หนุ่มนครปฐม ทำปศุสัตว์แบบครบวงจร เลี้ยงสัตว์หลายชนิด ช่วยเพิ่มรายได้ยั่งยืน

ในช่วงนี้การทำปศุสัตว์ค่อนข้างได้รับความนิยมไม่แพ้การทำเกษตรอื่นๆ โดยเกษตรกรได้มีการเลี้ยงสัตว์หลายชนิดภายในพื้นที่ เพื่อสร้างเป็นสัตว์ที่มีคุณภาพและขยายพันธุ์จำหน่าย เพราะการทำตลาดของปศุสัตว์นั้นไม่เพียงแต่บริโภคเนื้อเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถนำมาผลิตสร้างตลาดได้หลากหลาย จึงทำให้เกษตรกรเริ่มให้ความสนใจในการแบ่งพื้นที่ของตัวเองเพื่อเลี้ยงสัตว์มากขึ้น อย่างน้อยเมื่อสัตว์อีกชนิดราคาตกก็ยังมีสัตว์ชนิดอื่นได้ราคาที่ทดแทนกัน

คุณธีราเมท โรจนวีรเดช

คุณธีราเมท โรจนวีรเดช อยู่บ้านเลขที่ 58/2 หมู่ที่ 6 ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เกษตรกรรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีความชื่นชอบในเรื่องของการเลี้ยงโคเนื้อมาตั้งแต่เด็ก ชนิดที่ว่าทุกลมหายใจของเขาอยากจะเลี้ยงสัตว์เพียงอย่างเดียว จนทำให้สิ่งที่เขารักและชอบได้มาเป็นอาชีพของเขาในทุกวันนี้ มีตั้งแต่การเลี้ยงโคเนื้อพันธุ์อเมริกันบราห์มัน การเลี้ยงแกะ และสัตว์อื่นๆ อีกหลายชนิด จนสร้างรายได้ให้กับเขาได้ตกปีละเป็นแสนบาทกันเลยทีเดียว

พื้นที่ภายในฟาร์ม

คุณธีราเมท เล่าให้ฟังว่า เริ่มเลี้ยงโคอย่างจริงจังตอนเขามีอายุได้ 18 ปี โดยนำเงินที่เก็บสะสมมาตั้งแต่สมัยที่เป็นเด็กที่มีญาติพี่น้องให้มาเรื่อยๆ เก็บจนได้เป็นเงินจำนวนหนึ่ง เมื่อเริ่มรับผิดชอบอะไรได้หลายๆ อย่าง จึงได้นำเงินไปซื้อลูกโคเข้ามาเลี้ยงจำนวน 1 ตัว เป็นเงิน 20,000 บาท

คอกเลี้ยงโค

เมื่อเลี้ยงจนโคตัวเมียเป็นสาว จากนั้นนำทำการต่อยอดสิ่งที่มีอยู่ ด้วยการนำโคที่เลี้ยงมาผสมเทียมจนได้ลูกโคออกมา เขาก็ขายทั้งแม่และลูกออกไปพร้อมกัน จึงทำให้มีผลกำไรจากการขายในครั้งนั้นนำมาลงทุนซื้อโคเลี้ยงภายในฟาร์มต่อ พร้อมทั้งขยับขยายการเลี้ยงออกไปเรื่อยๆ จนมีสัตว์หลายชนิด

“พอขายได้กำไรมาเรื่อยๆ เราก็นำเงินที่ได้มาต่อยอดในการลงทุนเลี้ยงโค จากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ โคที่เลี้ยงที่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของผมเอง เป็นโคแม่พันธุ์ทั้งหมดที่นำมาเลี้ยง โดยผมสนใจเลี้ยงอเมริกันบราห์มันเลือดร้อย ลูกผสมยุโรป และลูกผสมกำแพงแสนเป็นหลัก ภายในฟาร์มมีประมาณนี้ครับ และมองว่านอกจากโคเนื้อแล้ว ผมน่าจะเลี้ยงแกะ ไก่ด้วย ผมก็ซื้อเข้ามาเลี้ยงอย่างครบวงจรมาจนถึงตอนนี้” คุณธีราเมท บอก

ทุ่งหญ้าปล่อยให้สัตว์เดินเล่น

โดยการเลี้ยงโคของที่นี่จะเน้นแบบยืนโรง โดยให้โคกินอาหารที่จัดเตรียมไว้ให้เพียงอย่างเดียว และจะแบ่งพื้นที่คอกบางส่วนเอาไว้สำหรับให้ได้เดินเล่นหรือนอนอาบแดดในบางเวลา โดยพื้นที่เลี้ยงทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 1 ไร่กว่าๆ

โรงเรือนที่ให้โคอยู่นั้นจะแบ่งออกเป็นคอกๆ ขนาดคอกอยู่ที่ 4×5 เมตร โดยให้โคอยู่คอกละ 2-3 ตัว และแบ่งพื้นที่คอกที่ไม่มีหลังคาไว้เพื่อเป็นบริเวณสำหรับเดินเล่นและตากแดด ส่วนพื้นที่อีกส่วนหนึ่งก็จะปลูกหญ้าเนเปียร์เพื่อไว้ให้โคกิน

กระบือ

“อาหารที่ใช้เลี้ยงและให้โคกินเป็นหลักจะเป็นฟางข้าว รองลงมาก็จะเป็นพวกหญ้าเนเปียร์ จากนั้นเสริมด้วยอาหารข้น เมื่อแม่โคที่เลี้ยงได้อายุประมาณ 18-20 เดือน ก็จะเริ่มทำการผสมเทียมได้ โดยผมจะเลือกเป็นน้ำเชื้อ นำเข้าจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเราเป็นผู้กำหนดเองว่า แม่โคลักษณะแบบนี้ เราต้องการน้ำเชื้อพ่อพันธุ์ลักษณะแบบไหนมาผสม เพื่อให้ได้ลูกโคที่ออกมามีลักษณะที่เราต้องการ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแม่พันธุ์ที่เรามี เช่น ถ้าเป็นอเมริกันบราห์มัน เราก็จะยังเน้นผสมให้มีลักษณะเลือดร้อยแบบนั้นอยู่” คุณธีราเมท บอก

เมื่อแม่โคตั้งท้องจนครบ 9 เดือน คุณธีราเมท บอกว่า จะเลี้ยงลูกโคที่ออกมาต่อไปอีกประมาณ 6 เดือนจนกว่าจะหย่านม โดยในช่วงนั้นจะมีการเสริมอาหารข้นที่มีเปอร์เซ็นต์โปรตีนอยู่ที่ 20 ให้กินในช่วงเช้าและเย็น เพื่อไม่ให้ลูกโคกินนมแม่มากจนเกินไป เพราะจะทำให้แม่โคซูบผอมได้

โรงเรือนเลี้ยงแกะ

ส่วนแม่โคหลังจากคลอดลูกแล้วจะมีการฉีดยาบำรุงพร้อมทั้งถ่ายพยาธิและปล่อยให้กินอาหารให้เต็มที่เพื่อที่จะมีกำลังสร้างนมให้กับลูก พร้อมทั้งเป็นการบำรุงมดลูกให้แข็งแรงเพื่อเตรียมการสำหรับผสมเทียมในครั้งต่อไปได้

“พอลูกโคได้อายุเข้าสู่ 2-3 เดือน เราก็จะผสมเทียมแม่โคได้เลย โดยที่ไม่ต้องรอให้ลูกหย่านม จากนั้นลูกโคที่ออกมาเราก็จะมีการลงรูปภายในกลุ่มทางเฟซบุ๊กอยู่เรื่อยๆ พอสมาชิกมาเห็น เขาก็จะมาดูตัวจริง พร้อมทั้งพูดคุยตกลงในเรื่องของราคาต่อไป” คุณธีราเมท บอก

ในเรื่องของการป้องกันโรคของโคส่วนใหญ่จะเป็นโรคปากเท้าเปื่อย จะทำวัคซีนในช่วงปลายฝนต้นหนาวปีละ 1 ครั้ง พร้อมทั้งทำความสะอาดโรงเรือนสัปดาห์ละครั้ง ส่วนสัตว์อื่นๆ ก็มีโปรแกรมการทำวัคซีนที่แน่นอนด้วยเช่นกัน

โดยราคาที่ขายโคเนื้อพันธุ์อเมริกันบราห์มันให้กับลูกค้าที่สนใจ คุณธีราเมท บอกว่า แต่ละสายพันธุ์ก็จะมีราคาที่แตกต่างกันไป โดยถ้าเป็นโคอเมริกันบราห์มันส่วนใหญ่ลูกค้าจะชอบลักษณะให้มีสีแดงเข้ม โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่เขาได้ส่งโคเข้าประกวดตามงานทั่วทุกจังหวัด จึงทำให้ได้รู้จักกับเพื่อนๆ พี่ๆ เกษตรกรหลายท่าน จึงทำให้ได้รู้ทิศทางการตลาดเป็นอย่างดี

“ตัวเมียที่ผมขายจะได้ราคาดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์น้ำเชื้อของพ่อที่นำมาผสม ถ้าเราใช้น้ำเชื้อของพ่อโคจากต่างประเทศ เมื่อลูกตัวเมียที่เกิดมาแล้วมีลักษณะที่สวยๆ อย่างโคพันธุ์อเมริกันบราห์มัน ราคาที่ผมขายได้ก็จะอยู่ที่ประมาณหลักแสนบาท ส่วนสีออกเทาขาวราคาเริ่มต้นก็อยู่ที่ 7-8 หมื่นบาทต่อตัว ส่วนตัวผู้ราคาก็อยู่ที่หลักหมื่นบาท ส่วนลูกผสมชาโรเลส์ ราคาก็อยู่ที่ 2 หมื่นบาทเป็นต้นไป” คุณธีราเมท บอก

สำหรับท่านใดที่สนใจอยากจะเลี้ยงโคเป็นอาชีพ แต่ยังไม่กล้าตัดสินใจที่จะเลี้ยง คุณธีราเมทให้คำแนะนำว่า การเลี้ยงโคไม่มีอะไรที่ยากหรือว่าง่าย แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ใจรักเพียงอย่างเดียว ถ้ามีใจที่อยากจะทำ ยังไงก็ประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอน ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณธีราเมท โรจนวีรเดช หมายเลขโทรศัพท์ 061-456-7201