ที่มา | เรื่องเล่าจากกศน. |
---|---|
ผู้เขียน | สาวบางแค22 |
เผยแพร่ |
ในอดีต ผลกระทบของสงครามในเขตชายแดนไทย-กัมพูชา ราษฎรกัมพูชาจำนวนมากได้หลบหนีการสู้รบและหนีความอดอยากเข้าสู่ประเทศไทยในบริเวณชายแดนจังหวัดปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ทำให้ความเป็นอยู่ของราษฎรไทยแถบนี้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก รัฐบาลจำเป็นต้องหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งวิธีการหนึ่งคือ การพัฒนาอาชีพราษฎรไทย เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย
ศูนย์อำนวยการร่วมกองบัญชาการทหารสูงสุด และกรมการศึกษานอกโรงเรียน ได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนจากผลกระทบดังกล่าว จึงได้ประสานงานขอความช่วยเหลืองบประมาณจากญี่ปุ่น จัดตั้ง “ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนสระแก้ว” (ศฝช.สระแก้ว) เมื่อ 23 กันยายน 2525 เพื่อดำเนินการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในพื้นที่ชายแดน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสระแก้ว จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด และพื้นที่ตามโครงการพระราชดำริ (โครงการทับทิมสยาม 02) ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่ประชาคมอาเซียนและพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษอย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน ศฝช.สระแก้ว จัดเป็นอุทยานการศึกษาของจังหวัดสระแก้ว มีหน่วยงานทางการศึกษา จำนวน 6 แห่ง ใช้พื้นที่ในบริเวณร่วมกัน ได้แก่ สำนักงาน กศน.จังหวัดสระแก้ว กศน.อำเภอเมืองสระแก้ว ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสระแก้ว วิทยาลัยชุมชนสระแก้ว ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสระแก้ว และหอสมุด อบจ.สระแก้ว
โครงการทับทิมสยาม 02
ปัจจุบัน ศฝช.สระแก้ว ศูนย์วิจัยอาหารสัตว์สระแก้ว ของกรมปศุสัตว์ และกรมป่าไม้ มีหน้าที่สนับสนุนโครงการพระราชดำริ (โครงการทับทิมสยาม 02) ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลคลองไก่เถื่อน อำเภอคลองหาด มีเนื้อที่ประมาณ 1,460 ไร่ พื้นที่โครงการเดิมเป็นที่ตั้งศูนย์อพยพที่ 8 จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2536 มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งศึกษา ค้นคว้า วิจัย และสร้างกระบวนการเรียนรู้ในการพัฒนาอาชีพให้แก่ราษฎรไทยบริเวณชายแดน
ผลการดำเนินงานตามโครงการที่ผ่านมา ได้แก่ 1. กิจกรรมการพัฒนาพันธุ์พืชอาหารสัตว์ เช่น การผลิตท่อนพันธุ์พืชอาหารสัตว์ เมล็ดพันธุ์พืช และการผลิตกล้าพืช เป็นต้น 2. กิจกรรมการวิจัยด้านอาหารสัตว์ เช่น การค้นหาเทคโนโลยีใหม่ในการพัฒนาคุณภาพอาหารสัตว์ 3. กิจกรรมการพัฒนาเทคโนโลยีอาหารสัตว์ เช่น การคำนวณสูตรการจัดการแปลงหญ้ากับสัตว์เลี้ยง 4. กิจกรรมการบริการด้านวิชาการอาหารสัตว์ เช่น ให้คำแนะนำด้านวิชาการ การจัดทำสื่อสิ่งพิมพ์ 5. การคัดเลือกเกษตรกรเข้าร่วมโครงการปลูกหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ จำนวน 22 ครอบครัว ร่วมกับ บริษัท สวิฟท์ จำกัด และ 6. ดำเนินการปลูกป่าและฟื้นฟูสภาพป่า จำนวน 5,100 ไร่
นอกจากนี้ ศฝช.สระแก้ว มีหน้าที่สนับสนุนโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ สนองพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดตั้งโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ขึ้น เพื่อเป็นโรงเรียนสำหรับฝึกกระบือให้สามารถไถนาและทำงานด้านการเกษตรกรรม และสอนผู้ที่ต้องการใช้กระบือทำการเกษตร ให้สามารถทำงานร่วมกับกระบือได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถดูแลกระบือให้มีสุขภาพแข็งแรง นอกจากนี้ จะเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องวิถีชีวิต ความเป็นอยู่แบบพื้นบ้านที่เรียบง่าย และการใช้ชีวิตแบบพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้วย
ฐานเรียนรู้ เกษตรธรรมชาติ
ทุกวันนี้ ศฝช.สระแก้ว เป็นแปลงสาธิต ทดลอง วิจัย การปลูกพืชผักตามแนวเกษตรธรรมชาติ MOA และฝึกอบรม ได้แก่ การปรับปรุงดิน การทำปุ๋ยหมัก การเก็บเมล็ดพันธุ์ผัก การปลูกผักสลัด การทดลอง วิจัยด้านเกษตรธรรมชาติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น
ฐานเรียนรู้ การเพาะเห็ด
ที่ผ่านมา มีนักศึกษา กศน. ประชาชน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่สนใจได้เข้ามาเยี่ยมชมศึกษาและดูงาน ศฝช.สระแก้ว ในเรื่องวิถีเกษตรในประเด็นต่างๆ เช่น ศูนย์เรียนรู้การเพาะเห็ด เพราะ ศฝช.สระแก้ว เป็นแหล่งสาธิต ทดลอง วิจัย การเพาะเห็ดครบวงจร ประกอบด้วยหลักสูตรต่างๆ อาทิ การเพาะเห็ดหลินจือ การแปรรูปเห็ด เช่น การทำน้ำเห็ด 7 อย่าง เห็ดหลินจืออบแห้ง และการนำวัสดุเหลือใช้จากการเพาะเห็ดมาทำเป็นปุ๋ยอัดเม็ด ฯลฯ
เลขา กศน. ชื่นชมผลงาน
เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.วรัท พฤกษาทวีกุล เลขาธิการ กศน. ได้เยี่ยมเยือนศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนสระแก้ว (ศฝช.สระแก้ว) อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว โดย นายมาโนช ชลารักษ์ ผู้อำนวยการ ศฝช.สระแก้ว และคณะ ให้การต้อนรับด้วยความยินดี
ดร.วรัท พฤกษาทวีกุล เลขาธิการ กศน. ได้แสดงความชื่นชมผลงานของ ศฝช.สระแก้ว ในฐานะศูนย์การเรียนรู้การปลูกพืชสมุนไพร ศูนย์การเรียนรู้การเพาะเห็ด ฐานการเรียนรู้เกษตรธรรมชาติ และฐานเกษตรทฤษฎีใหม่ ศาสตร์พระราชาสู่โคก หนอง นา โมเดล โดยถ่ายทอดองค์ความรู้ดังกล่าวสู่ประชาชนในบริเวณชายแดน 3 จังหวัด คือ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด ได้มีอาชีพ และอาชีพที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ ศฝช.สระแก้ว ยังได้ดำเนินโครงการ กศน. ห่วงใยร่วมต้านภัยโควิด-19 กิจกรรมล้านเมล็ดพันธุ์สู้ภัยโควิด โดยศูนย์ได้เพาะต้นกล้าสมุนไพร ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร และกระชาย ไว้แจกจ่ายประชาชนด้วย
ซึ่งทางศูนย์ได้แปรรูปสมุนไพรเป็นชนิดแคปซูล ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร กระชาย ขมิ้นชัน และมะขามป้อม โดยได้รับการการันตีว่ามีคุณภาพ โดยเฉพาะน้ำเห็ดหลินจือ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว
30 ตารางวา สู้วิกฤตโควิด-19
ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
อีกหนึ่งผลงานที่น่าสนใจของ ศฝช.สระแก้ว คือ การศึกษาวิจัยเรื่องการพัฒนารูปแบบ 30 ตารางวา สู้วิกฤตโควิด-19 ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งผลการดำเนินงานในปี 2563 ในพื้นที่เป้าหมาย พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการเลือกใช้พื้นที่ในรูปแบบแปลงสี่เหลี่ยมมากที่สุด รองลงมาเป็นรูปแบบแปลงตัวเอรูปแบบปลูกในภาชนะ และรูปแบบแปลงตัวยู เป็นลำดับสุดท้าย
กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ มีความรู้ ความเข้าใจ การปลูกพืชผักตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เช่น การเลือกพื้นที่ การเตรียมดิน การเตรียมเมล็ดพันธุ์ การปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว การเก็บเมล็ดพันธุ์ และการทำอาหารเพื่อสุขภาวะ ผลผลิตที่ได้ถูกใช้บริโภคในครัวเรือน การแบ่งปันเพื่อนสมาชิก การจำหน่ายผลผลิตเพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และการทำอาหารเพื่อสุขภาวะ มีค่านิยมที่ดี มีคุณธรรมพื้นฐานก่อให้เกิดความสมดุลในทุกๆ ด้าน ทั้งในการดำรงชีวิตในครอบครัวและชุมชน มีการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการยังเกิดความรู้ ความเข้าใจตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ถูกต้อง นำไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิต เกิดการจัดการเรียนรู้ มีกระบวนการส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เช่น การฝึกอบรม และการศึกษาดูงาน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบข่าวจาก ศฝช.สระแก้ว และสำนักงาน กศน.