คนไทยยี้ผักเพราะรูปแบบซ้ำซาก ส.โภชนาฯประกวด เมนูฟิวชั่น”น้ำพริกสดปั่นแป้ง”ทำเส้นลิงกวีนี่สามสีผัดฉ่า คว้ารางวัล

นพ.กำจัด รามกุล ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เป็นประธานเปิดงานการประกวด “รังสรรค์เมนูฟิวชั่นผักผลไม้ 100 กรัม” ภายใต้โครงการพัฒนายกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลผักและผลไม้สดปลอดภัยตลอดห่วงโซ่ สู่การปฏิบัติ โดยมีผู้ร่วมแข่งขันซึ่งผ่านการ พิจารณารอบแรกจำนวน 10 ทีม เข้าร่วม โดยนพ.กำจัด กล่าวว่า สธ.มีนโยบายให้ปี 2560 เป็น “ปีแห่งการบริโภคผัก-ผลไม้สดปลอดภัย” บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันผลักดัน ทุกภาคส่วนจะช่วยยกระดับการกับกับดูแลผักและผลไม้ สดให้ทีคุณภาพและปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค

ผศ.ชนิพรรณ บุตรยี่ อาจารย์ประจำสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ประธานโครงการรังสรรค์เมนูฟิวชั่นด้วยผักผลไม้ 100 กรัม กล่าวว่า ผลการวิจัยพบว่า การบริโภคผักและผลไม้เพิ่มขึ้น 80 กรัม ต่อวัน ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดและโรคหลอดเลือดสมองได้ร้อยละ 10 และ 6 ตามลำดับ และลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งบางชนิด สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ได้สำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 5 ปี 2557 พบว่า ประชากรไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป บริโภคผักผลไม้ต่อวันต่ำกว่าปริมาณที่แนะนำให้บริโภค สัดส่วนของประชากรที่บริโภคผักและผลไม้เพียงพอตามข้อแนะนำ มีเพียงร้อยละ 25.9 คือ ชายร้อยละ 24.1 หญิงร้อยละ 27.6 สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนไทยบริโภค ไม่เพียงพอมาจากทางเลือกของเมนู ผักผลไม้ในชีวิตประจำวันค่อนข้างจำกัด

“การแข่งขันในครั้งนี้ เมนูที่ได้จากการประกวดเป็นอาหารฟิวชั่นที่เน้นสไตล์ ภาพลักษณ์ มีความสะดวกมากขึ้นและผ่านเกณฑ์ ด้านคุณค่าโภชนาการ มีการผสมผสานความเป็นฟิวชั่นของ สัญชาติอาหารตั้งแต่ 2 สัญชาติขึ้นไป มีความสวยงาม และอร่อย ทั้งอาหารจานหลัก อาหารว่าง และเครื่องดื่ม โดยคาดหวังว่าจะช่วยเปลี่ยนทัศนคติของประชาชนทั่วไปที่ไม่ ชอบบริโภคผัก นอกจากนี้ทางโครงการจะนำเมนูอาหารต่างๆ ที่ได้จากการประกวดมาใช้เผยแพร่ ในรูปแบบสื่อต่างๆ เพื่อรณรงค์ส่งเสริมการบริโภคผั กผลไม้ให้มากขึ้นต่อไป”ผศ.ชนิพรรณ กล่าว

สำหรับรางวัลชนะเลิศ การแข่งขันได้แก่ ทีม Wonder Grils จากมหาวิทยาลัยสวนดุสิต(มสด.) รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ทีมกระจุ๊กกระจิ๊ก จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีมกินพอดี สุขีดุสิตา จากมหาวิทยาลัยสวนดุสิต

นายวีรเทพ อาจอาคม ผู้แทนจากทีม Wonder Girls ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดครั้งนี้ ให้สัมภาษณ์ว่า อาหารที่ทีม Wonder Girls ส่งเข้าประกวดนั้น อาหารจานหลัก คือ เส้นลิงกวีนี่สดสามสีผัดฉ่า ปลาบดสมุนไพร อาหารว่าง คือ ลุยสวนกับยำถั่วพูไข่ขาวและสาคูไส้หมูธัญพืช และเครื่องดื่ม ได้แก่น้ำสับปะรดปั่นใบสาระแหน่และวุ้นมะม่วงเสาวรส

“อาหารจานหลักมีจุดเด่นอยู่ที่เส้นลิงกวีนี่สด ซึ่งเตรียมเองจากจากพริกสดนำไปปั่นและสกัด เพื่อนำน้ำที่ได้มาผสมในแป้งสำหรับทำเส้น ทำให้ได้สีสวย และกลิ่นหอมของพริก ซึ่งทำให้เกิดการผสมผสานของอาหารเอเชียและอาหารยุโรปได้ลงตัว สำหรับเมนูอาหารว่างจุดเด่นอยู่ที่มีการนำดอกไม้เข้ามาเป็นส่วนประกอบผสมกับผลไม้ คือดอกอัญชัญ และดอกพวงชมพู ผสมกับผลไม้ คือส้ม และแอปเปิ้ล แล้วนำมาทำเป็นไส้ และเครื่องดื่มสมูทตี้ที่นอกจากจะใช้ผลไม้ไทย สัปบะรดมาเป็นวัตถุดิบหลักแล้ว ยังเพิ่มความน่าสนใจด้วยการนำหลักวิทยาศาสตร์มาใช้กับอาหาร โดยนำหลักการแยกชั้นของน้ำและน้ำมันเข้ามาเพิ่มลูกเล่น ซึ่งใช้ผงวุ้นอาก้า หยอดลงในน้ำมันที่เย็นจัด จะได้ท้อปปิ้งที่กลม เนียน และสวยงาม”นายวีรเทพ กล่าว