เผยแพร่ |
---|
ความหลากหลายของทรัพยากรทางธรรมชาติ ในจังหวัดระยอง เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่มีความสำคัญ ทั้งทรัพยากรดินและน้ำ โดยเฉพาะการฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำ “เขาห้วยมะหาด” ที่สามารถสร้างระบบนิเวศกลับมามีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง จากที่ในอดีตเป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม แต่ในวันนี้พื้นที่เขาห้วยมะหาด สร้างประโยชน์ให้กับชุมชนอีกครั้ง จากความร่วมมือของคนในชุมชน และองค์กรภาครัฐและเอกชน ในการร่วมปลูกป่า การพัฒนาสายฝายชะลอน้ำ เพื่อความชุ่มชื้นให้กับผืนดิน ตลอดจนการป้องกันไฟป่าจนเป็นพื้นที่ที่สามารถหล่อเลี้ยงชุมชนได้อีกครั้ง
นอกจากนี้ “เขาห้วยมะหาด” ได้ขึ้นชื่อ เป็นแหล่งพืชพันธุ์สมุนไพรพื้นบ้าน ที่ได้รับการยอมรับจากคนในท้องถิ่น ทั้งว่านสาวหลง และเร่วหอม ที่มากด้วยสรรพคุณทางยา จนปัจจุบันสามารถนำมาเพาะปลูกขยายพันธุ์ เป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งในจังหวัด ที่ปัจจุบันสามารถนำมาพัฒนาแปรรูปเป็นสินค้าเกษตร และผลิตภัณฑ์ต่างๆในรูปแบบพืชอินทรีย์ ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุฟฟาลา ชุมชนหนองแฟบ ที่เป็นชุมชนต้นแบบในการนำพืชท้องถิ่นมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เป็นที่รู้จักในตลาดทั่วประเทศ
ดังนั้น เพื่อให้ชุมชนตื่นตัวและหันมาใสใจในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและฟื้นฟูองค์ความรู้ในภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้ยังคงอยู่และยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เศรษฐกิจชุมชนได้อย่างยั่งยืน “วิสาหกิจชุมชนลุฟฟาลา ชุมชนหนองแฟบ” จึงได้นำผลผลิตจากสมุนไพรธรรมชาติที่ปลูกด้วยวิธีเกษตรอินทรีย์จากกลุ่มหอมมะหาด ชุมชนเขาภูดร-เขาห้วยมะหาด อาทิ สะระแหน่ ว่านสาวหลง จิงจูฉ่าย และ เร่วหอม มาสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ภายใต้แบรนด์ LUFFALA โดยเป็นออกผลิตภัณฑ์ LUFFALA Room Diffuser: Recreation Series น้ำมันหอมระเหยปรับอากาศจากสารสกัดธรรมชาติ 4 กลิ่น ได้แก่ กลิ่น Rain (สะระแหน่) กลิ่น Soil (จิงจูฉ่าย) กลิ่น Tree (ว่านสาวหลง) และกลิ่นSun (เร่วหอม) มาสกัดปรุงกลิ่นจนที่เป็นเอกลักษณะเฉพาะ
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีการเชื่อมโยงสิ่งแวดล้อม ชุมชน สังคมและเศรษฐกิจเข้าด้วยกันตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยต้นน้ำเริ่มจากการส่งเสริมการปลูกสมุนไพร 4 ชนิด ได้แก่ สะระแหน่ ว่านสาวหลง จิงจูฉ่าย และ เร่วหอม ด้วยวิถีอินทรีย์ภายใต้โครงการ Rayong Organic Living และต่อยอดการควบคุมคุณภาพการเพาะปลูกด้วยแนวคิด Smart farming เพื่อให้ได้ต้นสมุนไพรที่มีคุณภาพสูงสุดก่อนนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย
ส่วนปลายน้ำ คือ การนำพืชสมุนไพรมาต่อยอดเป็น Room Diffuser หรือน้ำมันหอมระเหยปรับอากาศ โดยวิสาหกิจชุมชนลุฟฟาลา สกัดน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพรออร์แกนิกและนำมาผสานเข้ากับนวัตกรรม Green Solvent ของ GC และปรุงกลิ่นจนเป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับของลุฟฟาลา ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและช่วยสนับสนุนชุมชน
นางแอ๋ว สนิทวาจา ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มลุฟฟาลา กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ความงามเพื่อสุขภาพผิวที่ดี “ลุฟฟาลา”เกิดจากการรวมกลุ่มแม่บ้านชุมชนหนองแฟบ จังหวัดระยอง ขึ้นในปี 2553 โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาต่อยอดสร้างอาชีพจุนเจือครอบครัว โดย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC และสำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้เข้ามาร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงและดูแลผิวจากสารสกัดสมุนไพรท้องถิ่น เช่น ผักบุ้งทะเล และมะหาด จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นแรก คือ “สบู่ใยบวบ” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อแบรนด์ LUFFALA จดทะเบียนจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนกลุ่ม ลุฟฟาลาในปี 2554 และวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำของประเทศ
“ปัจจุบันมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ลุฟฟาลาให้มีความหลากหลายมาขึ้น ตอบสนองตลาดของผู้บริโภค เช่น สบู่เหลวล้างมืออนามัยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ที่ฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมทั้งส่วนประกอบกรี เซอรีนคุณภาพสูง และสารสกัดจากผักบุ้งทะเล ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื่น และสเปรย์แอลกอฮอล์ เจลแอลกอฮอล์ ทำความสะอาดมือ เป็นต้น” ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มลุฟฟาลา
การผสานความร่วมมือจนเกิดเป็นความสำเร็จผ่านตัวสินค้าที่มีคุณภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของชุมชน ไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่ค้านว่าเมืองระยองคือเมืองมลพิษ และคุณภาพชีวิตประชากรย่ำแย่เท่านั้น ยังตอกย้ำให้เห็นถึงภาพรวมเมืองอุตสาหกรรม กับภาคเกษตรที่สามารถอยู่ร่วมกันได้และสามารถส่งต่อความยั่งยืน เอกลักษณ์เฉพาะไปยังรุ่นลูกหลานอีกด้วย
เพิ่มเติมที่ลิงค์ – https://www.youtube.com/watch?v=MnXc-EreiP0