‘ลองกองวังขุม’ แปลงใหญ่ จ.สุราษฎร์ธานี คุณภาพมาตรฐาน GAP รสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สศท.8 เชิญชวนบริโภค ขณะนี้ออกตลาดแล้ว

นางพัชรารัตน์ ลิ้มศิริกุล

นางพัชรารัตน์ ลิ้มศิริกุล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 สุราษฎร์ธานี (สศท.8) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงภาพรวมของสถานการณ์การผลิตลองกองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปี 2564 (ข้อมูล ณ กรกฎาคม 2564) พบว่า มีผลผลิตรวม 4,842 ตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมา ที่มีจำนวน 5,096 ตัน (ลดลง 254 ตัน หรือร้อยละ 5) เนื่องจากฝนมาเร็วทำให้ช่วงระยะเวลาแล้งไม่เพียงพอให้ลองกองออกดอกได้เต็มที่ ซึ่งขณะนี้ผลผลิตได้เริ่มทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 โดยจะออกมากที่สุดในเดือนกันยายน และออกต่อเนื่องถึงเดือนตุลาคม 2564

จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นแหล่งผลิตลองกองที่สำคัญของภาคใต้ตอนบน เกษตรกรมีการปลูกแบบรายเดียวและรวมกลุ่มผลิต ผลผลิตมีการส่งจำหน่ายไปยังตลาดสำคัญในประเทศ และส่งออกตลาดต่างประเทศ ซึ่ง สศท.8 ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การผลิตและตลาดของ “กลุ่มแปลงใหญ่ลองกองอำเภอบ้านตาขุน” จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายใต้ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นกลุ่มแปลงใหญ่ลองกองเพียงกลุ่มเดียวในภาคใต้ตอนบน สามารถสร้างรายได้ให้กลุ่มกว่า 2.3 ล้านบาท/ปี รวมถึงผลผลิตของกลุ่มได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP จึงสร้างความมั่นใจกับผู้บริโภคและผู้ค้าได้ว่าผลผลิตลองกองของกลุ่มมีคุณภาพและได้มาตรฐาน

สำหรับกลุ่มแปลงใหญ่ลองกองอำเภอบ้านตาขุน เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 ปัจจุบัน มีพื้นที่ปลูก 240 ไร่ มีสมาชิกเกษตรกร 50 ราย โดยมี นายพิศาล พิทักษ์แทน เป็นประธานกลุ่ม ผลผลิตลองกองในแปลงใหญ่ได้รับความนิยมสูงและเป็นที่รู้จักในชื่อ “ลองกองวังขุม” ซึ่งในอดีตที่บริเวณนี้เป็นต้นแม่น้ำพุมดวง เป็นสายน้ำที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ดีบุก ส่งผลให้ลองกองมีรสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดยประมาณปี 2525 ชาวบ้านได้ซื้อลองกองจากจังหวัดนราธิวาสมารับประทาน พบว่า รสชาติดี และราคาแพงมากในช่วงเวลานั้น จึงใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการเสียบยอด โดยตัดตอลางสาดเสียบยอดลองกอง ผลผลิตที่ออกมาจึงมีความหอม รสชาติหวานอร่อย เมื่อผลสุกเปลือกจะบางและมีสีทอง เนื้อในจะมีสีขาวใสอมชมพู

ด้านสถานการณ์การผลิตลองกองของกลุ่มแปลงใหญ่ ปี 2564 มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 10,100 บาท/ไร่/ปี ผลผลิตของกลุ่มแปลงใหญ่จะออกสู่ตลาดช่วงปลายเดือนกรกฎาคม – กันยายน ผลผลิตรวมประมาณ 273 ตัน/ปี ผลผลิตเฉลี่ย 1,138 กิโลกรัม/ไร่/ปี ผลตอบแทนเฉลี่ย 19,847 บาท/ไร่/ปี ผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) เฉลี่ย 9,747 บาท/ไร่/ปี ราคาลองกองที่เกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่ขายได้ ณ สิงหาคม 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตลองกองแปลงใหญ่เริ่มออกสู่ตลาด แบ่งตามเกรด ได้แก่ เบอร์ 1 ราคา 35 บาท/กิโลกรัม, เบอร์ 2 ราคา 25 บาท/กิโลกรัม และเบอร์ 3 ราคา 15 บาท/กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม ปีนี้ปริมาณผลผลิตของกลุ่มแปลงใหญ่ลดลงจากปีที่ผ่านมา ซึ่งสถานการณ์เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับภาพรวมของจังหวัด สำหรับสถานการณ์ตลาด ผลผลิตส่วนใหญ่ ร้อยละ 70 ส่งจำหน่ายตลาดสี่มุมเมือง และตลาดไท รองลงมา ร้อยละ 15 ส่งจำหน่ายพ่อค้าคนกลาง ซึ่งมารับซื้อผลผลิตเพื่อส่งออกตลาดต่างประเทศ ได้แก่ เวียดนาม สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์, ร้อยละ 10 ส่งจำหน่ายไปยังจังหวัดเชียงใหม่ ราชบุรี และนครปฐม และส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 5 ส่งจำหน่าย Top Supermarket Big C และ Tesco Lotus รวมถึงจำหน่ายทางออนไลน์ ผ่านเพจ Facebook “สวนแม่แดง – สุราษฎร์ธานี” ของสมาชิกกลุ่ม

ผลสำเร็จของกลุ่มแปลงใหญ่ลองกอง เกษตรกรได้มีการรวมกลุ่มผลิตลองกองคุณภาพตามมาตรฐาน GAP โดยการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้ตรงกับความต้องการของตลาด การรวมกลุ่มกันซื้อปัจจัยการผลิตเพิ่มอำนาจต่อรอง การเน้นตลาดนำการผลิต มีการเชื่อมโยงตลาด ซึ่งหลังจากเกษตรกรเข้าร่วมโครงการแปลงใหญ่เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ ร้อยละ 20 ผลผลิตเพิ่มขึ้น ร้อยละ 30 เนื่องจากเกษตรกรได้รับองค์ความรู้ในการปรับปรุงบำรุงดิน การใส่ปุ๋ยตามผลค่าวิเคราะห์ดิน การทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพจากวัสดุที่มีในท้องถิ่นไว้ใช้เอง ลดการใช้สารเคมี ทำให้ต้นทุนการผลิตของเกษตรลดลง มีรายได้เพิ่มขึ้น

ผู้อำนวยการ สศท.8 กล่าวทิ้งท้ายว่า โอกาสนี้ ขอเชิญชวนผู้บริโภคทุกท่านร่วมสนับสนุนผลผลิตลองกองของเกษตรกร ซึ่งออกสู่ตลาดในขณะนี้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และเป็นกำลังใจให้พี่น้องเกษตรกร ในการผลิตผลไม้ที่มีคุณภาพต่อไป หากเกษตรกร หรือท่านที่สนใจข้อมูลการผลิตลองกอง สามารถขอคำปรึกษา นายพิศาล พิทักษ์แทน ประธานกลุ่มแปลงใหญ่ลองกอง หมู่ที่ 1 ตำบลเขาวง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือโทร. 090-867-1037 และสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สศท.8 สุราษฎร์ธานี โทร. 077-311-597 หรือ อี-เมล  [email protected]