สานน กันรัมย์ ผลิตเนื้อโคขุนคุณภาพ พัฒนาสินค้าต่อเนื่อง ลูกค้ามั่นใจในมาตรฐาน

รศ.ดร.ศกร คุณวุฒิฤทธิรณ อาจารย์ภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันโคเนื้อมีการเลี้ยงให้มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อให้ได้เนื้อในปริมาณที่สามารถทำกำไรให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยง ซึ่งการนำโคเนื้อเข้ามาสู่กระบวนการขุนนั้น ไม่ได้กำหนดสายพันธุ์โคที่ตายตัว แต่จะเน้นเป็นโคเนื้อที่เป็นสายพันธุ์ลูกผสมเป็นส่วนใหญ่ โดยจะนำพันธุ์โคเนื้อจากต่างประเทศเข้ามาผสมกับโคเนื้อพันธุ์ไทยและโคเนื้อลูกผสมพันธุ์ไทย จนได้เป็นโคเนื้อลูกผสมที่เหมาะสมต่อการเลี้ยงภายในสภาพแวดล้อมของประเทศไทย และสัดส่วนของเนื้อหรือซากที่เยอะขึ้นกว่าเดิม

โดยโคเนื้อลูกผสมชาโรเล่ส์และโคเนื้อลูกผสมแองกัส เป็นสายพันธุ์ลูกผสมที่จะเน้นมาทำการขุน เพราะโครงสร้างของโคลูกผสมทั้ง 2 ชนิดนี้ มีลักษณะที่ใหญ่ เจ้าเนื้อ และเมื่อนำมาสู่กระบวนการขุนจึงทำให้เนื้อมีรสชาติดี มีความหอม มีคุณสมบัติพิเศษของเนื้อที่ดี ทำให้เนื้อมีคุณภาพสม่ำเสมอเป็นที่ต้องการของตลาด และสามารถทำตลาดได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อมีการควบคุมและการเลี้ยงให้มีมาตรฐานเดียวกัน

รศ.ดร.ศกร คุณวุฒิฤทธิรณ

“อย่างที่เราทราบกัน เกษตรกรบ้านเรามีองค์ความรู้ที่เก่ง เลี้ยงโคเนื้อได้ประสบผลสำเร็จ เพราะฉะนั้นก็จะแนะนำคนที่จะเริ่มปรับเปลี่ยนมาทำโคขุน ต้องมีในเรื่องของความเข้าใจในเรื่องพันธุกรรม พร้อมทั้งมีการเรียนรู้ในการใช้สูตรอาหารขุนที่ดี ก็จะช่วยให้โคเนื้อที่นำมาทำการขุนมีคุณภาพเนื้อที่ดี เมื่อผลผลิตออกมาดี จากนั้นทำการตลาดให้ต่อเนื่อง โดยส่งลูกค้าแต่ละรอบก็ยังรักษาคุณภาพคงเดิมไว้ได้ ถ้าทำแบบนี้ได้ต่อเนื่อง การตลาดจากการจำหน่ายโคขุนก็จะทำให้เกษตรกรมีรายได้ เป็นอาชีพที่ยั่งยืนให้กับตัวเองได้อย่างแน่นอน” รศ.ดร.ศกร กล่าว

คุณสานน กันรัมย์

คุณสานน กันรัมย์ เป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ และเป็นผู้จัดการ บริษัท สไมล์ บีฟ จำกัด ตั้งอยู่ที่ 119/1 หมู่ที่ 7 ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีการปรับเปลี่ยนการเลี้ยงโคเนื้อจากที่สมัยก่อนเลี้ยงเพื่อเป็นอาชีพเสริม กลับกลายมาสร้างเป็นอาชีพหลัก พร้อมทั้งมีการรวมกลุ่มที่เข้มแข็ง ทำให้มีสินค้าส่งจำหน่ายตลาดได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีการรักษามาตรฐานการขุนในทุกขั้นตอนการผลิต ส่งผลให้เนื้อที่ได้มีคุณภาพเป็นที่ถูกใจของลูกค้าเป็นอย่างดี

โคเนื้อภายในฟาร์ม

โคขุน สร้างเป็นเนื้อคุณภาพ

ตลาดยังมีความต้องการ

คุณสานน เล่าให้ฟังว่า เริ่มแรกเดิมทีเลี้ยงโคเนื้อสายพันธุ์อเมริกันบราห์มันสายพันธุ์แท้เป็นอาชีพเสริม เพื่อเน้นจำหน่ายสายพันธุ์เป็นหลัก ต่อมาประมาณปี 2557 ได้มีโอกาสรู้จักกับเพื่อนเกษตรรายอื่นๆ ที่มีการเลี้ยงโคขุนและยังไม่มีทิศทางการทำตลาดที่ชัดเจน ช่วงนั้นจึงได้ตัดสินใจที่จะเรียนรู้ในเรื่องของการทำตลาดโคขุน และสร้างกลุ่มขึ้นมาเพื่อให้สามารถผลิตเนื้อส่งตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ในระยะแรกเจออุปสรรคบ้างแต่สู้ไม่ถอย จึงทำให้เนื้อโคขุนในกลุ่มของเขาเป็นที่รู้จักมากขึ้น และสามารถตีตลาดทั้งร้านอาหารและตลาดออนไลน์มาได้จนถึงเวลานี้

เนื้อโคขุนที่ผ่านการเชือด

“พอผมมาเริ่มทำตลาดเนื้อโคขุนมากขึ้น อย่างโคในฟาร์มมีเป็นสายพันธุ์แท้ ผมก็จะเริ่มทยอยขายออกไปบ้าง และบางส่วนก็เอามาสร้างเป็นสายพันธุ์ภายในบ้าง ซึ่งโคขุนที่ผมเลี้ยงเพื่อจำหน่ายก็จะเน้นเป็นโคลูกผสมชาโรเล่ส์กับโคลูกผสมแองกัสเป็นหลัก ซึ่ง 2 สายพันธุ์นี้ เมื่อผลิตออกมาแล้ว คุณภาพเนื้อค่อนข้างที่จะดี และใช้ระยะเวลาการขุนอยู่ที่ 6-8 เดือน โดยเราจะไม่เลี้ยงให้มีอายุมากหรือเกิน 3 ปี เพื่อที่จะได้เป็นโคหนุ่มที่มีเนื้อนุ่ม และเป็นผลดีต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงด้วย ที่ไม่ต้องเลี้ยงนานจนเกินไป” คุณสานน บอก

พื้นที่ภายในฟาร์ม

โคตัวเมียเลี้ยงเป็นแม่พันธุ์

โคตัวผู้ขุนขายเนื้อ

ในขั้นตอนของการเลี้ยงโคเนื้อลูกผสมชาโรเล่ส์และโคเนื้อลูกผสมแองกัสนั้น คุณสานน บอกว่า จะมีการแบ่งพื้นที่การเลี้ยงที่ค่อนข้างชัดเจน เมื่อแม่พันธุ์ได้อายุที่พร้อมผสมพันธุ์ได้ จะนำน้ำเชื้อของพ่อพันธุ์ต่างประเทศที่ต้องการมาผสมกับแม่พันธุ์ภายในฟาร์ม หลังจากผสมติดรอแม่โคตั้งท้อง 9 เดือนจนครบกำหนดและออกลูกโคมาเรียบร้อยแล้ว จะเลี้ยงลูกโคให้มีโครงสร้างที่ดี จนกว่าจะมีอายุได้ประมาณ 1 ปี 6 เดือน จากนั้นนำโคเนื้อที่เป็นตัวผู้มาทำการขุน ส่วนโคเนื้อตัวเมียจะใช้เป็นแม่พันธุ์ทดแทนภายในฟาร์มต่อไป

การสร้างเป็นโคขุนให้ได้เนื้อที่มีคุณภาพ จะมีการให้อาหารข้นที่เป็นสูตรที่ทางฟาร์มคิดค้นไว้ และเสริมด้วยฟางหรือหญ้าที่หาได้ตามฤดูกาลมาเสริมให้โคขุนกิน โดยอาหารข้นที่ให้โคขุนกินจะมีเปอร์เซ็นต์โปรตีนอยู่ที่ 12 ให้กินเฉลี่ยต่อตัวต่อวันอยู่ที่ 7-8 กิโลกรัม ขุนสลับกับฟางไปเรื่อยๆ จนได้เวลา 6-8 เดือน จนโคเนื้อมีน้ำหนักตั้งแต่ 500 กิโลกรัมขึ้นไป จะนำเข้าโรงเชือดเพื่อจำหน่ายเนื้อต่อไป

เนื้อโคขุน นุ่มๆ

“โคเนื้อที่ผ่านการขุน จะผลิตแบบไม่ได้เน้นให้มีไขมันแทรก แต่เน้นขุนแบบเป็นโคหนุ่มเนื้อนุ่ม เพราะโคที่ผ่านการขุนแล้วอายุจะอยู่ที่ 24 เดือน หรือว่าไม่เกิน 3 ปี ฉะนั้นโคขุนของเราจะมีความฉ่ำของเนื้อ เพราะสูตรอาหารที่เราใช้ขุน ประกอบไปด้วยกากงา กากปาล์ม กากถั่วเหลือง มันเส้น ข้าวโพด และอื่นๆ อีก ที่มาทำการขุน จึงทำให้โคขุนมีเนื้อที่นุ่ม ซึ่งคุณภาพแบบนี้เป็นคุณภาพที่เราเน้น และส่งทำตลาดหลากหลายช่องทาง” คุณสานน บอก

สำหรับวัคซีนที่ป้องกันให้กับโคทุกตัวภายในฟาร์ม คุณสานน บอกว่า จะมีโปรแกรมการทำวัคซีนที่ชัดเจนและเป็นระบบ โดยวัคซีนหลักๆ จะเป็นวัคซีนป้องกันเรื่องปากเท้าเปื่อย และที่ต้องเน้นเป็นสำคัญคือการถ่ายพยาธิให้กับโคทุกตัวภายในฟาร์ม เพื่อให้เนื้อที่ผลิตออกมามีความปลอดภัยก่อนถึงมือผู้บริโภค เพราะฉะนั้นลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าการผลิตโคขุนทั้งหมดสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ มีการตรวจเช็กคุณภาพทุกครั้งเมื่อเข้าโรงเชือด

เนื้อโคขุนที่มีกลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์

ฝ่าฟันอุปสรรคการทำตลาด

จนเป็นที่รู้จักของลูกค้า

ในเรื่องของการทำตลาดเพื่อจำหน่ายเนื้อโคขุน คุณสานน เล่าว่า ช่วงแรกการทำตลาดค่อนข้างที่จะเป็นอุปสรรค เพราะสินค้ายังไม่ได้เป็นที่รู้จักของลูกค้ามากนัก จึงทำให้เขานำสินค้าไปเสนอขายตามร้านอาหารและร้านค้าชั้นนำอีกหลายแห่งเป็นเวลาถึง 2 ปี กว่าจะฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้นมาได้ แต่เมื่อจับทางการทำตลาดและความต้องการของผู้บริโภคได้แล้ว ผลิตภัณฑ์ของเขาได้รับการยอมรับและสามารถสร้างรายได้มาจนถึงทุกวันนี้

ผัดกะเพราเนื้อโคขุน ไข่ดาว

โดยเนื้อโคขุนที่ผ่านการเชือดแล้วจะนำมาทำการดรายเอจ (Dry-Aged) เพื่อเป็นการพัฒนาสินค้าให้เป็นเนื้อที่มีคุณภาพมากขึ้น และที่สำคัญช่วยส่งเสริมให้เนื้อมีเอกลักษณ์ทั้งในเรื่องของกลิ่นและรสสัมผัสที่ดี ซึ่งเนื้อโคขุนที่ผ่านการดรายเอจราคาจำหน่ายให้กับลูกค้าประจำอยู่ที่กิโลกรัมละ 850-900 บาท ส่วนลูกค้าทั่วไปจำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 1,050 บาท และด้วยระบบขนส่งในปัจจุบันที่ทันสมัยมากขึ้น จึงทำให้การจำหน่ายแบบตลาดออนไลน์สะดวกและเป็นอีกช่องทางการสร้างรายได้ที่ดี

“ตอนนี้ก็ถือว่าเนื้อโคขุนของเราเป็นที่ต้องการของตลาดต่อเนื่อง นับว่าตั้งแต่ทำมาก็ถือว่าเราประสบผลสำเร็จ อนาคตเราเองก็จะพัฒนาการเลี้ยง การทำให้เนื้อมีคุณภาพยิ่งๆ ขึ้นไป พร้อมทั้งมีการทำวิจัยต่างๆ เพื่อให้การเลี้ยงโคขุนตอบโจทย์ต่อความต้องการของตลาด ขอให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า เนื้อโคขุนของเรามีความใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต และกลุ่มเรารักษามาตรฐานการเลี้ยงที่มีคุณภาพ มีความต่อเนื่องในการทำตลาด ส่งผลให้สินค้าเราได้รับเสียงตอบรับมาจนถึงตอนนี้” คุณสานน บอก

สำหรับท่านใดที่สนใจในเรื่องของการเลี้ยงโคเนื้อ หรือต้องการพูดคุยเกี่ยวกับสินค้าที่มีคุณภาพ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณสานน กันรัมย์ หมายเลขโทรศัพท์ 035-960-193, 081-879-8012