เผยแพร่	วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2564

กลุ่มแปลงใหญ่มังคุดตำบลท่าหลวง อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดตามโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ของรัฐบาลในปี 2563 ปัจจุบันได้จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่มังคุดตำบลท่าหลวง โดดเด่นที่สวนของสมาชิกทุกรายได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP แล้ว

นายวีระศักดิ์ เทพวรสุข กรรมการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมังคุดแปลงใหญ่ตำบลท่าหลวง กล่าวว่า ในแต่ละปี เกษตรกรผู้ปลูกมังคุดในตำบลท่าหลวงมักประสบปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิตสูงและปริมาณผลผลิตที่ไม่แน่นอน การจำหน่ายก็เป็นแบบต่างคนต่างขายและขายแบบคละเกรด ทำให้ถูกกดราคาจากผู้รับซื้อ ส่งผลทำให้ราคาผลผลิตตกต่ำ จากปัญหาดังกล่าวกลุ่มเกษตรกรฯ จึงได้รวมตัวกันสมัครเข้าร่วมโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ วางเป้าหมายเพื่อให้สมาชิกทุกคนสามารถลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต และผลิตมังคุดคุณภาพ มีการบริหารจัดการ และทำการตลาดร่วมกัน โดยได้รับการสนับสนุนองค์ความรู้ต่างๆ จากกรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี สำนักงานเกษตรอำเภอมะขาม ทำให้เกษตรกรสมาชิกสามารถผลิตมังคุดที่มีคุณภาพ ตรงกับความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ ปัจจุบันมีสมาชิก จำนวน 51 ราย พื้นที่ปลูกจำนวน 453 ไร่

ซึ่งผลิตตามรูปแบบตลาดนำการผลิต สามารถจำหน่ายผลผลิตโดยตรงให้กับผู้รับซื้อผลผลิต หรือล้งส่งออก ขายผลผลิตมังคุดได้ทุกเกรดคุณภาพ โดยให้สมาชิกคัดแยกเกรดคุณภาพมังคุดให้ตรงกับความต้องการของตลาด โดยจะแบ่งเป็น 5 เกรดด้วยกัน คือ 1) เกรดผิวมัน จะเป็นมังคุดที่มีคุณภาพที่สุดราคาสูงที่สุด ราคาที่ประมูลได้ จะอยู่ที่ประมาณ 60-67 บาท/กิโลกรัม 2) เกรดกากและหูแดง จะเป็นคุณภาพที่รองลงมาแต่จะเป็นเกรดที่ประเทศจีนต้องการมาก ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 50 บาท/กิโลกรัม 3) เกรดตกไซส์ ไซส์นี้จะเป็นไซส์ที่ลอดห่วง 2 นิ้วสีเหลือง ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 32-33 บาท/กิโลกรัม 4) เกรดดำที่อยู่บนต้นไม่ใช่เกรดดำตกดิน ราคาประมาณ 26 บาท/กิโลกรัม และ 5) เกรดแตกที่แตกอยู่บนต้นไม่ใช่เกิดจากการตกดินแล้วแตก ราคาประมาณ 11 บาท/กิโลกรัม ทางกลุ่มได้นำระบบการตลาดแบบประมูลมาใช้ในปีการผลิต 2563 และ ปี2564

ผลจากการทำตลาดประมูล ช่วยสร้างรายได้เพิ่มขึ้นมาก ทำให้มีสมาชิกเพิ่มขึ้น สมาชิกมีรายได้เพิ่มและขายผลผลิตได้ทุกเกรดคุณภาพ แต่ก็ยังประสบปัญหาในการจัดการผลผลิต เมื่อผลผลิตมีจำนวนมาก ทำให้แรงงานเครื่องจักรที่มีอยู่เดิม รวมทั้งตะกร้าใส่ผลผลิตไม่เพียงพอ ทำให้เกิดความล่าช้าในการคัดแยกเกรด ไม่สามารถกระจายสินค้าส่งลูกค้าได้ทัน ทางกลุ่มจึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ซึ่งได้รับสนุนงบประมาณทั้งสิ้น 1.8 ล้านบาท

เพื่อนำมาจัดหาจัดซื้ออุปกรณ์ ได้แก่ 1) เครื่องคัดมังคุด จากเดิมคัดมือ ใช้แรงงานคนจำนวมาก พอได้เครื่องคัดมังคุดมาก็ทำให้ประหยัดทั้งแรงงานและเวลา คุณภาพและไซต์ของมังคุดมีความเสถียรมากขึ้น 2) ตะกร้าใส่มังคุด ซึ่งมักเกิดการชำรุดเสียหายระหว่างการขนส่ง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีตะกร้าให้เพียงพอต่อการหมุนเวียนผลผลิตภายในกลุ่ม 3) รถแม็คโคร เนื่องจากเมื่อมีฝนตกชุกและมีน้ำขัง มังคุดจะเกิดเนื้อแก้วยางไหล เมื่อได้รถแม็คโครมาแล้วก็จะช่วยทำให้สมาชิกมีอุปกรณ์ที่จะขุดลอกระบายน้ำออกจากสวนให้เร็วที่สุด ซึ่งจะทำให้ปัญหาเนื้อแก้วยางไหลในมังคุดหมดไป

ดังนั้น โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาดจึงช่วยให้กลุ่มเราใช้เครื่องมือเทคโนโลยีที่ทันสมัยทดแทนแรงงาน มีประโยชน์ต่อพวกเราสมาชิกแปลงใหญ่อย่างยิ่ง ในอนาคตก็จะพัฒนา การผลิตและการตลาดให้มีศักยภาพมากเพิ่มขึ้น ก่อเกิดรายได้ที่มั่นคง ยั่งยืนต่อไป