‘ฉัตรชัย’ สกัดรุกป่าปลูกข้าวโพด พบชาวไร่ 50% ทำผิดกม./นัดถก 19 มิ.ย. เอกชนแนะทำงานบูรณาการประชารัฐ

พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยเพื่อติดตามสถานการณ์อาหารสัตว์และผลผลิตที่ต้องการใช้ในแต่ละปี ซึ่งพบว่าอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ใช้ข้าวโพดเป็นวัตถุดิบ ประมาณ 7-8 ล้านตัน ต่อปี ซึ่งสัดส่วน 50% ปลูกในพื้นที่ที่ถูกต้อง แต่อีกประมาณ 3-4 ล้านตัน เป็นข้าวโพดที่ได้จากการบุกรุกป่าเพื่อเพาะปลูก กระทรวงจึงต้องการส่งเสริมให้ลูกข้าวโพดได้ตามปริมาณที่ผู้ซื้อต้องการ ด้วยการสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกในช่วงหลังนา เพื่อให้การเพาะปลูกถูกต้องตามกฎหมาย โดยวันที่ 19 มิถุนายนนี้จะหารือกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย สมาคมผู้รับซื้อข้าวโพด และเกษตรกรผู้สมัครใจจะปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา เพื่อขายให้กับเอกชนที่ต้องการรับซื้อไปผลิตอาหารสัตว์ที่ใช้ในประเทศและส่งออก มีเป้าหมายเพื่อลดพื้นที่บุกรุกป่า โดยจะร่วมกันลงนามบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) หลังได้ข้อยุติทั้งหมดแล้ว

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย กล่าวว่า ปกติผลผลิตข้าวโพดในประเทศไม่เพียงพอความต้องการ หากรัฐบาลต้องการลดพื้นที่ปลูกที่ผิดกฎหมายคาดว่าผลผลิตจะขาดไปประมาณ 5.9 ล้านตัน และจะทำให้เกิดความตึงตัว “หากรัฐบาลจะเอาจริงเอาจังยกเลิกปลูกข้าวโพดในพื้นที่บุกรุกป่าซึ่งผิดกฎหมาย โดยไม่ทำให้ราคาอาหารสัตว์สูงขึ้น จำเป็นต้องบูรณาการการทำงานแบบประชารัฐ ทั้งภาครัฐ เอกชน สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ และพ่อค้าที่ขายเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเกษตรกรว่าจะได้ผลหรือไม่ที่จะลดการบุกรุกพื้นที่ป่า และกระทรวงพาณิชย์ต้องดูแลราคาต้นทางของเมล็ดพันธุ์ด้วย เพื่อควบคุมราคา เรื่องนี้ไม่น่าจะทำได้ในปีเดียว อย่างน้อยน่าจะใช้เวลาประมาณ 5 ปี กว่าผลผลิตจะกลับมาสู่สมดุลโดยไม่บุกรุกป่า” นายพรศิลป์ กล่าว

 

 

ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน