ผู้เขียน | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
กรณีเหตุต้นไม้ขนาดใหญ่ บริเวณหน้าอาคารอัลม่าลิ้งค์ (แยกชิดลม) ถ.เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. ล้มทับสายสื่อสารและเหนี่ยวรั้งดึงเสาไฟฟ้าหักโค่นเสียหายทำให้เสาสายสื่อสารล้ม จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมถึงทรัพย์สินของได้รับความเสียหายเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา
วันที่ 14 พฤษภาคม นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบป้ายขนาดใหญ่และการดูแลรักษาต้นไม้ในพื้นที่กทม. ว่า ทางสำนักการโยธาได้ให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของป้าย ในปัจจุบันมีป้ายขนาดใหญ่อยู่ 1,078 ป้าย ในปัจจุบันมีป้ายขนาดใหญ่อยู่ 1,078 ป้าย เนื่องจากขณะนี้กำลังเข้าสู่ฤดูฝน ป้ายในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีจำนวนมาก อาทิ เขตจตุจักร ลาดกระบัง เป็นเขตที่มีป้ายอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมามีป้ายที่ล้มระหว่างที่เกิดลมพายุ เจ้าของป้ายต้องตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของป้ายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย ตามกฎกระทรวงว่าด้วยการควบคุมป้ายหรือสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับติดหรือตั้งป้าย ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ.2558
รองผู้ว่ากทม.กล่าวว่า ส่วนเรื่องต้นไม้ที่ปลูกในพื้นที่สาธารณะเป็นหน้าที่ของสำนักงานสิ่งแวดล้อมและสำนักงานเขตในพื้นที่ในการดูแลรักษา ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการดูแลบำรุงรักษาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามต้นไม้ใหญ่ๆในพื้นที่กทม.ส่วนใหญ่รากจะลงไปไม่ลึก เนื่องจากการปลูกต้นไม้มักจะปลูกภายหลังที่มีการก่อสร้างถนน ซึ่งจะมีระบบสาธารณูปโภคต่างๆอยู่ใต้ดิน ทำให้ต้นไม้ที่ปลูกซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีรากแก้ว รากแขนงหรือรากของต้นไม้ก็มีโอกาสที่ไม่สามารถยึดรัดกับต้นไม้ได้เพราะต้นไม้มีขนาดใหญ่ ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของกรุงเทพมหานครที่จะเข้าไปดูแลต้นไม้ในพื้นที่สาธารณะ หากมีการแตกกิ่งก้านสาขาจนอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชน หากเกิดพายุพัดกิ่งอาจหักลงมาได้ โดยจะดำเนินการตัดแต่งกิ่งไม้เท่าที่จำเป็น หรือต้นไม้บางต้นที่มีลักษณะเอนเอียงอาจล้มลงมา ก็จะดำเนินการล้อมหรือใช้ไม้หรือเหล็กค้ำยันไว้ เพื่อให้แข็งแรงคงทนอยู่ในพื้นที่ได้
“ในส่วนกรณีเกิดอุบัติเหตุตามหลักการแล้วถ้าเป็นต้นไม้หรือป้ายที่มีเจ้าของ เจ้าของที่ดูแลเรื่องต้นไม้กับป้ายต้องเป็นผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ในกรณีที่เป็นเรื่องป้ายส่วนหนึ่งแล้วกทม.จะเข้าไปดำเนินการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากไม่เข้าไปดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายก็ถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่เช่นกันถึงแม้ว่าจะเป็นป้ายเอกชน” นายจักกพันธุ์กล่าว