| ผู้เขียน | สุรเดช สดคมขำ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
บอนสี เป็นไม้ประดับที่มีความสวยงามทั้งรูปทรงต้นและสีสันของใบ จนได้ชื่อว่าเป็น “ราชินีแห่งไม้ใบ” มีถิ่นกำเนิดแถบทวีปอเมริกาใต้และประเทศในเขตร้อน บอนสีเป็นไม้ล้มลุกที่มีหัวสะสมอาหารอยู่ใต้ดินคล้ายหัวเผือก หัวมัน รากของบอนสีจะมีลักษณะเป็นเส้นฝอย แทงออกระหว่างหัวกับลำต้น ถือเป็นไม้ดอกไม้ประดับที่มีการพัฒนาพันธุ์ที่สำคัญหนึ่งของประเทศเลยก็ว่าได้ เพราะเกษตรกรไทยให้ความสำคัญและสามารถสร้างรายได้จากการปลูกได้ไม่น้อยทีเดียว
คุณมนัสนันท์ ยวดทอง อยู่บ้านเลขที่ 91/5 หมู่ที่ 9 หมู่บ้านแสนสบาย ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้สนใจในเรื่องของการปลูกบอนสี โดยเรียนรู้ทุกขั้นตอนด้วยตัวเองจนสามารถขยายบอนสีเพิ่มจำนวนได้มากขึ้น จากนั้นทำการตลาดผ่านโลกโซเชียล จนทำให้สวนของเธอเป็นที่รู้จักและทำการตลาดทั้งจำหน่ายหน้าสวนและส่งขายออนไลน์ได้ชนิดที่ว่าสร้างรายได้ดีไม่น้อยทีเดียว
คุณมนัสนันท์ เล่าให้ฟังว่า เดิมทียังไม่ได้มาปลูกบอนสีเป็นแม่บ้านอยู่กับบ้าน ต่อมาต้องการที่จะช่วยเสริมรายได้ให้กับครอบครัว เป็นการแบ่งเบาภาระให้กับสามี จึงได้เรียนรู้การทำอาชีพเสริมที่คิดว่าตัวเธอเองน่าจะถนัดและสามารถทำอยู่กับบ้านได้ ซึ่งเธอเองมีความรักความชอบในไม้อย่างต้นบอนสีอยู่เป็นทุนเดิม ต่อมาเมื่อรู้สึกว่าต้องการที่จะสร้างรายได้ จึงได้เริ่มหาซื้อต้นพันธุ์บอนสีเข้ามาเรื่อยๆ พร้อมทั้งเรียนรู้การขยายพันธุ์อยู่เสมอ จึงทำให้มีบอนสีเพิ่มจำนวนมากขึ้น และสามารถสร้างเป็นรายได้ให้กับเธอมาได้จนถึงปัจจุบัน
“หลังจากที่เราซื้อบอนสีเข้ามาจำนวนหนึ่งแล้ว ต่อมาก็ค่อยๆ หาซื้อแบบผสมเล็กผสมน้อยเรื่อยๆ ต่อมาก็ทำการขยายพันธุ์เอง ทำมาเรื่อยๆ จนสามารถมีจำนวนมากขึ้น ต่อมาไม้ก็มีจำนวนเยอะขึ้นจนสามารถทำตลาดได้ โดยเราก็หมั่นโพสต์ในโซเชียลเป็นหลัก ก็เลยทำให้ลูกค้ามีทั้งแบบออนไลน์ และแบบเข้ามาซื้อถึงหน้าสวน ตอนนี้บอนสีก็เลยเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับเราดีมาก” คุณมนัสนันท์ บอก
การปลูกบอนสีให้ได้คุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาดนั้น คุณมนัสนันท์ บอกว่า การขยายพันธุ์จะเน้นการผ่าหัวเป็นหลัก โดยนำต้นที่ผ่านการผสมที่ติดเมล็ดจนเป็นต้นแล้วมาปลูกจนมีหัวได้อายุ 7-8 เดือน ก็จะนำหัวของบอนสีที่ได้มาผ่าให้เป็นลูกเต๋าเล็กๆ พอประมาณ จากนั้นนำชิ้นส่วนของหัวบอนสีที่หั่นดีแล้วมาเพาะลงในกระบะที่เตรียมไว้ วัสดุเพาะในช่วงนี้จะมีส่วนผสมของทรายผสมอยู่เล็กน้อย
เมื่อเพาะและดูแลไปได้ประมาณ 1 เดือน ชิ้นส่วนทั้งหมดจะเริ่มงอกออกมาให้เห็น จากนั้นย้ายมาปลูกลงในกระถางขนาด 4 นิ้ว โดยใช้วัสดุปลูกที่เป็นหน้าดินผสมกับมะพร้าวสับอัตราส่วน 1 ต่อ 1 จะช่วยทำให้รากของบอนสีเดินได้ดีและโตอย่างไม่มีปัญหา ส่วนการรดน้ำรดวันละ 1 ครั้ง หากเป็นช่วงหน้าหนาวอาจรดมากถึงวันละ 2 ครั้ง ซึ่งการปลูกเลี้ยงบอนสีของที่นี่จะไม่เน้นเลี้ยงอยู่ในตู้ ทำให้บอนสีค่อนข้างมีความแข็งแรงเมื่อลูกค้าซื้อไปปลูกโดยไม่ต้องรอการปรับสภาพใดๆ
“หลังจากที่เราเลี้ยงจากกระถาง 4 นิ้ว ต่อไปอีกประมาณ 6 เดือน เราก็จะย้ายนำไปปลูกลงกระถาง 6 นิ้วอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเห็นรากของบอนสีเดินทะลุถึงก้นกระถางเมื่อไรจะปล่อยจำหน่ายทันที เพราะเป็นระยะที่บอนสีโตสมบูรณ์ดีแล้ว ส่วนในเรื่องของการป้องกันโรคและแมลงนั้น จะดูตามอาการที่เหมาะสม หากเจอแมลงศัตรูพืชหรือโรคพืชอะไรก็จะดูแลตามอาการที่เกิดขึ้น ยิ่งเลี้ยงอยู่นอกตู้บอนสีจึงค่อนข้างที่จะแข็งแรง ลูกค้าเคยมาบอกว่าซื้อไปแล้วไม่ต้องนำไปปรับสภาพให้ยุ่งยาก” คุณมนัสนันท์ บอก
สำหรับในเรื่องของการทำตลาดเพื่อจำหน่ายบอนสีนั้น คุณมนัสนันท์ เล่าให้ฟังว่า มีทั้งจำหน่ายผ่านหน้าสวนและจำหน่ายออนไลน์เป็นหลัก โดยราคาที่จำหน่ายหน้าสวนจะเน้นราคาที่ลูกค้าสามารถจับต้องได้ รวมไปถึงพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการรับไปจำหน่ายทางสวนก็มีราคานี้ไว้รองรับ จึงทำให้ผู้เล่นทั้งรายใหม่ที่ต้องการศึกษาในช่วงแรกสามารถนำไปซื้อทดลองปลูกได้อย่างสบายใจ เพื่อเรียนรู้และสร้างโอกาสทางรายได้ต่อไป
โดยราคาบอนสีที่เป็นลูกไม้กระถางตั้งแต่ 4 นิ้ว จำหน่ายราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 100-500 บาท ส่วนบอนสีที่เป็นต้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างเช่นมีความด่าง ราคาอยู่ที่ 3,000-4,000 บาทต่อต้น นอกจากนี้ ทางสวนยังมีลูกไม้ที่ผสมขึ้นเองโดยลูกค้าท่านไหนที่ต้องการนำไปขยายและตั้งชื่อใหม่ ทางสวนก็มีให้ได้เข้ามาซื้อและจับจองกัน
“บอนสีกว่าเราจะเลี้ยงมาประสบผลสำเร็จถึงทุกวันนี้ ย้อนไป 4 ปีก่อนเราเองก็ลองผิดลองถูกมาเยอะ ไม่ได้สำเร็จเกิดเป็นรายได้ในทันที แต่เรามีความรักความชอบที่จะทำ และเรียนรู้อยู่กับมันเสมอ จึงทำให้ตอนนี้สวนเราค่อนข้างที่จะครบวงจรและทำรายได้ให้กับเราได้อย่างดี ก็อยากจะฝากคนที่สนใจ ว่าถ้ามีใจรักที่จะทำและเริ่มอย่างจริงจัง สิ่งที่เรารักเราชอบจะสอนประสบการณ์ให้เราเอง เกิดมีรายได้อย่างแน่นอน” คุณมนัสนันท์ บอก
สำหรับท่านใดที่สนใจในเรื่องของการปลูกบอนสี สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณมนัสนันท์ ยวดทอง หมายเลขโทรศัพท์ 094-898-9566
