วิศวกรหนุ่ม เตรียมเกษตรหลังเกษียณ สร้างแลนด์สเคปมีชีวิต ที่สวนผึ้ง

“เกษตรกรรม เป็นชีวิตในวัยเกษียณ ถ้าผมแก่ตัวจะใช้ชีวิตต่างจังหวัด ทำโฮมสเตย์เล็กๆ อาศัยวิถีชุมชนในการเบรกดาวน์ชีวิตจากกรุงเทพฯ ที่พีกแล้ว มาอยู่ตรงนี้” เจ้าของพื้นที่ราว 50 ไร่ ที่ดูจะรวมความสดชื่นของอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เกือบทั้งหมดไว้ที่นี่ บอกกับเรา

คุณแจ๊ค และครอบครัว

บุคลิกนอบน้อมถ่อมตน ที่ติดตัว คุณสุรเดช ศิลปวิจิตรการ หรือ คุณแจ๊ค มาแต่ไหนแต่ไร ทำให้การพูดคุยในวันนั้นออกอรรถรสอย่างดี สัมผัสได้ถึงความตั้งใจสร้างพื้นที่นี้ให้เหมือนภาพในจินตนาการของเขา

เขาหลังบ้าน

คุณแจ๊คมีงานและครอบครัวอยู่กรุงเทพฯ ตลอดวันทำงานเขาตั้งใจทำ โดยไม่ละจากหน้าที่แม้แต่น้อย แต่เมื่อถึงวันหยุด เขาจะทุ่มเทให้กับสิ่งที่เขาเรียกว่า เกษตรหลังเกษียณอย่างเต็มที่

เส้นทางวิ่งเทรล เขาหลังบ้าน

แท้จริงก็เฉกเช่นมนุษย์เงินเดือนหรือการทำงานในระบบทั่วไป ที่เมื่อท้ายที่สุดจะมองหาการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนและมีความสุข คุณแจ๊คไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับเกษตรกรรมแม้แต่น้อย แค่มีความตั้งใจผนวกกับการวางแผนและลงมือเริ่มทำตั้งแต่ยังมีแรง ทำให้เขาเริ่มได้เร็วกว่า

“ผมวางพิมพ์เขียวไว้ในหัวผมหมดแล้วตั้งแต่ผมอายุ 27 ปี และผมต้องเริ่มจากการวางแลนด์สเคปก่อน จากนั้นเตรียมผังรอในอนาคตว่าตรงไหนเป็นอะไร เป็นการแพลนเพื่อทำการเกษตรในอนาคต”

Advertisement

ที่ดินผืนนี้ คุณแจ๊ค บอกว่า เขาใช้เวลาตัดสินใจซื้อในเวลาไม่ถึง 15 นาที เพราะภาพแปลนแปลงเกษตร การจัดวางทุกอย่างอยู่ในหัวเขาทั้งหมด เมื่อมาเห็นที่ดินผืนนี้ในช่วงเวลาที่มาท่องเที่ยวกับเพื่อน จึงติดต่อขอซื้อและเปลี่ยนมือมาเป็นคุณแจ๊คในที่สุด

Advertisement

คุณแจ๊ค เล่าว่า เดิมที่ตรงนี้น่าจะเป็นรีสอร์ตหรือที่พักเก่า ทำให้มีโครงสร้างบางอย่างหลงเหลืออยู่ เขาจึงเข้ามาปรับปรุงโครงสร้างใหม่ และพยายามปล่อยพื้นที่ให้โล่งมากที่สุดก่อน โดยสิ่งที่ทำได้สิ่งแรกคือ บ้านพักสำหรับครอบครัว เมื่อมาพักผ่อนที่นี่ในวันหยุด ทำแปลงผัก และเลี้ยงไก่ไข่ ซึ่งเบื้องต้นเขาแน่ใจตนเองว่า จะยังไม่ลงมือการเกษตรแบบมืออาชีพ ควรค่อยๆ เริ่ม เรียนรู้และลงมือทำ เพื่อให้ท้ายที่สุดของการเกษียณตนเองออกมาทำการเกษตรที่นี่ จะเป็นการต่อยอดที่ราบรื่น มีช่องทางสร้างรายได้ที่ยั่งยืนในวัยเกษียณอย่างแน่นอน

แรกเริ่มเป็นเพียงบ้านพัก มีแปลงผัก เลี้ยงไก่ไข่ เท่านั้น

คุณแจ๊คหยิบความถนัดของตนเองมาสร้างให้แลนด์สเคปแห่งนี้มีชีวิตชีวา

คุณแจ๊คชื่นชอบการขี่มอเตอร์ไซค์เป็นกลุ่ม การวิ่งเทรล การแคมปิ้ง เขาจึงนำส่วนที่เขาถนัดมาทำให้สถานที่แห่งนี้โลดแล่นได้

เริ่มต้นจากการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ที่ออกแบบมาโดยธรรมชาติตั้งแต่แรกเริ่ม มีลำธารเล็กไหลโอบล้อมครึ่งหนึ่งของพื้นที่ เป็นลำธารที่มีต้นน้ำมาจากเทือกเขาตะนาวศรี และอีกฝั่งของลำธารเป็นเขาภูเล็กๆ ที่ยังคงความสมบูรณ์ตามความหมายของคำว่าภูเขา ที่เหลือเป็นหน้าที่ของคุณแจ๊คในการปลูกต้นไม้ให้มีความร่มรื่นกลมกลืนไปกับธรรมชาติที่มีอยู่

ระยะแรกเป็นเพียงบ้านพักของครอบครัวสำหรับพักผ่อนเท่านั้น ระยะหลังเริ่มมีเพื่อนที่มาพักค้างอ้างแรมด้วยการกางเต็นท์บริเวณสนามหญ้าโล่ง ริมน้ำ ใครใคร่อยากทำกับข้าวด้วยตนเองก็เดินไปเก็บผักที่แปลงมาประกอบอาหารกินเองได้ หรือต้องการไข่ไก่ก็มีให้เก็บมาทำอาหารได้อย่างง่าย และทั้งหมดเป็นสิ่งที่เพื่อนและคนรู้จักคุณแจ๊คนำไปบอกต่อ จนกระทั่งมีคนมาขอกางเต็นท์โดยเช่าพื้นที่ จึงเกิดไอเดียสร้างรายได้จากสิ่งที่มีอยู่

พื้นที่ประมาณ 50 ไร่ที่มีอยู่ คุณแจ๊คเคยคำนวณ หากกางเต็นท์แน่นแบบสวยงาม จะสามารถรับคนได้ถึง 250 คน แต่คุณแจ๊คไม่ทำ เขาไม่รับจำนวนคนมากถึง 250 คนสำหรับการกางเต็นท์ เพราะต้องการให้พื้นที่กางเต็นท์แต่ละหลัง แต่ละกลุ่ม มีพื้นที่ห่างมากพอให้ผู้ที่มากางเต็นท์พักที่นี่มีพื้นที่ส่วนตัว ไม่รู้สึกเหมือนอยู่ในศูนย์อพยพ

“ผมแบ่งพื้นที่สำหรับกางเต็นท์ไว้ 13 โซน แต่ละโซนกางเต็นท์ได้ 1-3 หลัง มีระยะห่างที่เหมาะสม เรียกได้ว่าส่วนตัว ทำให้คนที่มากางเต็นท์พักที่นี่ รู้สึกว่าพิเศษ ผมมองจากตัวผมเอง ผมเป็นคนกางเต็นท์ เราชอบอะไรคนที่มาก็อยากได้แบบนั้น ได้เงินมากมาก็ไม่คุ้ม ต้องให้เกียรติกับคนที่จองพื้นที่กางเต็นท์ด้วย”

ลานกางเต็นท์ที่นี่ มีให้เช่าลาน นำเต็นท์มากางเอง หรือต้องการเช่าลานกางเต็นท์พร้อมเต็นท์ก็ทำได้

ความถนัดอีกประการที่คุณแจ๊คนำมาผนวกเข้าด้วยกันคือ การวิ่งเทรล คุณแจ๊คเป็นหนุ่มนักวิศวกร แต่รักการวิ่งเทรลมายาวนาน เขาบอกว่า จริงๆ สายแคมป์กับสายวิ่งเทรล ก็คล้ายๆ กัน คือการได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติ เข้าหาธรรมชาติโดยไม่ทำลาย

พื้นที่ 50 ไร่แห่งนี้ ด้านท้ายของพื้นที่อยู่ติดกับภูเขาเล็กๆ มีผู้ดูแลเป็นหน่วยงานทางภาครัฐสักแห่ง เส้นทางวิ่งเทรลเส้นทางใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นโดยคุณแจ๊คเอง ประสานขอเข้าพื้นที่อย่างถูกต้องไว้เรียบร้อย ก่อนจะเข้าสำรวจภูเขาลูกนี้ ซึ่งเขาเรียกว่า เขาหลังบ้าน เป็นภูเขาลูกเล็กๆ ระยะทางขึ้นและลงรวมราว 7-8 กิโลเมตร ความชันเกือบ 700 เมตร ถือว่าหนักหนาพอควร สำหรับนักวิ่งเทรลมือใหม่

“ผมแค่คิดว่า ที่สวยติดธรรมชาติ ทำเป็นสนามซ้อมหลังบ้านก็ได้ ลองสำรวจและได้รับอนุญาตให้สำรวจเชิงท่องเที่ยวธรรมชาติ ทำให้มีเส้นทางประมาณ 7-8 กิโลเมตร เพื่อตอบโจทย์นักวิ่งเทรล เพราะปัญหาที่ผมพบมาคือ คนที่ติดตามเรามา แต่ไม่ได้ซ้อมเทรล ไม่มีที่พัก เลยอยากให้ที่นี่เป็นแบบนั้น”

จากการเล่าสู่กันฟัง แล้วนำมาถ่ายทอดให้อ่าน อาจจะดูไม่มีอะไรพิเศษ แต่คุณแจ๊คทำให้สถานที่แห่งนี้พิเศษขึ้นได้ นอกเหนือจากการไว้เนื้อเชื่อใจให้การพักผ่อนเสมือนบ้านส่วนตัว จริงๆ แล้ว ลูกค้าทุกคนผ่านการกรองโดยไม่รู้ตัว โดยข้อตกลงง่ายๆ ที่คุณแจ๊คขอพูดคุยกับลูกค้าก่อนเข้าพักไม่กี่ประโยค ถึงอย่างนั้นก็ยังมีลูกค้าราว 5-10 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่เคารพกติกา ซึ่งส่วนนี้คุณแจ๊คยอมรับว่า จัดการได้ยาก เพราะเป็นเรื่องจิตสำนึกที่ไม่สามารถร้องขอกันได้

ที่นี่เปิดให้จองพื้นที่กางเต็นท์และเข้าพักก่อนล่วงหน้า 2 เดือน เต็มแล้วคือปิดรับ และแน่นอนว่าเต็มอย่างที่คาดการณ์ไว้แน่นอน

ถึงตอนนี้ คุณแจ๊คยังไม่เพิ่มการทำเกษตรกรรมใดๆ บนพื้นที่ เขาให้เหตุผลว่า ผมยังทำงานประจำอยู่ และมีเวลาให้กับตรงนี้เฉพาะในวันหยุด และที่สำคัญ “เกษตรกรรม” สำหรับเขา คือสิ่งที่เขาวางไว้บั้นปลายชีวิตหลังเกษียณตัวเองออกจากโลกที่วุ่นวาย แต่วันนี้ก็สามารถสร้างรายได้เล็กๆ มาพร้อมๆ กับความสุขให้กับครอบครัวคุณแจ๊คได้ทุกวันไม่มีหมด

หากต้องการพื้นที่และความเป็นกันเองที่หาได้จากธรรมชาติรอบตัว ที่นี่น่าจะตอบโจทย์

Jacook Basecamp & CookAdoodledo Farm ตั้งอยู่บ้านถ้ำหิน หมู่ที่ 5 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี มีคุณแจ๊ค – สุรเดช ศิลปวิจิตรการ ดำเนินงานแต่เพียงผู้เดียว