| ที่มา | เก็บมาเล่า |
|---|---|
| ผู้เขียน | สุรเดช สดคมขำ |
| เผยแพร่ |
การชงชาอย่างที่ทุกท่านทราบกันดีว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นศิลปะที่มีขั้นตอนที่น่าหลงใหล เพราะกว่าจะได้มา ใบชาหรือส่วนผสมอื่นๆ ล้วนแต่มีกรรมวิธีที่ใช้เวลานาน เพื่อให้ได้ส่วนผสมที่ทรงคุณค่าจึงช่วยให้ชาที่ชงออกมามีรสชาติที่ดี ด้วยศิลปะและกระบวนการที่น่าสนใจนี้เอง ชาจึงเป็นอีกหนึ่งการเรียนรู้ที่น่าสนใจและน่าฝึกฝนในการนำวัตถุดิบต่างๆ เข้าเบลนด์เพื่อให้ได้สูตรชาที่ลงตัวและมีเสน่ห์เฉพาะสูตรนั้นๆ
เมื่องาน Matichon Bookmark 2021 #คั่นไว้ในใจเธอ ระหว่างวันที่ 5-11 พฤศจิกายน 2564 ณ มติชนอคาเดมี ได้เชิญ คุณสุทธิดา มนทิรารักษ์ มาสอนในเรื่องของการชงชาให้กับผู้เข้าร่วมงานเพื่อเรียนรู้ในเรื่องศาสตร์และศิลป์ต่างๆ รวมถึงการเลือกสูตรเบลนด์ที่มีประโยชน์แก่ร่างกาย สำหรับผู้ที่ต้องการจะดื่มชาเพื่อประโยชน์ทางด้านสุขภาพร่างกาย
คุณสุทธิดา บอว่า เริ่มเรียนรู้และชอบการชงชามาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เพราะช่วงสมัยนั้นเธอมักจะนำอุปกรณ์การชงชาของครอบครัวและวัตถุดิบต่างๆ ที่หาได้มาเล่นและชงชาไปในแบบที่เธอจินตนาการเอง เพราะด้วยความที่บ้านมีเชื้อสายจีนและบ้านอยู่ไม่ไกลจากเยาวราชมากนัก จึงได้มีโอกาสได้ซื้อใบชาจากร้านต่างๆ และผลไม้อบแห้งเข้ามาผสมในการชงชาได้อย่างลงตัว
“การชงชาค่อนข้างที่จะใช้น้ำร้อน เพราะฉะนั้น เราก็ต้องศึกษาเรื่องของวัตถุดิบให้ดี ว่าชาชนิดนี้มีประโยชน์แบบไหน ตัวดอกไม้ที่นำมาผสมช่วยเรื่องอะไร เราก็จะดูองค์ประกอบหลายๆ อย่าง ก็จะช่วยให้การชงชาสามารถชงออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการชงชาว่าจะใช้วัตถุดิบตัวไหน เราก็จะศึกษาสุขภาพร่างกายของคนดื่มก่อน ว่าเขาต้องการการดูแลแบบไหน จากนั้นก็มาเลือกมาดูวัตถุดิบให้ตรงกับความต้องการของคนดื่ม” คุณสุทธิดา บอก
โดยคุณสมบัติของชาที่นำมาใช้นั้น คุณสุทธิดา บอกว่า จะเลือกเป็นชาแดงและชาเขียวเป็นหลัก โดยคุณสมบัติของชาทั้ง 2 ชนิดนี้ ช่วยทำให้ผู้ดื่มรู้สึกสดชื่น เพราะฉะนั้น ขึ้นอยู่กับผู้ดื่มว่าชอบในรสชาติใด การเบลนด์ชาจึงเป็นอีกหนึ่งกระบวนการที่ค่อนข้างทำให้ชาน่าดื่มมากขึ้น เพราะนอกจากมีส่วนผสมของชาเป็นหลักแล้วยังมีส่วนผสมของตัวอื่นๆ เข้ามาช่วยอีกด้วย
“การเบลนด์ชาไม่ใช่เรื่องยาก แต่การที่จะทำออกมาให้ได้คุณภาพนั้น ต้องเรียนรู้การชงที่ค่อนข้างหลากหลายมาก เพราะคนชงเองต้องรู้ถึงปริมาณน้ำร้อนที่ต้องใช้ ปริมาณของชาว่าต้องการอะไรบ้าง ช่วงแรกๆ อาจหาวัตถุดิบต่างๆ สมมุติเรามีชาเขียวอยู่แล้ว เราก็อาจจะเอาสมุนไพรอย่างอื่นเข้ามาช่วย อย่างเช่น ดอกอัญชัญ ใบเตยหอม ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถทำให้การดื่มชามีประโยชน์ และได้รับประโยชน์จากการดื่มได้อย่างลงตัว” คุณสุทธิดา บอก
นอกจากนี้ การหาวัตถุดิบใหม่ๆ จากหลายๆ ที่เข้ามาช่วยผสมยังเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญในการทำให้รสชาติมีลูกเล่นและรสชาติที่แตกต่างกันไป อย่างเช่น การหาผลไม้อบแห้งจากพื้นที่ต่างๆ การหาใบชาที่ปลูกในภูมิภาคที่แตกต่างกันไปของแต่ละจังหวัด ก็ช่วยให้เธอได้เรียนรู้การทำชาที่ไม่เหมือนกันในแต่ละช่วงปี จึงทำให้การชงชาและการเรียนรู้ของเธอนั้นไม่รู้จบ เพราะมีอะไรได้รู้และฝึกฝนอยู่เสมอ
“ประเทศไทยนี่ถือว่าแต่ละพืชที่มีอะไรที่พิเศษมาก เพราะแต่ละครัวเรือนก็จะมีการปลูกพืชสมุนไพรที่แตกต่างกันไป
ทำให้เราได้ไปทดลองดื่ม ก็ได้รู้ว่าแต่ละที่มีรสชาติเฉพาะตัว อย่างสมัยก่อนยังไม่มีโควิด-19 เราก็ไปดื่มชาต่างประเทศได้ ทำให้เราได้รู้รสและนำสิ่งดีๆ เหล่านั้นมาเบลนด์ และสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ตามฤดูกาลได้ ลูกค้าของเราก็จะได้ชิมชาแต่ละปีที่แตกต่างกันไปของพื้นที่” คุณสุทธิดา บอก
โดยราคาชาที่เบลนด์เองตามสูตรของเธอ ราคาส่วนใหญ่จำหน่ายอยู่ที่ 180 บาทต่อ 25 กรัม โดยลูกค้าสามารถซื้อและนำไปชิมฝึกเบลนด์กับพืชสมุนไพรอื่นๆ ที่มีอยู่ประจำบ้านก็ได้ หรือหากสนใจบางช่วงเธอเองก็มีเปิดสอน สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณสุทธิดา มนทิรารักษ์ ณ บ้านเลขที่ 207 บางขุนนนท์ 29 บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร หมายเลขโทรศัพท์ 089-449-6365
