เกษตรกรเมืองกาญจน์ “ปลูกหอมแบ่ง” 45 วันเก็บขาย รับทรัพย์ครึ่งแสนต่อไร่

“ต้นหอม” หรือ “หอมแบ่ง” ผักกินใบและใช้ลำต้นปลูกไม่นาน ติดอันดับผักขายดีที่ทุกแผงผักต้องมีติดไว้ เพราะถือเป็นผักที่มีส่วนสำคัญในการปรุงอาหารทั้งคาวและหวาน ทำให้ความต้องการใช้ในแต่ละวันสูงมาก แต่ยังไงก็ตามสำหรับเกษตรกรท่านใดที่อยากปลูกหอมแบ่งเพื่อสร้างรายได้ ควรมีการศึกษาการตลาดและวางแผนจัดการปลูกให้ดี เพราะหอมแบ่งเป็นพืชที่มีราคาผันผวนสูง ในวันที่ราคาดีราคาก็พุ่งสูงไปถึงกิโลกรัมละร้อย แต่หากช่วงไหนราคาตกก็ตกลงมาอย่างน่าใจหาย เพราะฉะนั้นการวางแผนและเทคนิคการปลูกถือเป็นเรื่องสำคัญ

คุณสุรางค์ นรเอี่ยม หรือ พี่ก้อย ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์คนเก่ง

คุณสุรางค์ นรเอี่ยม หรือ พี่ก้อย อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ที่ 5 ตำบลหนองกร่าง อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์คนเก่ง สร้างตัวจากอาชีพเกษตร ปลูกพืชผสมผสาน เด่นที่การจัดสรรพื้นที่และเทคนิคการปลูกการดูแล รวมถึงการวางแผนการตลาดก่อนปลูกให้มีกำไรตลอดทุกช่วงการผลิต

ไถยกร่องเตรียมปลูก
วางระบบน้ำสปริงเกลอร์รอบสวน

พี่ก้อย เล่าถึงจุดเริ่มต้นการเป็นเกษตรกรว่า เมื่อก่อนตนเองและสามีประกอบอาชีพเปิดร้านซ่อมรถเป็นหลัก การทำเกษตรเป็นเพียงอาชีพเสริมเท่านั้น แต่เมื่อได้ทำมาสักพัก งานเกษตรได้กลายเป็นงานสร้างรายได้หลักให้กับครอบครัวแบบไม่ได้ตั้งใจ เริ่มทำจากพื้นฐานความรู้เป็นศูนย์ อาศัยเพียงความขยันหมั่นศึกษาหาความรู้ วิธีการปลูกจากอินเตอร์เน็ต และจากเกษตรกรมืออาชีพแถวบ้าน จนเกิดเป็นประสบการณ์และความชำนาญสามารถพัฒนาต่อยอดจากพื้นที่ทำเกษตรเดิมที่มีเพียง 2 ไร่ ขยายพื้นที่ปลูกมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันมีพื้นที่ทำการเกษตรจำนวน 30 ไร่ ด้วยการจัดสรรพื้นที่การปลูกพืชแบบสลับหมุนเวียนกันไป โดยมีข้าวโพดหลากหลายสายพันธุ์ และหอมแบ่งเป็นพืชสร้างรายได้หลัก ด้วยเหตุผลที่ข้าวโพดเป็นพืชที่ปลูกดูแลง่าย น้ำหนักต่อไร่สูง ตลาดไปได้เรื่อยๆ ส่วนหอมแบ่งมีข้อดีตรงที่ปลูกแล้วเก็บเกี่ยวได้ไว ใช้เวลาเพียง 45 วันเก็บขายสร้างเงินก้อน ซึ่งถ้าหากช่วงไหนราคาดีการปลูกหอมก็สามารถสร้างรายได้ถึงหลักแสนต่อไร่ได้แบบไม่ทันตั้งตัวเลย

ลงมือปลูก
ปลูกเสร็จคลุมฟางรักษาความชื้นในดิน

ปลูกหอมแบ่งสร้างรายได้
45 วันตัดขายทำเงิน

เจ้าของบอกว่า สำหรับเทคนิคการปลูกหอมแบ่งของที่สวนจะมีวิธีการแบ่งพื้นที่ไว้สำหรับการปลูกหอมโดยเฉพาะจำนวน 10 ไร่ เพื่อวางแผนการปลูกให้มีผลผลิตออกขายได้ตลอดทั้งปี เน้นการปลูกแบบสลับหมุนเวียน แบ่งปลูกอาทิตย์ละแปลง แปลงละ 2 ไร่ สร้างรายได้อาทิตย์ละครั้ง

ช่วงหอมแบ่งอายุ 25 วัน

โดยหอมแบ่งสามารถปลูกได้ทุกฤดูกาล แต่จะมีช่วงราคาที่แตกต่างกันออกไป หากปลูกช่วงฤดูร้อน (เดือนเมษายน) จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ (เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน) ราคาจะสูงมาก ส่วนฤดูฝนราคาดีปานกลาง แต่หอมแบ่งจะไม่ทนฝน หอมจะเน่าและเป็นโรคได้ง่าย และในฤดูหนาวราคาจะถูก เพราะเป็นช่วงที่ผลผลิตออกเยอะ ปลูกดูแลง่าย ต้นทุนต่ำ พอได้กำไรแต่ไม่มาก

ช่วงหอมแบ่งอายุ 28 วัน

การเตรียมดิน สำหรับพื้นที่ยังไม่เคยปลูกมาก่อน ให้เริ่มต้นจากการไถยกร่องตากดินทิ้งไว้ 1 อาทิตย์ จากนั้นโรยขี้ไก่ลงไป แล้วใช้เครื่องตีดินเพื่อให้ดินร่วนซุยอีกครั้ง

คัดเลือกสายพันธุ์ปลูก การคัดเลือกสายพันธุ์หอมแบ่งถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการปลูก โดยที่สวนจะเลือกปลูกหอมอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ หอมพันธุ์โคราชและหอมพันธุ์ลับแล ซึ่งมีจุดเด่นต่างกันคือ สายพันธุ์โคราชจะใช้ระยะเวลาการปลูกนาน 50 วัน มีข้อดีอยู่ที่ ต้นจะแกร่ง หลอดใหญ่ ใบหนา ระยะเก็บเกี่ยวได้นาน 7-10 วัน ทนโรค ทนแมลง ส่วนพันธุ์ลับแลจะเก็บเกี่ยวได้เร็ว 45 วันตัดขายได้ แต่มีข้อเสียคืออายุการเก็บเกี่ยวสั้น เกษตรกรสามารถเลือกปลูกได้ตามความเหมาะสมและความต้องการของแต่ละพื้นที่

ช่วงหอมแบ่งอายุ 43 วัน ใกล้ถึงวันเก็บเกี่ยว

การปลูก ใช้วิธีการปลูกจากหัวพันธุ์ ในระยะความห่างระหว่างต้นประมาณ 10-15 เซนติเมตร ซึ่งเป็นระยะการปลูกที่เหมาะสมสำหรับการปลูกเพื่อการค้า หากปลูกในระยะถี่กว่านี้ต้นจะฝอย หลอดเล็ก โดยหลังจากลงหัวพันธุ์เรียบร้อยแล้ว จะต้องคลุมฟางให้ทั่วแปลง เพื่อรักษาความชื้นหน้าดิน

ระบบน้ำ หลังจากปลูกเสร็จรดน้ำด้วยระบบสปริงเกลอร์ทุกวันเช้า-เย็น จนถึงวันเก็บเกี่ยว

พร้อมเก็บเกี่ยว

ปุ๋ย แต่ละที่จะมีเทคนิคการใส่ปุ๋ยไม่เหมือนกัน บางสวนใส่ปุ๋ย 3-4 ครั้งในการปลูกแต่ละรอบ แต่เทคนิคของที่สวนจะใส่ปุ๋ยเพียง 2 ครั้งต่อ 1 รอบการปลูก คือจะเริ่มใส่ปุ๋ยครั้งแรกช่วงหอมแบ่งอายุ 20 วัน ด้วยสูตร 25-7-7 ในอัตรา 2 ไร่ต่อ 1 กระสอบ และครั้งที่ 2 จะใส่ช่วงหอมแบ่งอายุ 30 วัน ด้วยสูตร 16-16-16 ในอัตรา 2 ไร่ต่อ 1 กระสอบเช่นกัน

หลอดใหญ่ ใบหนา เป็นที่ต้องการของตลาด

การดูแลป้องกันโรคแมลง

ในช่วงหน้าร้อนต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะหนอนหลอดจะระบาด วิธีการดูแลอาจต้องมีการใช้สารเคมีผสมกับอินทรีย์บ้าง ด้วยการฉีดยาบำรุงครั้งแรกเมื่อหอมแบ่งอายุได้ 15 วัน หลังจากนั้นให้ฉีดยาบำรุงในทุกๆ 7 วัน ถือเป็นการป้องกัน หากปล่อยให้เกิดเยอะแล้วค่อยมาดูแลทีหลังจะเอาไม่อยู่ ทำให้ขาดทุนได้

เตรียมพร้อมส่งตลาด

เคล็ดลับความสำเร็จ
ปลูกอย่างไรให้ได้ผลผลิตสูง 2-3 ตันต่อไร่

สำหรับเคล็ดลับการปลูกอย่างไรให้ได้ผลผลิตต่อไร่สูง พี่ก้อย บอกว่า อยู่ที่ดิน ปุ๋ย และการดูแล โดยพื้นที่การปลูกจำเป็นต้องมีการปลูกพืชอย่างอื่นสลับหมุนเวียนกันไป ไม่ควรปลูกซ้ำที่เดิมนานๆ ดินจะเสื่อมโทรม ส่งผลให้หอมไม่โต

ออร์เดอร์ล้น วันละ 500-700 กิโลกรัม

“อย่างของที่สวนพี่จะไม่ปลูกหอมซ้ำพื้นที่เดิมนานเกิน 1 ปี หากปลูกครบ 1 ปี พี่จะไปหาพื้นที่ปลูกใหม่ แล้วใช้พื้นที่เดิมที่เคยปลูกหอมเอาข้าวโพดมาลงปลูกแทนเพื่อที่ตอนเก็บผลผลิตข้าวโพดเสร็จแล้วจะได้ปั่นต้นข้าวโพดลงไปในดินเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน แล้วค่อยกลับมาปลูกหอมใหม่ โดยจะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ หากทำได้อย่างที่บอกมานี้ก็จะได้ผลผลิตออกมาคุณภาพ น้ำหนักเยอะ โดยปีที่ผ่านมาพี่สามารถผลิตต้นหอมได้สูงถึง 3.3 ตันต่อไร่ ด้วยเทคนิคการสลับพื้นที่ปลูกและการดูแลรดน้ำใส่ปุ๋ยอย่างถูกวิธี”

พืชผสมผสานสร้างรายได้เสริมภายในสวน

การเก็บเกี่ยวผลผลิต เฉลี่ยวันละ 500-700 กิโลกรัม รายได้เป็นไปตามกลไกการตลาดหากเป็นช่วงที่หอมแบ่งมีราคาแพงรายได้ก็จะเยอะตามถึงหลักแสนต่อไร่ แต่ถ้าหากช่วงไหนราคาถูกก็ยังได้กำไรอยู่แต่ได้น้อย ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการวางแผนที่ดีด้วยเพราะจากเหตุการณ์ที่เคยเจอมายังมีอีกหลายสวนที่ยังขาดทุนกับการปลูกหอมแบ่งอยู่ โดยส่วนนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย บางรอบฝนตกหนัก หนอนลงก็ทำให้ขาดทุนได้ หรือบางสาเหตุเกิดจากตัวเกษตรกรเอง เพราะการค้าขายในบางครั้งต้องอาศัยความจริงใจและความซื่อสัตย์ เป็นคู่ค้าที่ดีต่อกัน โดยที่สวนจะมีสัญญาใจกับแม่ค้าประจำทุกเจ้า คือไม่ว่าช่วงไหนราคาหอมจะถูกหรือแพงจะส่งประจำให้เขาตลอด จะไม่เกิดเหตุการณ์แอบเอาของไปขายเองในช่วงที่ผลผลิตมีราคาสูงเด็ดขาด เพราะถ้าทำแบบนี้แล้วพอถึงช่วงของล้นตลาดหรือราคาถูกขึ้นมาแม่ค้าก็จะไม่ช่วยเราทำให้เกิดเหตุการณ์ต้องยอมขายเหมาสวนแบบขาดทุนกันไป

ข้าวโพดราชินีทับทิมสยาม พืชหลักสร้างรายได้อีกชนิด

ตลาดรับซื้อ ควรหาตลาดรับซื้อก่อนปลูกคือเรื่องสำคัญ โดยในช่วงแรกด้วยความที่เป็นเกษตรกรมือใหม่จึงใช้วิธีฝากขาย แล้วหลังจากนั้นหากผลผลิตเรามีคุณภาพและสามารถทำส่งตลาดได้ตลอดจะมีแม่ค้าติดต่อเข้ามาเอง โดยตลาดรับซื้อของที่สวนมีแม่ค้าประจำจากอ่างทอง ตลาดศรีเมือง ตลาดไทเข้ามารับถึงสวน ในราคาที่ตกลงกันไว้ และมีการปรับราคาขึ้นลงตามกลไกตลาด เพราะฉะนั้นควรมีการวางแผนการตลาดที่ดี และผลิตสินค้าให้ได้คุณภาพคือเรื่องสำคัญ หากปฏิบัติได้ดังนี้แล้วการปลูกหอมแบ่งถือว่าคุ้มค่า สามารถสร้างเงินเก็บได้ก้อนโต ทำให้ครอบครัวมีสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากเดิมเพราะอาชีพเกษตร พี่ก้อย กล่าวทิ้งท้าย

หน่อไม้ฝรั่งก็ปลูกได้

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 086-171-4508