สาวเมืองระยอง ผลิตฮาโวเทีย-พัฒนาด่าง เพิ่มความหลากหลาย ทำตลาดได้ง่าย

ฮาโวเทีย ไม้อวบน้ำที่เป็นไม้ตระกูลใกล้เคียงกับกระบองเพชร เป็นอีกหนึ่งพรรณไม้ที่มีการปลูกกันอยู่ทั่วไปในแถบทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ซึ่งในประเทศไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ได้มีเกษตรกรผู้สนใจได้นำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์กันมากขึ้น เพราะการดูแลและการขยายพันธุ์ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีลักษณะคล้ายๆ กับกระบองเพชร เมื่อโตหรือพัฒนาพันธุ์ใหม่เกิดเป็นไม้ใหม่ที่สวยและด่างได้เช่นกัน จึงทำผู้ชื่นชอบในไม้ชนิดนี้พัฒนาได้ไม่รู้จบ และทำการตลาดสร้างเป็นอาชีพทำเงินได้ดีทีเดียว

คุณอัญชลี อรุณ

คุณอัญชลี อรุณ อยู่บ้านเลขที่ 75/1 ถนนโพธิ์ทอง ตำบลทางเกวียน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรตัวยงที่ชื่นชอบการปลูกเลี้ยงไม้ประดับ เธอได้สนใจมาปลูกฮาโวเทียในเวลาต่อมา เพราะช่วงแรกปลูกไม้ประดับชนิดอื่นๆ ก่อน เมื่อจับทางในเรื่องของตลาดได้แล้วจึงได้หาสายพันธุ์จากต่างประเทศเข้ามาปลูก สร้างฐานลูกค้าที่เข้มแข็งจนทำให้ไม้เป็นที่ต้องการของตลาด

H.magnifica variegate.
ไม้ที่เลี้ยงจนกว่าจะได้อายุจำหน่าย

คุณอัญชลี เล่าให้ฟังว่า ยึดอาชีพปลูกเลี้ยงไม้ประดับเป็นอาชีพสร้างเงินให้กับตนเอง โดยเริ่มแรกปลูกไม้จำพวกไม้ประดับใบต่างๆ ต่อมาได้รู้จักกับฮาโวเทียจึงได้ทดลองเข้ามาปลูกภายในสวน เพราะไม้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความสวยงามที่แปลกตาจึงทำให้ลูกค้าสนใจและนิยมซื้อไปปลูก

“เรามองว่าไม้ตัวนี้น่าสนใจ เพราะเห็นได้จากคนที่เลี้ยงกระบองเพชร เริ่มมาสนใจไม้ตัวนี้กันมาก มักจะหาซื้อไปสะสม ซึ่งฮาโวเทียมีหลากหลายสายพันธุ์ คนที่ปลูกเลี้ยงก็สามารถเลือกได้หลายแบบ อย่างที่นิยมตอนนี้จะเป็นพันธุ์หยดน้ำ ค่อนข้างที่จะขายดี เราก็เลยนำมาปลูกขยายพันธุ์ เพื่อให้คนที่ชื่นชอบได้สะสม” คุณอัญชลี บอก

คุณอัญชลี อรุณ
H.obtusa variegate ‘Tamatsukasa-no-Hikari’

สายพันธุ์ฮาโวเทียที่นำมาปลูกภายในสวน คุณอัญชลี บอกว่า นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่หายากกว่าที่มีอยู่ในประเทศไทย โดยจะซื้อมาปลูกเลี้ยงให้มีความสมบูรณ์ จากนั้นนำมาขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อ ชำใบ หรือจะเป็นวิธีการยกยอดก็ได้ โดยวิธีการขยายพันธุ์จะมีความแตกต่างกันไป การเตรียมดินสำหรับปลูกฮาโวเทียจะมีส่วนผสมของแกลบเผา ขุยมะพร้าว พีทมอสส์ ปุ๋ยหมัก และหินภูเขาไฟ มาผสมเข้าด้วยกันในอัตราส่วน 1 : 1 ก่อนที่จะนำวัสดุปลูกใส่ลงในกระถาง ควรเลือกกระถางที่เหมาะสมกับไม้โดยไม่ให้เล็กหรือใหญ่จนเกินไป จากนั้นนำมะพร้าวสับรองก้นกระถางเล็กน้อยแล้วจึงนำฮาโวเทียมาปลูกลงไป

“การปลูกฮาโวเทียไม่ยุ่งยาก แต่ต้องดูว่าฮาโวเทียมีรากสมบูรณ์หรือยัง ถ้าเป็นไม้ที่ยังไม่มีราก ให้วางไว้บนหน้าดิน ไม่ต้องฝังลงไป ส่วนไม้ที่มีรากแล้วก็ฝังลงไปพอประมาณ อย่าให้ลำต้นลงดินลึกเกินไป พอเราปลูกเสร็จแล้ว ช่วงแรกยังไม่ต้องรดน้ำ รอให้รากปรับตัวเข้ากับดินได้สัก 2-3 วัน จากนั้นจึงรดน้ำให้ชุ่มทันที ส่วนการรดน้ำหลังจากนี้ ควรรดน้ำให้ชุ่มอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือดูตามสภาพอากาศ ถ้าเห็นว่าวัสดุที่ปลูกแห้งมากจนเกินไป ก็สามารถรดน้ำได้ทันที เวลาในการดูแลฮาโวเทียที่ปลูกใหม่จนถึงไม้โตจนสามารถขายได้ ใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี” คุณอัญชลี บอก

พื้นที่ภายในสวน

พื้นที่ที่วางไม้ภายในสวนทั้งหมด คุณอัญชลี บอกว่า นำไม้วางในสถานที่เตรียมไว้เป็นโรงเรือนที่หลังคาโปร่ง ระบายอากาศได้ดี โดยต้องมีแสงแดดที่เพียงพออย่างน้อย 30-40 เปอร์เซ็นต์ โดยประมาณ ซึ่งข้างบนของโรงเรือนจะมีซาแรนช่วยพรางแสงอีก 1 ชั้น

H.obtusa variegate ‘Aroon’
H.pygmaea ‘super white’

สำหรับการทำตลาดจำหน่ายฮาโวเทีย คุณอัญชลี เล่าว่า ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าที่ซื้อไม้ประดับจากสวนของเธออยู่แล้ว ซึ่งในปัจจุบันการทำตลาดออนไลน์มีความง่ายขึ้นกว่าสมัยก่อนมาก เพราะสามารถลงไม้ขายผ่านทางเฟซบุ๊กและเว็บไซต์ ซึ่งลูกค้าที่สนใจจะเข้ามาดูรูปของไม้ได้ทันที เมื่อลูกค้าตกลงปลงใจที่จะซื้อ ทางสวนก็จะมีบริการส่งไม้ให้ทางไปรษณีย์

“ราคาฮาโวเทียแต่ละตัวมีความแตกต่างกัน ต้องดูก่อนว่าสายพันธุ์ที่นำเข้ามาแพงมากไหม บางต้นซื้อมา 1-3 หมื่นบาท พอแยกหน่อได้แล้ว ราคาขายอยู่ที่กระถางละ 350 บาท เป็นแบบไซซ์แยกหน่อ ซึ่งราคาไม่มีอะไรที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ และการผลิตไม้ออกมาว่ายากหรือง่าย ราคาจึงแตกต่างกัน ยิ่งเป็นพันธุ์ด่างราคาสูงขึ้นมาหน่อย ซึ่งที่สวนเราก็มีราคาขายตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักหมื่นบาท” คุณอัญชลี บอก

สำหรับผู้ที่สนใจอยากปลูกฮาโวเทียเพื่อเป็นไม้ประดับสวยงาม สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณอัญชลี อรุณ หมายเลขโทรศัพท์ 085-285-0282