันออก ซึ่งมีฤดูการเก็บเกี่ยวประมาณเดือนเมษายน – มิถุนายน ของทุกปี ฉะนั้นทุเรียนนอกฤดูควรเก็บเกี่ยวก่อนเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดยังไม่มากนัก สามารถขายทุเรียนได้ราคาสูง”

นอกจากนี้ ควรวางแผนการตลาด และป้องกันโรคแมลงศัตรูพืช โดยใช้หลักการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน (IPM) แต่เนื่องพื้นที่ปลูกทุเรียนต้องการใช้แรงงานจำนวนมาก แต่ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน จึงแก้ไขโดยนำเครื่องจักรกลทางการเกษตรมาใช้ในสวนทุเรียน เช่น เครื่องพ่นยา เครื่องตัดหญ้า รถกระเช้า ตลอดจนนำระบบสั่งการให้น้ำทุเรียนผ่านโทรศัพท์มือถือ มาปรับใช้ในการดูแลสวนทุเรียน จนประสบความสำเร็จด้วยดี ที่ผ่านมามีเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ สนใจเดินทางเข้ามาศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดทำแปลงสาธิตการผลิตทุเรียนนอกฤดูขึ้น เพื่อให้เกษตรกรที่สนใจได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ที่สวนของตนเอง

นอกจากนี้ ยังจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ทุเรียนนอกฤดู อำเภอวังจันทร์ ขึ้น ปัจจุบันมีนายสุเทพ เป็นประธาน มีสมาชิก 32 ราย พื้นที่ปลูก 475 ไร่ ให้ผลผลิตรวม 950 ตันต่อปี โดยทางวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ ทุเรียนนอกฤดู อำเภอวังจันทร์ ได้มีการแบ่งปันเทคนิคและความรู้ต่าง ๆ แบบไม่หวังสิ่งตอบแทน ให้แก่เกษตรกรทั่วไป เช่น การผลิตทุเรียนนอกฤดู เทคนิคการตัดแต่งกิ่ง การปลูกพืชแซมสวนทุเรียน เพื่อเป็นรายได้เสริมก่อนฤดูเก็บเกี่ยวทุเรียน และการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร เป็นต้น

สำหรับการพิจารณาคัดเลือกเกษตรกรดีเด่น บุคคลทางการเกษตร และสถาบันเกษตรกรที่มีผลงานดีเด่นเป็นประจำทุกปีตามนโยบายของกรมส่งเสริมการเกษตร  เพื่อเผยแพร่และยกย่องเชิดชูเกียรติเกษตรกรต้นแบบ ให้เป็นที่ปรากฏต่อสาธารณะชน เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจในอาชีพตนเอง เป็นแหล่งเรียนรู้และศึกษาผลงานจากตัวอย่างจริง เพื่อพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานต่อไป  เกษตรกรที่ผ่านการคัดเลือกระดับจังหวัด จะส่งผลการคัดเลือกให้กรมส่งเสริมการเกษตรพิจารณาคัดเลือกเป็นเกษตรกร บุคคลทางการเกษตร และสถาบันเกษตรกรดีเด่นระดับประเทศ เพื่อเข้ารับพระราชทานโล่ในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญต่อไป