ดื่มชาเขียว ดีอย่างไร

ชาเขียว เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน และมีแนวโน้มการบริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ชาเขียว ก็คือ ชาที่ไม่ผ่านการหมักเหมือนชาชนิดอื่นๆ แต่เป็นการนำใบชาสดมาผ่านความร้อนอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ได้ใบชาที่แห้งโดยความร้อน จะช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ ทำให้ไม่เกิดการสลายตัว ทำให้ได้ใบชาที่แห้งแต่ยังสดอยู่และยังมีสีเขียว จึงเรียกว่า “ชาเขียว”

สารสำคัญที่พบได้ในชาเขียว ได้แก่ กรดอะมิโน วิตามินบี ซี อี สารในกลุ่มแซนทีนอัลคาลอยด์ คือ คาเฟอีนและธิโอฟิลลีน มีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ส่งผลให้ร่างกายรู้สึกกระปี้กระเปร่า และสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ที่เรียกว่า คาเทชิน คาเทชินที่พบมากที่สุดในชาเขียวคือ สารอีพิกัลโลคาเทชินกัลเลต มีความสำคัญในการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ

ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของสารต่างๆ ที่พบในชาเขียว มีผลยับยั้งภาวะโรคต่างๆ โดยมีงานวิจัยมากมายสนับสนุนว่า การดื่มชาเขียวมีประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ ฤทธิ์ในการลดความอ้วน มีงานวิจัยระบุว่า สารคาเทชินที่พบได้มากในชาเขียวนั้น มีฤทธิ์ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและไขมัน จึงส่งผลต่อการควบคุมน้ำหนักของร่างกาย

การดื่มชาเขียวยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด และมีงานวิจัยทางคลินิกพบว่า ชาเขียวมีผลช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด และมีงานวิจัยทางคลินิกพบว่า ชาเขียวมีฤทธิ์ต่อต้านการเกิดโรคของหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาว่า การดื่มชาเขียวมีผลช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ ทั้งนี้ ยังไม่มีงานวิจัยใดยืนยันการทดลองและสรุปผลว่า ชาเขียวสามารถรักษาโรคมะเร็งได้

จากข้อมูลการศึกษาพบว่า ชาเขียวมีประโยชน์ในหลายๆ ด้าน แต่การบริโภคชาเขียวอย่างไม่เหมาะสมก็อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ มีรายงานเกี่ยวกับการบริโภคชาเขียวระบุว่า ถ้าบริโภคในปริมาณสูงและติดต่อกันเป็นเวลานาน สามารถส่งผลเสียต่อตับได้ โดยมีรายงานการวิจัยในหนูเม้าส์พบว่าสาร epigallocatechin galate (EGCG) จะส่งผลให้ตับถูกทำลายเล็กน้อยเมื่อบริโภคในขนาดสูง (2,500 มิลลิกรัม/กิโลกรัม) ติดต่อกัน 5 วัน ชาเขียวร้อน 1 ถ้วย มี EGCG ประมาณ 100-200 มิลลิกรัม

จากข้อมูลงานวิจัยความเป็นพิษของชาเขียวที่กล่าวไว้ข้างต้น ในแต่ละวันจึงไม่ควรดื่มเกิน 10-12 ถ้วย ทั้งนี้ ชาเขียวยังมีคาเฟอีน การดื่มในปริมาณสูงอาจส่งผลให้นอนไม่หลับได้ และมีสารแทนนิน อาจทำให้ท้องผูกได้ ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม

แนะนำให้ดื่มชาเขียวที่เป็นใบชาจริงจะดีกว่าการดื่มชาเขียวสำเร็จรูป โดยการชงใบชา 1-2 ช้อนชาในน้ำร้อน ดื่มวันละ 3 ถ้วย ในระหว่างมื้ออาหาร เพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพและไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย สำหรับเครื่องดื่มชาเขียวสำเร็จรูป จะมีปริมาณชาเขียวที่เจือจาง และมีส่วนผสมของน้ำตาล จึงไม่ควรดื่มชาเขียวสำเร็จรูปบ่อยเกินไป ซึ่งร่างกายอาจได้รับผลเสียจากปริมาณน้ำตาลที่สูงเกินไปได้

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อวันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ.2564