เกษตรกรเชียงม่วน พะเยา ปลูกฝรั่งพันธุ์กิมจู รายได้หลักแสน

การทำการเกษตรมีหลากหลายอย่าง เกษตรกรมือใหม่ หรือผู้ที่จะทำการเกษตร ควรศึกษาหาความรู้และลงมือปฏิบัติ เมื่อมีปัญหาหรือข้อขัดข้องสามารถปรึกษาหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง หรือเกษตรกรที่ทำก่อนหน้าเพื่อแก้ไข ให้การทำการเกษตรหรือกิจกรรมที่เราดำเนินการประสบผลสำเร็จ

คุณดอน ไชยลังกา เกษตรกรผู้ปลูกฝรั่งกิมจู เกษตรอำเภอเชียงม่วน และ คุณสุรชัย ณ มา นวส.รับผิดชอบพื้นที่

คุณดอน ไชยลังกา หรือ ลุงยอด ที่ชาวบ้านเรียกกัน อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ที่ 1 บ้านท่าฟ้า ตำบลสระ อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา เล่าให้ฟังว่า เดิมมีอาชีพทำการเกษตรอยู่แล้ว ซึ่งทำมาหลายอย่าง ตั้งแต่การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ การปลูกมะละกอ และการปลูกไม้ไผ่ไต้หวัน และมาจบที่การปลูกฝรั่งพันธุ์กิมจู โดยเริ่มปลูกเมื่อปี พ.ศ. 2554 หรือประมาณ 11 ปีที่แล้วมา โดยสั่งซื้อต้นพันธุ์มาจากนครปฐม เริ่มแรกปลูก 3 ไร่ ต่อมาจึงขยายเป็น 11 ไร่ โดยขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่งเอง การทำสวนฝรั่งกิมจูของตนเองจะทำแบบเกื้อกูลกันกับการเลี้ยงวัว โดยจะตัดหญ้าที่ขึ้นในแปลงไปให้วัวกิน เมื่อวัวถ่ายมูลออกมาก็จะนำไปตากและหมัก แล้วนำกลับไปเป็นปุ๋ยบำรุงต้นฝรั่ง ทำให้ดินร่วนซุยและฝรั่งงาม มีความอุดมสมบูรณ์ดี อีกทั้งเป็นการลดต้นทุนการผลิตเนื่องจากใช้ปุ๋ยเคมีน้อยลงเมื่อเทียบกับสวนอื่นที่ใช้ปุ๋ยเคมีอย่างเดียว

คุณดอน ไชยลังกา

ในส่วนของศัตรูของฝรั่งที่สำคัญ ได้แก่ เพลี้ยแป้งและเพลี้ยไฟ ซึ่งการป้องกันกำจัดจะใช้สารเคมีในช่วงก่อนห่อผล และจะทิ้งระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ที่ทยอยเก็บผลผลิตจะไม่ฉีดพ่นเลย และจะใช้สารชีวภัณฑ์ ชีวภาพ เข้ามาสลับใช้เพื่อป้องกันการดื้อยาของแมลงศัตรูของฝรั่ง

ผลผลิตที่ได้จะมีแม่ค้ามารับซื้อถึงสวน ไกลสุดประมาณจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียง ในช่วงที่ผลผลิตออกน้อยราคาสูงก็แจ้งแม่ค้าที่อยู่ไกลว่า ถ้าสู้ราคาไม่ไหวก็ให้หยุดให้แม่ค้าใกล้เคียงรับไปจำหน่าย เพราะต้นทุนการขนส่งต่ำทำให้พอเหลือกำไร วันหนึ่งจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 2-3 ตัน เฉลี่ยตลอดช่วง 3 เดือนที่มีผลผลิตออกไม่ต่ำกว่า 1 ตันต่อวัน ราคาเฉลี่ย 15 บาทต่อกิโลกรัม มีรายได้ตกวันละ 15,000 บาท หนึ่งชุด 4 เดือน ห่อร่วมรอผลผลิตออก 1 เดือน เก็บผลผลิต 3 เดือน จะมีรายได้ 135,000 บาท ปีหนึ่งผลิตได้ 3 รอบ จะมีรายได้ประมาณ 405,000 บาท ในขณะที่ต้นทุนการผลิต ประมาณ 135,000 บาท

แปลงฝรั่งที่ตัดหญ้ามาให้วัว และมูลวัวที่จะนำไปหมักเพื่อนำมาเป็นปุ๋ยให้กับต้นฝรั่ง

คุณสุรชัย ณ มา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ สำนักงานเกษตรอำเภอเชียงม่วน ให้ข้อมูลทางวิชาการว่า การปลูกฝรั่งกิมจู หลังจากที่เลือกพื้นที่ปลูกได้แล้ว ถ้าต้องการจะปลูกเป็นสวนก็ควรจะจัดระยะปลูกระหว่างแถวและระหว่างต้น ประมาณ 3×3 เมตร ในเนื้อที่ 1 ไร่ จะปลูกได้ประมาณ 160 ต้น

การเตรียมดิน การปลูกฝรั่งในพื้นที่ลุ่มน้ำท่วมถึงควรทำการยกร่องปลูก โดยยกร่องให้มีขนาดความกว้างของหลังร่อง ประมาณ 6 เมตร มีคูน้ำกว้างประมาณ 1.5 เมตร ความยาวของสันร่องแล้วแต่พื้นที่ ความสูงไม่จำกัด แต่ถ้าเป็นที่ดอนไม่จำเป็นต้องยกร่อง จากนั้นก็ปรับปรุงดินโดยการตากดินเพื่อฆ่าเชื้อโรคและเมล็ดวัชพืช ใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักในปริมาณเท่าๆ กัน อัตราปุ๋ย 1 ส่วนต่อดิน 2 ส่วน เพื่อให้ดินร่วนซุย

ผลผลิตที่ได้สมบูรณ์น่ากิน

วิธีปลูก หลังจากเตรียมหลุมปลูกเรียบร้อยแล้ว ให้นำกิ่งพันธุ์ที่ชำไปปลูกลงในหลุม กลบดินให้แน่นพอสมควร แล้วใช้ไม้ปักเป็นหลักผูกกันลมโยกและรดน้ำทันที จากนั้นใช้ทางมะพร้าวมาคลุมพรางแสงแดดให้แก่ต้นฝรั่งจนกว่าต้นฝรั่งจะตั้งตัวได้

การเตรียมหลุมปลูก ขนาดของหลุมปลูกควรกว้าง 0.5 เมตร ยาว 0.5 เมตร และลึก 0.5 เมตร ที่จำเป็นต้องขุดหลุมกว้างเพื่อเปลี่ยนสภาพดินในหลุมให้ดีขึ้น ดังนี้ ควรขุดดินโดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ดินบนและดินล่าง ดินบน เป็นส่วนที่มีอินทรียวัตถุมากอยู่แล้ว ให้แยกไว้ส่วนหนึ่ง ดินล่าง คือดินที่เมื่อขุดลึกลงไปแล้วพบว่าดินมีสีจางลง เป็นชั้นที่ไม่มีอินทรียวัตถุ ตากดินไว้ 10-15 วัน เพื่อให้แสงแดดส่องฆ่าเชื้อโรคในหลุมปลูกและในดิน กลบดินบนลงในหลุม ผสมปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยหมัก 1 ส่วนต่อดินล่าง 2 ส่วน และรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยร็อกฟอสเฟตครึ่งกิโลกรัม แล้วจึงกลบลงไปในหลุมทับชั้นดินบน จนมีระดับสูงกว่าระดับพื้นดินธรรมดา ประมาณ 10 เซนติเมตร การที่ต้องกลบดินให้สูงกว่าระดับดินเดิมนั้น เพื่อที่เมื่อเวลาปลูกแล้วดินจะยุบตัวลงเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้พอดีกับระดับดินเดิม ถ้าไม่เผื่อไว้จะเป็นแอ่งและมีน้ำขังทำให้รากเน่าตายได้

คนงานห่อ

การปฏิบัติดูแลรักษา การให้น้ำ หลังจากปลูกฝรั่งแล้วต้องหมั่นคอยรดน้ำในช่วงระยะแรกจนกว่าต้นฝรั่งจะตั้งตัวได้ หลังจากนั้นก็ต้องสังเกตดูความชุ่มชื้นของดิน ถ้าดินแห้งมากต้องรีบให้น้ำ และถ้ามีฝนตกหนักก็ควรระบายน้ำออกบ้าง การให้น้ำจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามความต้องการของต้นฝรั่ง ปริมาณความชื้นของดินในระหว่างการออกผลมีความสำคัญ เพราะจะก่อให้เกิดการร่วง การแตก และขนาดของผล

ระบบการให้น้ำแบบสายน้ำพุ่ง

การใส่ปุ๋ย โดยปกติการปลูกพืชทุกชนิดควรมีการใส่ปุ๋ย ทั้งปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมี สูตรที่แนะนำคือ 15-15-15 หรือ 13-13-21 ฝรั่งเมื่อออกดอกแล้วจำเป็นต้องให้น้ำและปุ๋ยไนโตรเจนเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงขึ้นทุกๆ ปี ควรให้ปุ๋ยประมาณ 2 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี หรือมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับอายุของต้นและปริมาณผลผลิต และหากจะให้ฝรั่งมีรสหวานยิ่งขึ้นให้ใช้ปุ๋ยเกล็ด สูตร 5-30-30 พ่นก่อนเก็บผล 1 เดือน โดยนำปุ๋ยเกล็ดมาผสมน้ำฉีดพ่น ฉีดสัปดาห์ละครั้ง ประมาณ 2 ครั้ง จากนั้นประมาณ 15 วัน จึงเก็บผล

สภาพสวน

การกำจัดวัชพืช ควรทำอย่างสม่ำเสมอ อาจใช้วิธีการถาง ใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชหรือปลูกพืชตระกูลถั่ว เช่น เซนโตรซึม เพอราเรีย เป็นพืชคลุมดิน

การปักไม้ค้ำกันลม ในระหว่างที่ต้นฝรั่งยังเล็กอยู่ ควรปักไม้ค้ำกันลมเพื่อป้องกันไม่ให้ต้นโยก เพราะอาจกระทบกระเทือนทำให้ต้นฝรั่งไม่โต การปักไม้ค้ำกันลม ควรใช้ไม้รวกหรือแขนงไม้ไผ่ ยาว 1 เมตร ค้ำกิ่งต้นละ 1-2 อัน และใช้เชือกพลาสติกผูกติดกับกิ่ง แต่อย่าผูกให้แน่นมากเพราะกิ่งอาจเจริญเติบโตช้า

การพยุงผลฝรั่ง ฝรั่งจะเริ่มออกผลเมื่ออายุประมาณ 6 เดือน ควรใช้ไม้ไผ่ปักไว้เพื่อพยุงผลฝรั่ง โดยใช้ปลายหรือแขนงไม้ไผ่ขนาดเล็ก ยาว 1 เมตร หรือมากกว่านั้นปักใกล้กับกิ่งที่ออกผลแล้ว โดยผูกยึดกับกิ่งไว้ บางสวนจะผูกขั้วผลกับกิ่ง หรือไม้ปักเพื่อไม่ให้ผลถ่วงต้น เพราะน้ำหนักผลฝรั่งมาก ถ้ามีลมพัดแรงต้นจะเฉาตายและรากจะขาด

มูลวัว ใช้หมักเป็นปุ๋ยบำรุงต้น

การตัดแต่งกิ่ง จะช่วยให้ฝรั่งเกิดกิ่งอ่อนและมีช่อดอกออกมาด้วย ทำให้ทรงพุ่มโปร่ง ได้สัดส่วน อากาศถ่ายเทได้สะดวก แสงแดดส่องได้ทั่วถึง สะดวกในการเก็บผลและการพ่นสารป้องกันกำจัดโรคและแมลง นอกจากนี้ ยังทำให้ได้ผลผลิตที่แน่นอน ผลมีขนาดใหญ่ สำหรับสวนใหม่ควรมีการตัดแต่งกิ่งทุกปีเพื่อกระตุ้นการเจริญและการสร้างตาดอก โดยทั่วไปต้นที่สมบูรณ์จะตัดกิ่งก้านออก 25-30% สำหรับต้นที่ไม่แข็งแรงให้ตัดกิ่งก้านออกประมาณ 20% นอกจากการตัดแต่งกิ่งแล้ว การทำให้ใบร่วงจะทำให้ระยะการเก็บเกี่ยวสั้นลง และการปลิดผลทิ้งให้เหลือประมาณ 2-6 ผลต่อกิ่ง จะจำเป็นในสวนที่ผลิตเพื่อบริโภคผลสด แต่ถ้าจะให้ได้ผลที่มีขนาดใหญ่และมีคุณภาพดี ควรให้เหลือเพียง 1 ผลเท่านั้น

การห่อผล ประโยชน์ของการห่อผล นอกจากจะช่วยป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูฝรั่งแล้ว ยังทำให้ผลฝรั่งมีผิวสวยน่ากิน วิธีการห่อผลฝรั่งโดยส่วนใหญ่จะใช้ถุงพลาสติกหรือใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อก่อนแล้วจึงสวมถุงพลาสติกทับอีกชั้นหนึ่ง โดยจะเริ่มห่อผลฝรั่งเมื่อมีขนาดเท่าลูกมะนาว หรือหลังดอกบานแล้ว 1 เดือน ก่อนห่อควรพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อราและแมลงที่ผลฝรั่งเสียก่อน

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อผ่านสำนักงานเกษตรอำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา หรือต้องการศึกษาดูงาน ยินดีต้อนรับและแลกเปลี่ยนประสบการณ์