ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี หลังมีน้ำสมบูรณ์ ทุเรียน 800 ต้น ให้ผล 85 ตัน ขายกำไร 7.5 ล้านบาท

“ไม่ต้องไปซื้อน้ำ หรือ เจาะบ่อบาดาล ได้ประโยชน์เยอะชาวบ้านมีน้ำใช้พอเพียง มีทางสัญจรไม่ต้องลงหุบเหวที่ชันเหมือนเช่นเมื่อก่อน หลังจากที่พระองค์ทรงรับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ก็มีแหล่งเก็บน้ำ มีทางเข้าออกสะดวกสบายดีกว่าเมื่อก่อน” นายไกรสิทธิ  กาญจนโกศล ราษฎรบ้านไทรนองหมู่ที่ 15 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี บอกกับผู้ที่เดินทางเข้าชมสวนทุเรียนที่กำลังให้ผลผลิตอย่างสมบูรณ์  พร้อมเล่าให้ฟังว่า มีพื้นที่ 50 ไร่ ปลูกทุเรียนหมอนทอง 1,200 ต้น ในปี 2565 มีค่าใช้จ่ายดูแลสวนตลอดทั้งปีประมาณ 1 ล้านบาท เป็นค่ายา ค่าปุ๋ย ค่าคนงาน ได้ผลผลิต 85 ตัน ขายได้ราคา 140 – 150 บาทต่อกิโลกรัม แต่ในช่วงปลายฤดูราคาอยู่ที่ 90 – 100 บาทต่อกิโลกรัม ที่ผ่านมารวมขายได้ 8.5 ล้านบาท มีกำไร 7.5 ล้านบาท  โดยทางล้งที่รับซื้อเพื่อส่งออกจะส่งทีมงานมาตัดทุเรียนถึงสวน ความสมบูรณ์ของทุเรียนได้มาจากมีน้ำดี น้ำสมบูรณ์ โดยได้สูบน้ำจากทำนบดินบ้านไทรนอง 2 ขึ้นมาใส่บ่อพัก พร้อมกับใส่ปุ๋ยน้ำลงไปก่อนแล้วปล่อยไปตามระบบสปริงเกอร์ทั่วทั้งสวน ทำให้ต้นทุเรียนได้น้ำและปุ๋ยที่เพียงพอ ขณะที่ต้นทุนไม่เพิ่มขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ต้องสูบน้ำจากบ่อน้ำบาดาลต้องเสียค่าไฟฟ้า และให้ปุ๋ยโดยใช้ระบบฉีดพ่นต้องเสียค่าใช้จ่ายจ้างคนงานเพิ่ม หลังจากมีทำนบดินทำให้ลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้ทั้งหมด ขณะที่สันทำนบ ชาวบ้านได้ใช้เป็นเส้นทางสัญจรขนส่งทุเรียนออกไปจำหน่ายสู่ตลาดได้ ทำให้สะดวกสบายขึ้นไม่ต้องขึ้นเนินชันเหมือนเมื่อก่อน ตั้งแต่มีโครงการฯ นี้ ทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์หลายทาง” นายไกรสิทธิ  กาญจนโกศล  กล่าวทางด้านนายวีระ จันทวังโส ผู้ใหญ่บ้านไทรนอง หมู่ที่ 15 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เผยว่าในพื้นที่ราษฎรส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรทำสวนผลไม้ ที่ผ่านมาประสบปัญหาความแห้งแล้งน้ำไม่เพียงพอกับความต้องการของพืชที่ปลูก น้ำที่ไหลลงมาจากภูเขาจะลงข้างล่างหมดอย่างรวดเร็ว จึงต้องการพื้นที่เก็บกักน้ำไว้ใช้ในพื้นที่

“มีการหารือร่วมกันว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไรดี ทุกคนเห็นด้วยว่าให้ถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือ และทุกคนก็ปลื้มปีติเมื่อพระองค์ท่านรัชกาลที่ 10 ทรงรับโครงการทำนบดินไทรนอง 2 ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  โครงการฯ นี้จะเพิ่มความชุ่มชื้นให้พื้นที่ ชุมชนมีแหล่งน้ำต้นทุนทำการเกษตรเพียงพอ ทุกคนซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงเมตตากรุณาเห็นความเดือดร้อนของราษฎร” นายวีระ จันทวังโส กล่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโครงการทำนบดินบ้านไทรนอง 2 อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 ตามที่ราษฎรขอพระราชทานความช่วยเหลือเนื่องจากขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร กรมชลประทาน ได้ดำเนินการก่อสร้างฯ แล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2561 ส่งผลให้สามารถเพิ่มปริมาณเก็บกักน้ำในพื้นที่ได้ประมาณ 54,000 ลูกบาศก์เมตร เกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกไม้ผล เช่นทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง มีผลผลิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้งยังสามารถช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรได้เพิ่มขึ้นประมาณ 55 ไร่

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2565 พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคกลาง พร้อมด้วย พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี รองประธานอนุกรรมการฯ และคณะอนุกรรมการฯ ได้ลงพื้นที่โครงการฯ เพื่อเยี่ยมและติดตามการใช้ประโยชน์จากโครงการดังกล่าว

พร้อมกันนี้พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี กล่าวว่า “โครงการฯ ตั้งอยู่เชิงเขาสุกิมเป็นแหล่งความชุ่มชื้นมีต้นไม้มากเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำก่อนคายออกสู่พื้นที่ด้านล่างในหน้าแล้ง และราษฎรได้ฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือ เนื่องจากไม่มีที่เก็บกักน้ำในพื้นที่ ขณะเดียวกันเจ้าของที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ได้มอบที่ดินให้ทางการจัดทำโครงการฯ และได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2561 ที่ผ่านมา“ผมมาที่นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ก็ยินดีที่ประชาชนได้ประโยชน์ จะเห็นว่าตอนนี้เริ่มต้นฤดูฝนน้ำเต็มหน้าทำนบจนถึงขอบทางระบายน้ำล้น เมื่อถึงช่วงหน้าแล้งน้ำที่เก็บไว้นี้ก็จะเพียงพอกับความต้องการใช้น้ำของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง ขอฝากให้ช่วยกันดูแลรักษาทำนบดินบ้านไทรนอง 2 อันเนื่องมาจากพระราชดำริแห่งนี้  เพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และขอให้กรมชลประทานพิจารณาการก่อสร้างฝายเพิ่มขึ้น รวมถึงก่อสร้างแท็งก์น้ำในชุมชนเพื่อเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำ ช่วยให้ชุมชนบ้านไทรนองและพื้นที่ใกล้เคียงได้รับประโยชน์จากการใช้น้ำเช่นเดียวกัน”  องคมนตรีกล่าว