เผยแพร่ |
---|
กรมส่งเสริมสหกรณ์ขานรับนโยบายนายกฯ แก้หนี้ ขรก. ในระบบสหกรณ์ เผยปัจจุบันแนะนำให้สหกรณ์กำหนดเพดานดอกเบี้ยเงินกู้ ให้บวกได้ไม่เกินร้อยละ 3 ของต้นทุนเพี่อลดภาระสมาชิก วอนกรรมการสหกรณ์ลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อสมาชิก
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวถึงนโยบาย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินราชการในภาคสหกรณ์ว่า กรมพร้อมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้สินตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ผ่านเกณฑ์การกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ซึงปัจจุบันได้มีการกำหนดเพดานของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้เพื่อไม่ให้กระทบต่อสมาชิกและการทำธุรกรรมของสถาบันการเงินทั้ง 2 ประเภท ภายใต้การแนะนำของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และยึดวัตถุประสงค์ของขบวนการสหกรณ์ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในการทำธุรกรรมของสหกรณ์ปัจจุบันมีการพยายามสร้างรูปแบบจูงใจให้กู้เงินกันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหากร่างกฎกระทรวงเรื่องการบริหารจัดการและกำกับทางการเงินสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ…ที่รอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบออกมาแล้วสามารถออกประกาศมาบังคับใช้ได้ ก็จะเป็นประโยชน์ในการกำกับสหกรณ์ได้ดีขึ้น เพราะจะมีสาระสำคัญในเรื่องการกำกับการกู้ยืม การกู้ยืมซ้ำซ้อน และกำกับกิจกรรมทางการเงินที่เข้มงวดเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นร่างที่ปรับปรุงโดยมีกรณีการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมาของสหกรณ์เป็นกรณีศึกษา
ปัจจุบันมาตรการที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ใช้กำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนในเรื่องธุรกรรมทางการเงิน เพื่อไม่ให้ใช้การจูงใจทางการเงินและป้องกันการกู้เงินจนหนี้สินล้นพ้นตัวมีประเด็นสำคัญ คือการกำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ โดยกรณีอัตราดอกเบี้นเงินฝากกำหนดให้ไม่เกินร้อยละ 4 มีผลบังคับใช้เมื่อ 1 กรกฎาคม 2564 เพื่อไม่ให้กระทบต่อสมาชิกสหกรณ์ที่มีรายได้จากดอกเบี้ยเพื่อการยังชีพ จากเดิมที่สหกรณ์จะให้สูงถึงร้อยละ 7 เพื่อระดมเงินฝาก แต่โดยเฉลี่ยสหกรณ์จะให้สมาชิกอยู่ที่ประมาณร้อยละ 2 กว่าๆ เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เร็วๆ นี้ กรมอาจจะออกประกาศฉบับใหม่กำหนดเพดานดอกเบี้ยเงินฝากให้ไม่เกินร้อยละ 3.5 ซึ่งเป็นการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากแบบขั้นบันไดที่มีการปรับลงมาจากที่อัตราร้อยละ 4.5 ลงมาที่ร้อยละ 4 และร้อยละ 3.5 ตามลำดับ อันจะเป็นการลดต้นทุนของแต่ละสหกรณ์ที่มีภาระผูกพันจากกการรับฝากเงินจากสหกรณ์อื่น ซึ่งรับฝากมาใช้เป็นทุนธุรกิจด้วยเช่นกัน สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนนั้น ได้แนะนำให้กำหนดเพดานไว้ว่าต้นทุนเท่าไหร่บวกได้ไม่เกินร้อยละ 3 เพื่อเป็นการลดภาระหนี้ของสมาชิก และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและมีธรรมาภิบาลและสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของระบบสหกรณ์ที่มุ่งช่วยสมาชิก ไม่แสวงหากำไรที่เกินควร