เผยแพร่ |
---|
สำหรับงานสัมมนารูปแบบ Live Streaming จัดโดย นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน เครือมติชน ภายใต้หัวข้อ “ทางรอดเกษตรกรยุคโควิด”
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวตอนหนึ่งใน Live Streaming งานสัมมนา “ทางรอดเกษตรกรยุคโควิด” หัวข้อ “การพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล” ว่า ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และความสำเร็จที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เกิดขึ้นจากองค์ประกอบมากมายด้วยกัน แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ การที่พี่น้องประชาชนเปิดใจยอมรับเอาเรื่องนี้เข้าไปพิจารณา แล้วเกิดเป็นความเชื่อมั่นว่า โครงการนี้จะเป็นเครื่องมือช่วยในการพัฒนาชีวิตของพี่น้องประชาชนได้อย่างยั่งยืน และไม่เพียงเฉพาะแค่เรื่องเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่ยังช่วยทำให้เกิดสังคมแห่งความรักใคร่ สามัคคี ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยทำให้สิ่งแวดล้อมในพื้นที่ของพี่น้องประชาชนมีสภาวะที่ดีขึ้นเหมือนสภาวะธรรมชาติ สวยงาม ก่อให้เกิดความสุข
การพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ การพัฒนาคุณภาพชีวิต ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา เข้าถึงประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม
การบูรณาขับเคลื่อนการดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” ผ่านกลไล 357 3 ระดับ ได้แก่ ระดับพื้นที่/ชุมชน ระดังจังหวัด ระดับประเทศ 5 กลไก คือ การประสานงานภาคีเครือข่าย การบูรณาการแผนงานและยุทธศาสตร์ การติดตามประเมินผล การจัดการความรู้ การสื่อสารสังคม และ 7 ภาคี ได้แก่ ภาครัฐ ภาคศาสนา ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคสื่อสารมวลชน
ด้วยเหตุนี้กรมการพัฒนาชุมชน จึงได้ร่วมกับมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มูลนิธิรักษ์ดินรักษ์น้ำ (Earth Safe Foundation) และภาคีเครือข่ายภาคส่วนต่างๆ ทั้ง 7 ภาคี น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงลงสู่การปฏิบัติอย่างเป็นขั้นตอน ตามกลไกการขับเคลื่อนสืบสานศาสตร์พระราชา เพื่อการปฏิรูปประเทศ โดยใช้หมู่บ้านเป็นฐานของการพัฒนา มุ่งสร้างภูมิคุ้มกันให้ทุกครัวเรือน และพัฒนาคนให้มีความรู้และปรับตัวให้สามารถดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข มีอาชีพ สร้างรายได้ ท่ามกลางวิกฤตโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ซึ่งจากสถานการณ์วิกฤตโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การขับเคลื่อนโครงการฯ สามารถเห็นภาพได้ชัดเจนว่า “โคก หนอง นา คือทางรอด” กรมการพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินการทั้งในส่วนที่เป็นการภารกิจและงบประมาณของกรมการพัฒนาชุมชน และได้รับงบประมาณเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ตามบัญชีท้าย พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
โดยยึดแนวทางการพัฒนา “คน” พัฒนา “พื้นที่” ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการเรียนรู้ที่หลากหลายรูปแบบ นาไปสู่ การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่มั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืน จนเกิดเป็นชุมชนต้นแบบ บุคคลต้นแบบขึ้นมากมาย
ยกตัวอย่างชุมชนต้นแบบ – เกษตรกรต้นแบบ โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล”
ชุมชนต้นแบบ
- วัดป่าศรีแสงธรรม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ชุมชนต้นแบบ พื้นที่ 15 ไร่ ด้วยการขับเคลื่อน โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พัฒนาชุมชน” ด้วยการขับเคลื่อนโครงการ ตามหลัก บวร (บ้าน วัด โรงเรียน/ราชการ) ด้วยเจ้าคุณพระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม
- ศูนย์พุทธธรรมพรหมวชิรญาณ ป่าดงใหญ่วังอ้อ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ด้วยพระพิพัฒน์วชิโรภาส มีพื้นที่ 40 ไร่ ได้ให้ความสำคัญในการขยายเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ และการดำเนินตามหลักบันได 9 ขั้นตอน ของเศรษฐกิจพอเพียง พอกิน พอใช้ พออยู่ พอร่วมเย็น บุญ ทาน เก็บ ขาย ข่าย กรณีที่เกิดภัยพิบัติต่างๆ เครือข่ายก็จะมีการระดมปัจจัยอาหาร ปัจจัยด้านเกษตรเพื่อช่วยเหลือเครือข่าย และประชาชนในจังหวัดอุบลราชธานีและพื้นที่ใกล้เคียง
ผู้นำต้นแบบ
1.นางพรรณี ต้อไธสง ซึ่งเป็นครัวเรือนต้นแบบ โคก หนอง นา โมเดล ในสถานที่ตั้ง 20 หมู่ที่ 10 ตำบลเมืองหลวง อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ในชีวิตจนประสบความสำเร็จ สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในครอบครัวให้มีความสุขอย่างยั่งยืน ซึ่งตรงนี้ก็ถือเป็นความภูมิใจที่ได้ทำให้พี่น้องประชาชนเกิดองค์ความรู้ในการพัฒนาไร่สวนของตัวเอง และนำไปสู่การกระจายความรู้สู่ชมชนได้ ถือเป็นการเริ่มต้นพัฒนาชีวิตผู้คนตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปสู่ชุมชน และได้พัฒนาบ้านของนางพรรณีเป็นศูนย์การเรียนรู้ รวมถึงเนรมิตศูนย์การเรียนรู้ให้เป็นโรงแรมบ้านนา เอาไว้ให้สำหรับคนทั่วไป รวมถึงเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่สนใจเข้าไปเรียนรู้ได้พักอาศัยด้วย มีโรงแรมคือบ้านของชาวบ้าน แล้วเจ้าของบ้านเป็นเจ้าของโรงแรม เป็นผู้จัดการโรงแรม ดูแลที่นอน ทำอาหารเช้า ส่วนอาหารกลางวัน เป็นหน้าที่ของแผนกจัดเลี้ยง คือกลุ่มสตรีแม่บ้านของเราอีก อันนี้ถือเป็นต้นแบบที่สำคัญทำให้เห็นภาพรวม
“ภายในไม่เกินปี 65 เราจะมีรีสอร์ต ที่เป็นรีสอร์ตทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล ของชาวบ้านเกิดขึ้นเยอะแยะ เพราะ โคก หนอง นา โมเดล เรามีหนองเว้าๆ แหว่งๆ มีคลองไส้ไก่คดเคี้ยวอยู่ในพื้นที่ มีโคกคือ เนิน มีนาคือ ที่ลุ่ม และยังมีความเขียวขจีของไม้ยืนต้น และพืชผัก เพราะฉะนั้นพื้นที่แค่ 1 ไร่ ให้ทุกคนลองจินตนาการดูว่าภาพเหล่านี้ก็คือรีสอร์ตดีๆ นี่เอง และยังเป็นรีสอร์ตที่มีชีวิต โดยที่ไม่ต้องชวนให้ใครเข้ามาพักอาศัย แต่เป็นที่พักของพี่น้องคนไทยของเราตลอดทั้ง 365 วัน และพร้อมที่จะเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้กับคนได้ทั้งโลกต่อไปในอนาคต ซึ่งเรื่องนี้เวลาผมได้มีโอกาสพูดเมื่อไหร่ก็ทำให้มีความสุขขึ้นมาได้ทุกที” นายสุทธิพงษ์ กล่าว