สรุปภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์ วันที่ 6-10 กันยายน 256

 ข้าวโพด : ราคาเพิ่มขึ้น

สัปดาห์นี้ ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ ปรับขึ้นจากหาบละ 630 บาท เป็นหาบละ 666 บาท เนื่องจากภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลผลิตเข้าสู่ตลาดน้อยลง และส่งผลต่อคุณภาพของผลผลิต

ด้านตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 8 กันยายน 2564 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รอบส่งมอบเดือนธันวาคม 2564 ราคาอยู่ที่ 510.25 เซนต์/บุชเชล ราคาปรับลดลง จากการที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ปรับลดคาดการณ์ข้าวโพดฤดูกาล 2564/65 ที่อยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมากมาอยู่ที่ 59% ลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีพื้นที่บางส่วนทางตอนใต้ของมิดเวสต์เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ในรายงานผลผลิตประจำเดือนกันยายน ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นที่ 85.1 ล้านเอเคอร์ และพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดเพิ่มขึ้นที่ 175.8 บุชเชลต่อเอเคอร์

แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวโพดในประเทศน่าจะทรงตัว

 

ถั่วเหลือง : ราคาทรงตัว

กากถั่วเหลืองจากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้าในสัปดาห์นี้ ทรงตัวที่กิโลกรัมละ 18.90 บาท ขณะที่พายุในฝั่งอเมริกาเริ่มเบาบาง ด้านการเพาะปลูกยังคงอยู่ในระดับที่ดี โดยคาดการณ์ว่าผลผลิตจะมีปริมาณที่สูง อาจส่งผลกดดันราคาในตลาดให้ลดลงได้ แต่ปริมาณซื้อจากจีนในตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงมีอยู่มาก ขณะที่ค่าระวางเรือทั่วโลกที่ยังคงสูง ส่งผลให้ราคาซื้อยังอยู่ในระดับที่สูง

ด้านตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 8 กันยายน 2564 เมล็ดถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนพฤศจิกายน 2564 ราคาอยู่ที่ 1,279.50 เซนต์/บุชเชล และกากถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนธันวาคม 2564 ราคาอยู่ที่ 334.90 เหรียญสหรัฐฯ/ช็อตตัน ถั่วเหลืองราคาทรงตัวจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ปริมาณน้ำฝนที่พัดผ่านเข้ามาในพื้นที่เพาะปลูก ทำให้ถั่วเหลืองสหรัฐฯ ที่อยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมากปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 57% ขณะที่ตลาดจับตามองรายงานคาดการณ์อุปสงค์และอุปทานสินค้าเกษตรโลก (WASDE) เดือนกันยายนที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ผลผลิตต่อไร่ที่ 50.4 บุชเชลต่อเอเคอร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนที่ผ่านมา

แนวโน้ม : คาดว่าราคาถั่วเหลืองนำเข้าน่าจะทรงตัว

 

ปลาป่น : ราคาทรงตัว

ประเทศเปรูเริ่มออกสำรวจปริมาณปลาเพื่อกำหนดโควต้าการจับปลาสำหรับฤดูกาลถัดไป คาดว่าจะสำรวจเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ และเริ่มจับปลาได้ภายในต้นเดือนพฤศจิกายน ขณะที่สาธารณรัฐประชาชนจีนผู้ซื้อหลัก ยังมีปริมาณซื้อหน้าท่าเรือในระดับสูง ส่งผลให้ราคาซื้อหน้าท่าเรือปรับขึ้นเล็กน้อย ส่วนสต๊อกหน้าท่าเรือเริ่มทรงตัว หลังจากที่มีตู้คอนเทนเนอร์ปลาป่นจากเปรูเข้ามามากขึ้น

โดยปลาป่นเกรดกุ้ง ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 48.00 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 42.70 บาท และปลาป่นเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 40.20 บาท

ด้านปลาป่นคุณภาพรองลงมา ปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 39.70 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน 60 ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 38.20 บาท

            แนวโน้ม : คาดว่าราคาปลาป่นน่าจะทรงตัว

 

ข้าว : ราคาลดลง

การซื้อขายข้าวตลาดต่างประเทศในสัปดาห์นี้ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. ราคาลดลงจากตันละ 424 เหรียญสหรัฐฯ เป็นตันละ 419 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ลดลงจากตันละ 365 เหรียญสหรัฐฯ เป็นตันละ 361 เหรียญสหรัฐฯ

ด้านตลาดซื้อขายข้าวในประเทศ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ยืนราคาที่กระสอบละ 1,230 บาท ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ราคาทรงตัวที่กระสอบละ 1,040 บาท

แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวน่าจะทรงตัว

 

สุกร : ราคาทรงตัว

สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ประกาศราคาสุกรขุนมีชีวิตหน้าฟาร์ม ณ วันพระที่ 6 กันยายน อยู่ที่กิโลกรัมละ 68-72 บาท ขณะที่มาตรการผ่อนคลายล็อคดาวน์ทั่วไทย ให้รับประทานอาหารในร้านได้ เป็นปัจจัยบวกต่อความต้องการบริโภคต่อเนื่อง

ส่วนลูกสุกรน้ำหนัก 16 กิโลกรัมต่อตัว ราคาอยู่ที่ 1,600 บาท (บวก/ลบ 60)

แนวโน้ม : คาดว่าราคาสุกรน่าจะทรงตัว

 

ไก่เนื้อ : ราคาทรงตัว

ราคาแนะนำไก่เนื้อหน้าฟาร์ม ตามประกาศสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 30 บาท ด้านลูกไก่เนื้อ ราคาตัวละ 6.50 บาท และลูกไก่ไข่ ราคาตัวละ 28.00 บาท

แนวโน้ม : คาดว่าราคาไก่เนื้อน่าจะทรงตัว

 

ไข่ไก่ : ราคาทรงตัว

            สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ประกาศราคาแนะนำไข่ไก่คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร ที่ฟองละ 3.00 บาท โดยปริมาณไข่ไก่มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค

แนวโน้ม : คาดว่าราคาไข่ไก่น่าจะทรงตัว