เกษตรกรพิจิตร ปลูกพืชผสมผสานยุคโควิด-19 แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน สร้างรายได้ตลอดปี

การทำเกษตรหากตั้งใจจริงและพร้อมที่จะสร้างเป็นอาชีพไม่ใช่เรื่องยากหรือไกลตัว เพราะงานเกษตรเป็นสิ่งที่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ที่เกิดในประเทศนี้ย่อมผ่านหูผ่านตาในเรื่องของความรู้การทำเกษตรไม่ช่องทางใดก็ช่องทางหนึ่ง จึงทำให้หลายๆ คนที่ไม่ได้เคยอยู่ในสายอาชีพทางการเกษตรอยู่เดิม เมื่อเกษียณจากงานและต้องการที่จะกลับมาอยู่บ้าน ก็มักจะมองงานด้านการเกษตรเป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้ให้กับตัวเอง หรืออย่างน้อยก็เป็นอาหารสำหรับบริโภคภายในครัวเรือน

คุณโสพี ทองทุม อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ที่ 9 ตำบลโพธิ์ไทรงาม อำเภอบึงนาราง จังหวัดพิจิตร ได้เกษียณจากงานประจำกลับมาทำเกษตรผสมผสานยังบ้านเกิดของตัวเอง โดยยึดการทำเกษตรเน้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้ในพื้นที่ของเขามีการทำเกษตรชนิดที่ว่าครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการปลูกพืช การเลี้ยงสัตว์ ตลอดไปจนถึงการเลี้ยงปลาภายในบ่อน้ำสำหรับใช้ภายในสวน

คุณโสพี เล่าให้ฟังว่า เริ่มมาทำเกษตรผสมผสานตั้งแต่ปี 2560 คือเกษียณจากงานประจำแล้วมาทำทันที จากนั้นแบ่งพื้นที่ที่มีอยู่จำนวน 19 ไร่ มาทำเกษตรผสมผสานอยู่ที่ 3 ไร่ โดยในพื้นที่สำหรับแบ่งมาทำการเกษตรจะดำเนินการขุดบ่อน้ำไว้เพื่อให้ใช้รดพืชผักและไม้ผลต่างๆ และเลี้ยงปลาเข้ามาเสริมด้วย จึงทำให้ภายในบ่อน้ำนอกจากมีน้ำใช้ทำการเกษตรแล้ว ปลาภายในบ่อยังสามารถสร้างรายได้อีกด้วย

คุณโสพี ทองทุม

นอกจากนี้ ในเรื่องของการปลูกพืชจะเน้นปลูกพืชที่มีความหลากหลาย ไม้ผลที่สร้างรายได้ประจำปีก็จะเน้นการปลูกไม้ผลจำพวกมะม่วง มะขามเทศ มะขาม สะเดา ส่วนพืชผักสวนครัวเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่นอกจากจะบริโภคภายในครัวเรือนแล้ว ยังสามารถจำหน่ายได้ราคาอีกด้วย เช่น คะน้า กะเพรา ถั่วฝักยาว ฯลฯ เรียกได้ว่ากินอะไรก็ปลูกพืชชนิดนั้น

“นอกจากผมจะปลูกพืชแล้ว ผมยังมีการเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ด้วย ทำให้สวนผสมผสานของผม เรียกได้ว่าค่อนข้างครบวงจร เพราะฉะนั้น ไม่ว่าเราจะทำอะไร ถ้าเรามีของครบอยู่ทุกด้าน ก็จะช่วยให้เรามีผลผลิตทางการเกษตรที่ครบวงจร ซึ่งตอนนี้ผลผลิตทางการเกษตรของผมค่อนข้างที่จะมีครบทุกอย่าง ทำให้ในแต่ละวันเรามีอาหารที่เราผลิตเองกินอยู่ตลอดเวลา เพราะเราทำหมุนเวียนแบบนี้ไปตลอดทั้งปี” คุณโสพี บอก

การทำเกษตรผสมผสานนั้น น้ำถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญมาก คุณโสพี บอกว่า ต้องมีในเรื่องของการจัดการน้ำให้ดีก็จะช่วยให้พืชที่ปลูกไม่เกิดความเสียหาย ส่วนในเรื่องของปุ๋ยและสารป้องกันแมลงศัตรูพืช จะเน้นทำปุ๋ยหมักใช้เองและน้ำหมักต่างๆ ไว้ใช้สำหรับป้องกันแมลงศัตรูพืช จึงทำให้การทำเกษตรผสมผสานภายในสวนของเขานั้นปลอดสารพิษทุกขั้นตอน

สำหรับในเรื่องของการทำตลาดเพื่อจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรนั้น คุณโสพี บอกว่า ส่วนใหญ่นำผลผลิตไปจำหน่ายในตลาดชุมชน สินค้าหลักๆ ทีทำการจำหน่ายจะเน้นทำการแปรรูปเอง อย่างเช่นปลาที่เลี้ยงในบ่อจะไม่เน้นจำหน่ายเป็นปลาสด แต่จะเน้นทำการแปรรูปเองจึงทำให้สามารถเพิ่มมูลค่าทางการผลิตได้เป็นอย่างดี ส่วนพืชผักสวนครัวอื่นๆ ก็จะเน้นขายตามความเหมาะสม ราคากำอยู่ที่ 10-20 บาท

ปลาที่เลี้ยงภายในบ่อ

เมื่อเขาได้มาทำเกษตรผสมผสานในช่วงที่เกษียณออกมา ทำให้เขาค้นพบว่าชีวิตเขาค่อนข้างมีความสุขเป็นอย่างมาก ยิ่งช่วงสถานการณ์โควิด-19 ช่วงที่ต้องหยุดเชื้อเพื่อชาติ ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรที่มีอยู่ภายในสวน ช่วยให้เขามีอาหารใช้บริโภคภายในครัวเรือนได้อย่างสบาย พร้อมทั้งส่วนที่มีมากเกินไปยังสามารถจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับเขาได้อีกด้วย

พื้นที่เลี้ยงปลา

“การทำเกษตรสิ่งที่ผมอยากจะฝากไว้ก็คือ ปลาที่เราเลี้ยงอย่าเน้นขายเป็นปลาสดอย่างเดียว ให้เรียนรู้ในเรื่องของการแปรรูปด้วย จะเพิ่มมูลค่าได้มาก ส่วนพืชผักลูกค้าเขาก็จะบอกเราอยู่เสมอว่า ผักของเรามีความปลอดภัย เพราะเราใช้หลักที่ว่า เรากินยังไงเราก็ปลูกอย่างนั้น จึงทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าสิ่งที่ผมทำ ผมทำด้วยความใส่ใจ เพราะฉะนั้น คนที่สนใจอยากทำเกษตร ก็อยากให้สนใจในเรื่องของน้ำเป็นสำคัญ ต้องมีเรื่องน้ำในพื้นที่ ก็จะช่วยให้การทำเกษตรของเราประสบผลสำเร็จได้อย่างแน่นอน” คุณโสพี บอก

 

สำหรับท่านใดที่สนใจในเรื่องของการทำเกษตรผสมผสาน สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณโสพี ทองทุม ที่หมายเลขโทรศัพท์ 061-095-5065