สยามคูโบต้า ผนึก ดีป้า ผลิต “ต้นกล้าดิจิทัล” รุ่นแรก

สยามคูโบต้า ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เผยความสำเร็จโครงการต้นกล้าดิจิทัล รุ่นแรก จากน้องๆ นักศึกษาวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี จบโครงการกว่า 475 ราย พลิกบทบาทจากผู้เรียนสู่ผู้สอนถ่ายทอดความรู้ด้านดิจิทัลให้เกษตรกร ทั้งสิ้นกว่า 820 ราย หวังเกษตรกรได้รับความรู้เพิ่มขึ้น เพื่อนำไปประยุกต์ใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำเกษตร

โครงการ “คูโบต้าต้นกล้าดิจิทัล” เป็นโครงการที่สยามคูโบต้ามุ่งหวังส่งเสริมภาคการเกษตรของไทยให้มีความเข้มแข็งด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อให้เกษตรกรก้าวทันต่อยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป โดยบริษัทจะเข้าไปให้องค์ความรู้ สนับสนุนและส่งเสริมด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลด้านการเกษตร เครื่องจักรกลการเกษตรและอุปกรณ์การเกษตร พร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่หันมาประกอบอาชีพเกษตรกรรมมากยิ่งขึ้น โดยจะเข้าไปพัฒนาศักยภาพและองค์ความรู้ในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลภาคการเกษตรให้แก่นักศึกษาวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี 24 แห่งทั่วประเทศ สู่การสร้างคูโบต้าต้นกล้าดิจิทัลรวมทั้งสิ้นกว่า 475 ราย ตลอดจนเกิดการต่อยอดถ่ายทอดองค์ความรู้สู่เกษตรกรอีกกว่า 820 ราย ภายในระยะเวลา 3 เดือน

นางสาวพัชรี คงยศ นักศึกษา ปวส. ชั้นปีที่ 2 คณะเกษตรศาสตร์ สาขางานการเกษตร วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกระบี่ ผู้เรียนที่ได้รับรางวัลในโครงการ กล่าวว่า “ปัจจุบันเกษตรกรส่วนใหญ่ได้มีการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว แต่บางรายยังขาดความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับวิธีการใช้ และการบำรุงรักษาที่เหมาะสม รวมถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเกษตรในปัจจุบัน สิ่งที่เราได้ไปสอนเกี่ยวกับการใช้แพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชั่นที่เป็นประโยชน์ เราก็จะสามารถสื่อสารกับเกษตรกรได้รวดเร็ว เกษตรกร สามารถซักถามหรือให้ข้อมูลตอบกลับได้ง่ายขึ้น ตลอดจนช่วยให้เกษตรกรมองเห็นช่องทางในการค้นคว้าหาความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นการใช้สื่อที่หลากหลายเพื่อช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้ของตัวเองอีกด้วย”

และ นางสาวฉวีวรรณ สมจันทร์ นักศึกษา ปวส. ชั้นปีที่ 2 คณะเกษตรศาสตร์ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกระบี่ อีกหนึ่งในผู้เรียนที่ได้รับรางวัลในโครงการ เล่าว่า “สำหรับกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดกระบี่มีความเข้มแข็งและสามัคคีมาก ให้ความร่วมมือในทุกกิจกรรมเป็นอย่างดี และให้ความสนใจเกี่ยวกับความรู้ด้านดิจิทัลเบื้องต้น การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกับการเกษตร ที่เราได้ถ่ายทอดให้ ในฐานะผู้สอนรู้สึกดีใจมากที่ได้มีโอกาสส่งต่อความรู้ให้กับกลุ่มเกษตรกร และผู้เรียนของเรายังสามารถส่งต่อความรู้ได้ด้วย ซึ่งจะเป็นการขยายความรู้ในวงกว้าง เป็นการช่วยสร้างชุมชนให้เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน ช่วยกันพัฒนาชุมชนไปในทางที่ดีขึ้น”

Advertisement

ทางด้าน นางสาวสุภาพร ชัยสวัสดิ์ เกษตรกรผู้ทำสวน ปาล์มน้ำมัน ยางพารา พื้นที่ 20ไร่ อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ ผู้ได้รับการสอนจากน้องๆ ในโครงการ เล่าถึงความประทับใจว่า “จากเดิมที่เคยทำเกษตร เหมือนเป็นการลองถูกลองผิดไปเรื่อยๆ ลองไปจนกว่ามันจะดีขึ้น แต่เมื่อมีน้องๆ มาสอนวิธีการหาความรู้เพิ่มเติมโดยใช้เทคโนโลยีอย่างแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชั่น ก็เหมือนมีผู้เชี่ยวชาญมาคอยสอนถึงที่ เราสามารถหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำการเกษตร การใช้เครื่องจักรกลการเกษตรที่เหมาะสมและทุ่นแรงเราได้ หรือวิธีการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำเกษตรให้ดียิ่งขึ้น”