“เทพเสด็จ” กาแฟเกรดพรีเมี่ยม แปลงใหญ่ ต้นทุนต่ำ ผลผลิตสูง

หากใครเป็นคอกาแฟ คงจะคุ้นชินกับชื่อเสียงของ “กาแฟเทพเสด็จ” ตำบลเทพเสด็จ อำเภอดอยสะเก็ด ซึ่งติดอันดับ 1 ใน 9 ดอย สุดยอดแหล่งกาแฟที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่ กาแฟเทพเสด็จโดดเด่นในเรื่องรสชาติและความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ สร้างชื่อเสียงโด่งดังไกลถึงระดับโลก อยากเชิญชวนคนไทยดื่มด่ำกับรสชาติที่กลมกล่อม ละมุน และกลิ่นหอมที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวกับกาแฟเทพเสด็จ เชื่อว่าหากใครได้ลิ้มลองรสชาติสักครั้ง จะรู้สึกติดใจและหลงใหลเสน่ห์กาแฟเทพเสด็จเต็มหัวใจกันเลยทีเดียว

คุณโขง เก็บเมล็ดกาแฟที่สุกแก่เต็มที่

จุดเริ่มต้น กาแฟเทพเสด็จ

กาแฟเทพเสด็จ เกิดขึ้นมาจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ท่านเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมโครงการหลวงป่าเมี่ยง ต่อมา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ท่านเสด็จมาติดตามงาน 2 ครั้ง ชาวบ้านที่นั่นจึงเกิดความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ จึงได้ขอพระราชทานนามชื่อว่า ตำบลเทพเสด็จ และเป็นที่มาของกาแฟเทพเสด็จ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ จนปัจจุบัน

คุณธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. เยี่ยมชมบู๊ธกาแฟเทพเสด็จ

กาแฟเทพเสด็จปลูกบนพื้นที่สูง ป่าต้นน้ำสูงจากระดับน้ำทะเล 1,100-1,500 เมตร มีสภาพอากาศเย็นตลอดทั้งปี ต้นกาแฟปลูกในร่มเงาต้นชาเหมี่ยงและป่าไม้ธรรมชาติ มีดอกไม้ป่าเรียกว่า ดอกก่อ ประกอบกับในพื้นที่มีการเลี้ยงผึ้งโก๋นหรือผึ้งโพรง จากภูมิปัญญาชาวบ้านทำให้ไม่มีแมลงมารบกวนต้นกาแฟ รวมถึงผึ้งช่วยผสมเกสรทั้งดอกกาแฟและดอกต้นก่อ ที่มีอยู่ในพื้นที่ประมาณ 50% จึงทำให้กาแฟที่ปลูกมีรสชาติกลมกล่อมและหอมกลิ่นดอกไม้ป่า ทำให้แบรนด์กาแฟเทพเสด็จ (Thepsadej Coffee) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ลำดับที่ 11 อาเซียน กาแฟเทพเสด็จ นับเป็นกาแฟแห่งการอนุรักษ์คู่ป่า เพราะดูแลทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งก่อเกิดอาชีพและรายได้ที่มั่นคงแก่เกษตรกรในพื้นที่

คุณโขง หรือ คุณสุวรรณ เทโวขัติ โชว์สินค้ากาแฟเทพเสด็จที่เขาภูมิใจ

แปลงใหญ่กาแฟเทพเสด็จ

คุณโขง หรือ คุณสุวรรณ เทโวขัติ โทร. 089-261-7833 ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟสดบ้านแม่ตอน เจ้าของแบรนด์กาแฟเทพเสด็จ กล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่ได้รวมกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ จดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนกาแฟสดแม่ตอน เพื่อร่วมกันผลิตและแปรรูปกาแฟอาราบิก้าเพื่อให้ได้ผลผลิตกาแฟสารและกาแฟคั่วที่มีคุณภาพสูง ที่ผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐานสินค้า เช่น มาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices) มาตรฐานจากองค์การอาหารและยา (อย.) มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ GI (Geographical Indication) การันตีคุณภาพสินค้าและตอกย้ำความเข้มแข็งของกลุ่มได้อย่างดี

ปี 2564 ทางกลุ่มได้ร่วมโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด งบประมาณจำนวน 3,000,000 บาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต โดยใช้นวัตกรรมนำเทคโนโลยีมาใช้กับเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร ซึ่งเป็นการต่อยอดส่งเสริมให้เกษตรกรรวมตัวกันสร้างอำนาจต่อรองในการจัดหาปัจจัยการผลิต ส่งเสริมคุณภาพและการตลาด รวมทั้งสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรอย่างยั่งยืน

กาแฟเทพเสด็จ มีผึ้งช่วยผสมเกสรดอกกาแฟ

จากงบประมาณที่ได้รับ ทางกลุ่มได้จัดซื้อเครื่องสีกาแฟกะลาพร้อมชุดตะแกรงร่อน, เครื่องคัดแยกสีพร้อมอุปกรณ์ (Color Sorter), เครื่องชงกาแฟพร้อมชุดอุปกรณ์ และเครื่องบดกาแฟ มาใช้ดำเนินกิจกรรมของกลุ่ม ปัจจุบัน ทางกลุ่มมีประมาณ 34 ราย พื้นที่ปลูกกาแฟรวมประมาณเกือบ 500 ไร่ ผลผลิตเมล็ดกาแฟดิบ 500 ตันต่อปี เป็นกาแฟออร์แกนิกที่มีมาตรฐานรองรับ มีการดูแลตั้งแต่การปลูกและดูแลตั้งแต่ต้นจนไปถึงกระบวนการคั่วที่เหมาะสม มีขั้นตอนการผลิตที่พิถีพิถัน

น้ำผึ้งธรรมชาติ เป็นผลพลอยได้จากการเลี้ยงผึ้งโพรง

ทางกลุ่มพิถีพิถันการปลูกกาแฟ เริ่มตั้งแต่กระบวนการเพาะต้นกล้าเมล็ดกาแฟ เพื่อลดต้นทุนการผลิต หลังปลูกมีการดูแลใส่ปุ๋ยพร้อมตัดแต่งกิ่ง ประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน ของทุกปี โดยทั่วไปต้นกาแฟเริ่มออกผลิดอกตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤษภาคม เมล็ดกาแฟเริ่มทยอยสุกพร้อมเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน เกษตรกรจะเลือกเก็บผลแก่ที่สุก แก่เต็มที่ หลังจากนั้นนำมาลอยน้ำแยกสิ่งเจือปน คัดเมล็ดกาแฟที่เสียออกไป นำเมล็ดกาแฟคุณภาพดีที่จมน้ำมาลอกเปลือกด้วยเครื่องลอกเปลือกภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นหมักเมล็ดกาแฟในถังน้ำเปล่า ในระยะเวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมง ก่อนนำมาแช่น้ำอีกครั้งในระยะเวลา 12 ชั่วโมง ก่อนล้างทำความสะอาด นำเมล็ดกาแฟขึ้นตาก ก่อนนำเมล็ดกาแฟมาคั่วให้ได้คุณภาพที่ต้องการคือ ระดับคั่วอ่อน คั่วกลาง และคั่วเข้ม จนได้ผลิตภัณฑ์กาแฟที่พร้อมจำหน่ายในท้องตลาด

กาแฟคุณภาพพรีเมี่ยม แบรนด์กาแฟเทพเสด็จ

แปลงใหญ่กาแฟเทพเสด็จ เน้นการเพิ่มผลผลิต ควบคู่กับการลดต้นทุนการผลิต โดยใช้เปลือกกาแฟมาทำเป็นปุ๋ยหมักทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งช่วยลดมลภาวะด้วย เพราะไม่มีการเผา กลุ่มนี้มีความเข้มแข็ง สามารถรวมกันจัดการเรื่องการจัดซื้อปัจจัยการผลิต แม้ว่าจะอยู่บนที่สูงทำให้ไม่ค่อยพบโรคแมลง แต่ก็ยังมีการเรียนรู้การผลิตสารชีวภัณฑ์ต่างๆ เพื่อลดการใช้สารเคมีในการดูแลรักษา ปัจจุบัน ทางกลุ่มได้เชื่อมโยงศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้ของอำเภอดอยสะเก็ด ด้านการผลิตกาแฟ มีผู้สนใจแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมและแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการปลูกแปรรูปกาแฟตลอดทั้งปี

ความสำเร็จของกาแฟเทพเสด็จในวันนี้ เกิดจากการสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่ายต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง เช่น กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) นอกจากนี้ แบรนด์กาแฟเทพเสด็จ ยังได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานภาครัฐ จากศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้โครงการ “เชียงใหม่เมืองกาแฟ”

สินค้าใหม่ กาแฟผสมข้าวก่ำ

ปัจจุบัน หมู่บ้านแม่ตอนหลวง ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่ของกาแฟเทพเสด็จนั้น อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ เส้นทางคมนาคมสะดวกสบาย อากาศดีตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปชิมกาแฟได้ถึงแหล่งผลิตได้ไม่ยาก นอกจากได้ชิมและซื้อกาแฟรสอร่อยแล้ว ยังมีส่วนร่วมอนุรักษ์ป่าอีกด้วย เพราะป่ากาแฟแห่งนี้คือ “ชีวิต” ของทุกคนในชุมชน เมื่อชาวบ้านมีรายได้อยู่ดีกินดีจากอาชีพปลูกกาแฟ จะช่วยกันรักษาป่าไม้ หากไม่มีป่า ไม่มีน้ำ ไม่มีกาแฟ ชาวบ้านก็จะอยู่ไม่ได้ เพราะป่าคือชีวิต แยกจากกันไม่ได้

เดินเครื่องระบบคัดแยกสีกาแฟ

ผู้สนใจสั่งซื้อสินค้าหรืออยากเยี่ยมชมกิจการติดต่อได้ที่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟสดบ้านแม่ตอน เลขที่ 45 หมู่ที่ 4 ตำบลเทพเสด็จ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ หรือ คุณสุวรรณ เทโวขัติ โทร. 089-261-7833 หรือติดต่อได้ทาง www.facebook.com/CoffeeTHEPSADEJ

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบข่าวจาก  https://www.facebook.com/CoffeeTHEPSADEJ/