| ที่มา | ไม้ดอกไม้ประดับ |
|---|---|
| ผู้เขียน | สุรเดช สดคมคำ |
| เผยแพร่ |
อย่างที่เราทราบกันดีว่าไม้ประดับใบที่กำลังซื้อกันอยู่เวลานี้ ส่วนใหญ่แล้วต้องการจำนวนและพันธุ์ที่เหมือนต้นแม่ทุกประการ เพราะฉะนั้นวิธีที่จะง่ายที่สุดคือการนำส่วนต่างๆ ของพืชชนิดนั้นมาปักชำ ได้แก่ การนำส่วนยอดที่เกิดใหม่ ส่วนของใบหรือกิ่งมาปักชำ เพื่อให้เกิดรากใหม่และเป็นต้นที่สมบูรณ์ ซึ่งการปักชำจะให้ได้ต้นใหม่ที่สมบูรณ์ สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมก็เป็นตัวช่วยที่ดีเช่นกัน จึงทำให้การปักชำเป็นอีกวิธีที่เห็นเกษตรกรส่วนใหญ่นิยมใช้ เพราะเป็นวิธีที่ง่าย ทำให้ได้จำนวนต้นใหม่ที่รวดเร็วทันต่อความต้องการของตลาด
คุณฉันทนา เทพพันธุ์ หรือ คุณฉันท์ ทำสวนไม้ประดับใบอยู่ที่ ตำบลนางบวช อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ได้เรียนรู้การปลูกไม้ประดับด้วยตัวเอง จากที่ไม่เคยได้มีความรู้ทางด้านนี้เลยแม้แต่น้อย แต่เธอได้เรียนรู้ในเรื่องของการทำตลาดก่อนในช่วงแรก จากนั้นเรียนรู้ในเรื่องการขยายพันธุ์ที่จะให้ได้ไม้ที่รวดเร็วทันขาย พร้อมทั้งมีการพัฒนาการขายด้วยการทำตลาดออนไลน์ จนมีลูกค้าจากที่ต่างๆ เข้ามาติดต่อซื้อขาย จนเธอสามารถสร้างเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้ให้กับเธอได้เป็นอย่างดี
คุณฉันท์ เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะมาประกอบอาชีพทางการเกษตรเหมือนเช่นทุกวันนี้ เดิมมีอาชีพเกี่ยวกับธุรกิจชุดเจ้าสาวและการจัดงานแต่งงานต่างๆ มีทั้งการออกแบบชุดเจ้าสาว รวมถึงงานถ่ายภาพงานแต่งทั้งหมดแบบครบวงจร ก่อนที่โควิด-19 จะเข้ามาในประเทศไทยประมาณ 1 ปี ช่วงนั้นสภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทยไม่ค่อยมีความคล่องตัวมากนัก และเมื่อวิกฤตโควิดเข้ามาสู่ภายในประเทศอย่างเต็มรูปแบบ กิจกรรมต่างๆ ที่มีการยกเลิกไปทำให้ลูกค้าไม่สามารถที่จะจัดงานแต่งได้ จึงทำให้ธุรกิจของเธอต้องหยุดลง และกลับมาอยู่บ้านเกิดยังจังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อตั้งหลักใหม่ให้กับชีวิต
“ช่วงนั้นเราบอกเลยเราแย่มาก สุขภาพทั้งจิตใจแย่ไปหมด เพราะจากพิษทางเศรษฐกิจช่วงนั้น น้องๆ เห็นเราแย่ก็บอกว่าไม่ควรที่จะอยู่กรุงเทพฯ แล้ว ควรกลับมาอยู่บ้านเกิดมากกว่า ช่วงนั้นคุณพ่อป่วยพอดี เราก็ตัดสินใจมาอยู่ที่บ้าน ช่วงนั้นก็เอาชุดเจ้าสาวที่มีอยู่มาทำต่อบ้าง แต่ก็ไม่เต็มตัวมากนัก ส่วนช่วงที่ว่างเราก็มาปลูกต้นไม้ เป็นผักสวนครัวก่อน ต่อมาชอบไม้ประดับ ก็เริ่มทำไม้ประดับเรียนรู้การผสมดินเอง พร้อมทั้งเรียนรู้การขยายพันธุ์ ว่าจะทำยังไงให้ทันต่อความต้องการของตลาด เราก็เรียนรู้หลายอย่างเลยจนมาเป็นอาชีพหลักได้เวลานี้” คุณฉันท์ เล่าถึงจุดเปลี่ยนของชีวิตด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุข
ในช่วงแรกที่ยังไม่ได้ซื้อต้นไม้เข้ามาปลูกมากนัก คุณฉันท์ บอกว่า ต้นไม้ที่อยู่ในบ้านทั้งหมดเป็นครูที่ดี เพราะทำให้เธอได้ทดลองการขยายพันธุ์ด้วยตัวเอง โดยเน้นเป็นวิธีการปักชำเพื่อให้เกิดเป็นต้นใหม่ และช่วยให้ต้นใหม่ที่ได้ไม่เกิดการกลายพันธุ์เหมือนต้นแม่ทุกประการ และสามารถทำได้ง่ายในแบบมือใหม่ที่ยังพัฒนาพันธุ์ไม่เป็น เมื่อไม้ประดับเริ่มมีมากขึ้นเธอก็ได้เรียนรู้การทำตลาดด้วยการจำหน่ายทางออนไลน์
โดยไม้ประดับที่สร้างรายได้ให้กับสวนของเธอ หลักๆ ประกอบไปด้วย เงินไหลมาด่าง เศรษฐีวิลสัน โชค 9 ชั้น และอโกลนีมาสายพันธุ์ต่างๆ โดยในช่วงแรกจะเน้นซื้อไม้เหล่านี้เข้ามาปลูกก่อน หลังจากนั้นปลูกเลี้ยงดูแลเรื่อยๆ จนไม้ได้ขนาดที่ใหญ่ มีกิ่งหรือยอดใหม่ที่แตกจนสมบูรณ์ จากนั้นก็จะตัดยอดใหม่และกิ่งที่เห็นว่าน่าจะขยายพันธุ์ได้แล้วออกเป็นท่อนๆ มาปักชำลงในดินใบก้ามปูที่ผสมกับขุยมะพร้าว ดูแลรดน้ำประมาณ 10-15 วัน กิ่งที่นำไปปักชำก็จะเกิดรากใหม่ออกมาให้เห็น เมื่อปักชำได้อายุประมาณ 30 วัน แล้วเห็นรากของต้นใหม่เดินสมบูรณ์ก็จะทำการย้ายลงมาปลูกใส่ในกระถางใหม่ต่อไป
“ช่วงแรกเราก็จะขยายมาปลูกลงในกระถาง 4 นิ้วก่อน พอดูแลไปเรื่อยๆ เห็นว่าไม้เริ่มเติบโตใหญ่กว่ากระถาง ถ้ายังไม่ขายเลย ก็จะนำไปปลูกลงในกระถาง 6 นิ้ว และ 8 นิ้ว ปลูกดูแลให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ประมาณ 4-6 เดือน ก็สามารถจำหน่ายได้ เพราะฉะนั้นก็อยู่ที่เราเป็นหลัก ว่าต้องการขายอยู่ที่ขนาดไซซ์ไหน แต่การทำตลาดที่ดีเราต้องผลิตให้ทันและมีไม้ที่หลากหลายให้ลูกค้าเลือก ส่วนการป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช เราก็จะเน้นกำจัดออกด้วยมือของเราเอง ไม่ใช้สารเคมี เพราะเราต้องการให้ปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะทำได้” คุณฉันท์ บอก
สำหรับในเรื่องของการทำตลาดเพื่อจำหน่ายไม้ประดับภายในสวนนั้น คุณฉันท์ เล่าถึงเทคนิคให้ฟังว่า ด้วยสถานการณ์โควิด-19 และการซื้อขายที่แตกต่างไปตามยุคสมัย การค้าขายออนไลน์ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีเป็นอย่างมาก เพราะลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดออกไปสามารถที่จะซื้อสินค้าของเธอได้ประหนึ่งเข้ามาชมเองภายในสวน โดยเธอได้เรียนรู้การไลฟ์สดจำหน่ายต้นไม้ผ่านทางหน้าเฟซบุ๊กของเธอเอง ทำมาเรื่อยๆ จากยอดชมหลักสิบเพิ่มมาเป็นหลายหลักร้อย จนสวนของเธอเป็นที่รู้จักของตลาดมาจนถึงทุกวันนี้
โดยราคาไม้ประดับที่จำหน่ายภายในสวนมีราคาแตกต่างกันไป ถูกแพงขึ้นอยู่กับชนิดของสายพันธุ์ อย่างเช่นเงินไหลมาราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 200 บาท แต่เมื่อวงการไว้ด่างเริ่มเป็นกระแสมากขึ้น ตอนนี้เงินไหลมาสามารถทำราคาได้ถึงหลักพันบาท และอโกลนีมาเป็นไม้ที่ขายดีของสวนจากราคาแรกอยู่ที่หลักสิบ ตอนนี้ทางสวนสามารถผลิตจนไม้มีราคาจำหน่ายได้ถึงหลักร้อยและหลักพันบาท
“การขายออนไลน์นี่ดีมาก โดยเฉพาะการไลฟ์สดขาย ทำให้ลูกค้าได้เห็นว่า เราหยิบต้นนั้นมาขายจริงๆ โดยที่เราไม่ได้ไปเอารูปภาพของคนอื่นมาลงขาย และบริการหลังการขายเราก็มีให้กับลูกค้าด้วย ก็ยิ่งทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อถือสวนเรา เพราะฉะนั้นใครที่สนใจในเรื่องของการปลูกต้นไม้ ก็อยากจะบอกว่าเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ดีเหมือนกัน ที่ได้แน่ๆ ในเรื่องของความสุข ทุกวันนี้เรามีความสุขมากที่ได้มาทำ และทำให้เรามีความสุขในทุกๆ วัน พอเราทำด้วยรัก สิ่งที่ได้กลับมาคือไม้ก็ดูเราให้มีรายได้เอง” คุณฉันท์ บอก
สำหรับท่านใดที่สนใจในเรื่องของไม้ประดับใบ หรือต้องการคำปรึกษาสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณฉันทนา เทพพันธุ์ หรือ คุณฉันท์ หมายเลขโทรศัพท์ 080-297-5198
