เปิดสรรพคุณ หญ้ารีแพร์

หญ้ารีแพร์ สรรพคุณบำรุงสตรี หรือที่เรียกกันว่า หญ้าฮียุ่ม จัดเป็นสมุนไพรไทยช่วยกระชับช่องคลอด ใช้ดียังไง ใช้อย่างไรให้ถูกต้องและได้ผล สาวๆ ต้องรู้ให้ชัด

หญ้าฮียุ่ม หรือ หญ้ารีแพร์ ยังคงเป็นสมุนไพรบำรุงสตรีที่ได้รับความนิยมอย่างมากมาย ด้วยสรรพคุณของหญ้ารีแพร์ที่ช่วยกระชับช่องคลอด คืนความสาวให้คุณผู้หญิงด้วยวิธีธรรมชาติ ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่จะเทใจมาทางสมุนไพรไทยอย่างหญ้ารีแพร์มากกว่าไปสนใจในเทคโนโลยีที่สามารถกระชับช่องคลอดได้เช่นกัน

หญ้ารีแพร์ กับข้อมูลน่ารู้

หญ้ารีแพร์ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Centotheca lappacea (L.) Desv. โดยหญ้ารีแพร์เป็นพืชในวงศ์ Poaceae ซึ่งจัดอยู่ในพืชตระกูลไผ่ ส่วนชื่อภาษาอังกฤษของหญ้ารีแพร์ก็คือ Barbed grass ซึ่งในบ้านเรานั้น หญ้ารีแพร์เป็นชื่อที่ถูกขัดเกลามาเพื่อให้ออกสื่อได้สะดวกยิ่งขึ้น เพราะจริงๆ แล้ว หญ้า Barbed grass หรือหญ้ารีแพร์ มีชื่อตามท้องถิ่นว่าหญ้าฮียุ่ม ซึ่งชาวบ้านเรียกสมุนไพรชนิดนี้ว่าหญ้าฮียุ่มกันมายาวนาน โดยเรียกชื่อตามสรรพคุณของตัวสมุนไพรนั่นเอง

ทั้งนี้ หญ้ารีแพร์เป็นสมุนไพรที่ปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทย แต่จะพบหญ้ารีแพร์ได้มากในพื้นที่ป่าเบญจพรรณและป่าดิบชื้น หรือบริเวณที่ราบเชิงเขา หรือบนภูเขาสูง แถบภาคอีสาน   ซะส่วนใหญ่

 ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

หญ้ารีแพร์เป็นพืชล้มลุกตระกูลเดียวกับพืชตระกูลไผ่ ลักษณะของหญ้ารีแพร์จึงมีลำต้นเป็นข้อปล้องทรงกลมขนาดเล็ก ลำต้นสูงประมาณ 30-70 เซนติเมตร รอบๆ ลำต้นของหญ้ารีแพร์จะถูกหุ้มด้วยกาบใบ มีสีเขียวอมม่วง ลำต้นไม่มีแก่น ด้วยลักษณะนี้ลำต้นของหญ้าฮียุ่มจึงค่อนข้างอ่อนและหักง่าย แต่ถึงอย่างนั้นตัวลำต้นก็มีความเหนียว ชนิดที่ดึงให้ขาดด้วยมือก็ยาก และตรงโคนต้นสามารถแตกหน่อเป็นต้นใหม่หรือขยายเป็นกอใหญ่ได้

ส่วนใบของหญ้ารีแพร์เป็นใบเลี้ยงเดี่ยว แทงใบออกเป็นใบเดี่ยวชัดเจน ลักษณะของใบจะเรียงเยื้องสลับกันตามความสูงของลำต้น ตัวใบมีกาบใบสีเขียวอมม่วง ก้านใบสั้นติดกับกาบใบ ส่วนลิ้นใบเป็นแผ่นบางๆ ออกสีน้ำตาล อยู่ติดกับโคนก้านใบ แผ่นใบมีรูปหอกกว้างประมาณ 1.5-3 เซนติเมตร ยาวประมาณ​ 5-20 เซนติเมตร โคนใบสอบ ปลายใบแหลม แผ่นใบเรียบเป็นสีเขียวเข้ม ขอบใบโค้งเป็นลูกคลื่นขวางเข้าหากลางใบ แผ่นใบมีเส้นใบเป็นริ้วเล็กจำนวนมากตามแนวยาวของใบ

ลักษณะของดอกหญ้ารีแพร์ จะเป็นช่อแขนงคล้ายกับช่อของดอกหญ้าชนิดอื่นๆ ความยาวของดอกประมาณ 15-45 เซนติเมตร ประกอบด้วยดอกช่อและดอกย่อยกว่า 10-30 ดอก โดยประมาณ ส่วนของดอกย่อยจะมีก้านดอกสั้นๆ และมีเมล็ดหญ้ารีแพร์ลักษณะรียาว ความกว้างของเมล็ดค่อนข้างจิ๋วเพียง 2-3 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 4-6 มิลลิเมตรเท่านั้น เมล็ดในช่วงที่ยังไม่โตเต็มที่จะมีสีออกเขียว ถ้าเมล็ดแก่แล้วสีจะออกเหลืองๆ

 สรรพคุณดีอย่างไร

– หญ้ารีแพร์​ช่วยกระชับช่องคลอด สารสำคัญที่พบในหญ้ารีแพร์หรือหญ้าฮียุ่มคือสารซิลิกา (Silica) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของคอลลาเจนและน้ำไขข้อในร่างกาย มีคุณสมบัติเด่นตรงช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งเต่งตึง ในอดีตจึงนำหญ้าฮียุ่มมาบำรุงสตรีหลังคลอด เพื่อให้แผลที่ปากช่องคลอดกระชับตัวได้ดีขึ้น ฟื้นตัวได้ไวด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านมาอย่างยาวนาน

– ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ สรรพคุณของหญ้ารีแพร์ที่เป็นตัวชูโรงอีกอย่างคือสรรพคุณด้านการช่วยให้มดลูกเข้าอู่ อีกทั้งยังช่วยให้ผิวพรรณสตรีเปล่งปลั่ง โดยมีการศึกษาที่ค้นพบว่า ในพืชตระกูลไผ่มีสารพิเศษที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มการสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective Tissue) สามารถเพิ่มความยืดหยุ่นในเซลล์ผิวหนังได้ เพิ่มน้ำเมือกให้สตรีมีการหล่อลื่นได้ดี ในระยะหลังๆ จึงมีการสกัดสารพิเศษตัวนี้ออกมาใช้เป็นส่วนผสมของเวชสำอางหลายชนิด โดยให้ชื่อสารสกัดตัวนี้ว่า แบมบู ซิลิกา (Bamboo Silica)

– บำรุงกำลังหลังคลอดบุตร สารสำคัญที่มีอยู่ในหญ้ารีแพร์ไม่ได้ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นได้เท่านั้น แต่ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนให้ร่างกาย หญ้ารีแพร์จึงถูกนำมาปรุงเป็นยาบำรุงกำลังสตรีหลังคลอดบุตร เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกระดูกและเนื้อเยื่อ ช่วยลดการอักเสบที่เกิดขึ้นในร่างกาย อีกทั้งหญ้าฮียุ่มยังมีสรรพคุณช่วยลดไข้ ต้านการติดเชื้อของแผล และช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้อีกด้วย

– หญ้ารีแพร์ สรรพคุณดีต่อหญิงวัยทอง การศึกษาต่างประเทศยังพบว่า สารแบมบู ซิลิกา มีคุณสมบัติช่วยบำรุงความแข็งแรงของเส้นเอ็น ข้อ และกระดูกได้ ดังนั้น หญ้าฮียุ่มจึงเป็นสมุนไพรที่ดีสำหรับสตรีวัยหมดประจำเดือน ซึ่งร่างกายจะสร้างคอลลาเจนได้ลดลง ส่งผลให้เสี่ยงต่อโรคข้อเข่าเสื่อม หรือโรคกระดูกเสื่อมได้

– บำรุงผิวพรรณก็ดี เนื่องจากในหญ้ารีแพร์มีสารสำคัญที่ช่วยเพิ่มการสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และช่วยเพิ่มน้ำไขข้อกระดูก สรรพคุณตัวนี้จึงมีดีต่อเซลล์ผิวหนังของเรามาก และไม่ว่าจะเป็นอวัยวะใดก็ตามที่ต้องการความยืดหยุ่นแข็งแรง สารแบมบู ซิลิกา ในหญ้ารีแพร์ก็ช่วยเสริมความแข็งแรงของเซลล์ในอวัยวะนั้นๆ ได้ โดยเฉพาะในด้านความเปล่งปลั่งสดใสของผิวพรรณและสรรพคุณช่วยชะลอวัย

– สรรพคุณดีต่อเพศชายไม่น้อย หลายคนอาจคิดว่าหญ้ารีแพร์เกิดมาเพื่อผู้หญิงเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วสรรพคุณของหญ้ารีแพร์ก็มีดีต่อสุขภาพท่านชายเช่นเดียวกันค่ะ โดยหญ้ารีแพร์มีคุณสมบัติช่วยสมานแผลให้หายเร็ว แผลแห้งเร็ว และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เซลล์ผิวไม่แห้งแตกง่าย ผิวพรรณดูมีสุขภาพดีในแบบแมนๆ

– บรรเทาอาการริดสีดวงทวาร แผลที่เกิดจากริดสีดวงทวารก็สามารถบรรเทาความรุนแรงของบาดแผลได้ทั้งในเพศชายและเพศหญิงทุกช่วงวัย

 วิธีใช้หญ้ารีแพร์ ให้ได้ผล

วิธีใช้หญ้ารีแพร์ที่ปลอดภัยและเห็นผลนั้น ทาง ภญ. สุภาภรณ์ ปิติพร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการหญ้ารีแพร์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้เปิดเผยว่า การใช้หญ้ารีแพร์โดยวิธีการรมควันเฉพาะจุดจะช่วยลดการอักเสบ บวม สมานแผล ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ และช่วยกระชับช่องคลอด ซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธี คือ

  1. การรมแห้งจากไอร้อนของควันร้อนของหญ้ารีแพร์ วิธีใช้ก็คือ ให้นำหญ้ารีแพร์ (ถอนมาทั้งราก) อายุประมาณ 3-4 เดือน ไปตากแดดประมาณ 1 วัน (หญ้าแดดเดียว) เพื่อหญ้าจะยังไม่แห้งสนิทดี จากนั้นนำมาเผารวมกับไม้ผุจนเกิดควัน เมื่อเกิดควันขึ้นแล้วจึงนำมาวางใต้เก้าอี้ที่เจาะรูไว้ เพื่อให้ควันผ่านขึ้นมาบริเวณปากช่องคลอด ทั้งนี้ การอบควันลักษณะนี้ต้องระวังไม่ให้ควันร้อนเกินไป
  2. การรมเปียกจากไอน้ำร้อนของการต้มหญ้ารีแพร์ การใช้ไอน้ำร้อนรม สามารถทำได้โดยการต้มหญ้ารีแพร์แบบสดหรือแห้งก็ได้ในหม้อ แล้วใช้ผ้าขนหนูพันหม้อไว้เพื่อกักเก็บความร้อน จากนั้นยกมาวางใต้เก้าอี้ที่เจาะรูไว้ เพื่อให้ไอร้อนจากการรมควันผ่านขึ้นมาได้ หรือจะอบในกระโจมแบบซาวน่าก็ได้

ทั้งนี้ การรมหญ้ารีแพร์ ทั้งแบบควันและไอน้ำ ควรนั่งนานประมาณ 30-45 นาที วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 7-10 วัน โดยแนะนำให้สตรีหลังคลอดบุตรได้ 1-2 วัน และไม่อยู่ในสภาวะร่างกายอ่อนเพลียจนเกินไป สามารถใช้หญ้ารีแพร์เพื่อบำรุงร่างกายหลังคลอดได้

นอกจากนี้ ยังสามารถนำหญ้ารีแพร์ไปต้มอาบ อบผิว และดื่มเป็นชาบำรุงร่างกาย หรือจิ้มกินกับน้ำพริก ก็ช่วยในเรื่องการบำรุงร่างกายและข้อเอ็น บำรุงเลือดลมไหลเวียนดี ลดการอักเสบ และชุ่มชื่นคอได้ โดยหากจะดื่มเป็นชาก็ให้นำใบหญ้าไปขยี้กับน้ำร้อน หรือต้มแล้วคั้นแต่น้ำดื่ม แต่ควรเลือกใช้หญ้ารีแพร์จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ มีสุขอนามัยที่ดี มีความสะอาดที่เพียงพอด้วย

อย่างไรก็ดี ในผู้หญิงหลังคลอดที่ต้องการให้มดลูกเข้าอู่ไว อยากให้แผลหลังคลอดแห้งเร็วๆ และอยากกระชับพื้นที่สงวนให้ฟิต & เฟิร์ม วิธีรมควันเฉพาะจุดจะให้ผลดีกว่าการนำหญ้ารีแพร์มาต้มดื่ม

 หญ้ารีแพร์ กับข้อควรระวัง

การใช้หญ้ารีแพร์ให้ถูกต้องควรต้องผ่านการอบหรือใช้ความร้อนตามข้อมูลที่บอกข้างต้น และไม่ควรนำหญ้ารีแพร์สดๆ หรือคั้นน้ำหญ้ารีแพร์สดๆ มาใช้กับช่องคลอด เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อในช่องคลอดได้

นอกจากนี้ ข้อควรระวังในการใช้หญ้ารีแพร์อีกอย่างก็คือ การเลือกใช้ตัวก่อความร้อนที่ไม่ก่อให้เกิดเพลิงลุกไหม้ โดยควรเลือกใช้ไม้ผุจะดีกว่าไม้ใหม่ ที่สำคัญหญ้ารีแพร์ที่นำมาใช้จะต้องมีอายุมากกว่า 45 วัน มีลักษณะเป็นหญ้าแดดเดียว ซึ่งเวลาอบนั้นควรอบครั้งละประมาณ 15 นาที 

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ไม่ควรสูดดมไอควันจากหญ้ารีแพร์โดยตรง เพราะควันจากการเผาไหม้อาจจะมีส่วนทำให้เกิดฝุ่นหินเกาะปอดได้ ฉะนั้น ควรต้องระวังถึงจุดนี้กันด้วย และที่สำคัญก็คือ ไม่ควรทำการอบควันหรืออบไอน้ำในพื้นที่ปิดที่ไม่มีช่องระบายอากาศ เพราะเสี่ยงต่อการขาดอากาศหายใจเสียชีวิตได้

 ประโยชน์หญ้ารีแพร์

  1. หญ้ารีแพร์ถูกใช้ประโยชน์มากในแง่สมุนไพร โดยเฉพาะในสตรีหลังคลอดบุตรที่ช่วยให้ช่องคลอดกระชับและมดลูกเข้าอู่ได้เร็วขึ้น ด้วยการต้มดื่มหรือคั้นน้ำทาบริเวณช่องคลอด นอกจากนั้น ยังใช้เพื่อการดูแลผิวพรรณให้แลดูสดใส
  2. สารสกัดจากหญ้ารีแพร์ใช้เป็นเครื่องสำอาง อาทิ ครีมบำรุงผิว ครีมกันแดด ทำหน้าที่ช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้น ผิวพรรณแลดูเปล่งปลั่ง นอกจากนั้น สารสกัดจากหญ้ารีแพร์ยังใช้เป็นส่วนผสมของอาหารเสริม ออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และเสริมสร้างคอลลาเจน
  3. หญ้ารีแพร์ใช้ปลูกเป็นอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้อง อาทิ โค กระบือ แพะ และแกะ เป็นต้น
  4. หญ้ารีแพร์เป็นพืชเศรษฐกิจสมุนไพรตัวใหม่ ทั้งแบบเก็บจากแหล่งธรรมชาติ และการปลูกเพื่อจำหน่ายในรูปหญ้ารีแพร์สดและหญ้ารีแพร์แห้ง กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นสตรีหลังคลอดบุตร

 สรรพคุณ ซิลิกาในหญ้ารีแพร์

1.รักษาสมดุล และซ่อมแซมโครงสร้างกระดูก และกล้ามเนื้อในร่างกาย รวมถึงช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุที่สำคัญต่อระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ อาทิ ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และแคลเซียม

2.ช่วยฟื้นฟูรักษาแผลให้หายเร็ว

3.ช่วยฟื้นฟูและเสริมการสร้างคอลลาเจนในเซลล์ผิว ทำให้ผิวพรรณแลดูเต่งตึง สดใส ลดการเกิดริ้วรอย

4.ช่วยฟื้นฟูและเสริมการสร้างคอลลาเจนในเซลล์กล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อกระชับและทำงานได้เป็นปกติอย่างรวดเร็ว อาทิ กล้ามเนื้อภายในช่องคลอด

5.ต้านการติดเชื้อของแผล

6.ลดภาวะการเกิดโรคจากวัยที่หมดประจำเดือน

7.เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ รักษาความชุ่มชื้นของเซลล์ผิว เพิ่มความยืดหยุ่น และความกระชับของเซลล์ผิว

8.ช่วยป้องกันโรคในช่องปากและฟัน

9.ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความเงางามของเล็บ

10.ช่วยกระตุ้นการงอกของเซลล์เส้นผม ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ความดกดำ และลดการหลุดของเส้นผม

11.เสริมสร้างความแข็งแรงของหลอดเลือด ป้องกันหลอดเลือดในสมองแตก

12.เสริมความแข็งแรงของเนื้อเยื่อปอด ช่วยให้ปอดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดการติดเชื้อในปอด

13.ป้องกันนิ่วในไตในระบบทางเดินปัสสาวะ

14.ป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ

15.กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย

16.ป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทและสมอง