| ที่มา | สัตว์เลี้ยงสวยงาม |
|---|---|
| ผู้เขียน | ทะนุพงศ์ กุสุมา ณ อยุธยา |
| เผยแพร่ |
ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาด หลายอาชีพได้รับผลกระทบอย่างหนัก บางแห่งถึงขั้นต้องปิดกิจการลง แต่ในวิกฤตกลับสร้างโอกาสให้กับกลุ่มงานอิสระบางประเภท อย่างไม้ดอกไม้ประดับและสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากผู้คนจำนวนมากต้องอยู่กับบ้านเพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรค จึงหันมาหากิจกรรมยามว่างทำเพื่อคลายเหงาและแก้เบื่อ
เช่นเดียวกับ “TN Chicky & Bird Farm” ธุรกิจฟาร์มเพาะขายสัตว์เลี้ยงจากต่างประเทศในรูปแบบครอบครัวที่สมาชิกทุกตัวล้วนมีความน่ารักสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นไก่ นกแก้ว และเมียร์แคต ผ่านการเพาะเลี้ยงในฟาร์มคุณภาพได้มาตรฐานโดยผู้คร่ำหวอดนานนับสิบปี รายล้อมด้วยบรรยากาศธรรมชาติของจังหวัดเพชรบุรี
คุณโน๊ต หรือ คุณนิธิ สุประดิษฐ์ เจ้าของและหัวหน้าครอบครัวของ “TN Chicky & Bird Farm” บอกเล่าเรื่องราวความอบอุ่นในครอบครัวนี้ว่า ก่อนมาเข้าสู่วงการสัตว์เลี้ยงเคยทำอาชีพมัคคุเทศก์มาก่อน แต่ด้วยภาระรับผิดชอบมากมายจนทำให้ไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวให้กับครอบครัว จึงมองหาอาชีพอิสระอื่น
ขณะที่อุปนิสัยส่วนตัวเป็นคนรักสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะนกจึงใช้สวนเกษตรอินทรีย์ของคุณพ่อที่จังหวัดเพชรบุรีจำนวนกว่า 11 ไร่ แบ่งบางส่วนเพื่อปรับมาทำฟาร์มเลี้ยงไก่สวยงามก่อน กระทั่งมองว่าเส้นทางอาชีพนี้ไปได้ดีจึงต่อยอดมาเพาะขายนกแก้วต่างประเทศที่มีความสวยงามทั้งรูปร่างและสีสัน กับเมียร์แคต สัตว์ทะเลทรายของทวีปแอฟริกาเพื่อสร้างทางเลือกใหม่ให้ลูกค้า
เลือกนกแก้วที่คุณชอบ
เลือกขนาดรูปร่างที่ใช่
คุณโน๊ตสรรหานกแก้วพันธุ์ต่างประเทศมาเพาะเลี้ยงขายจำนวนกว่า 10 สายพันธุ์ ด้วยเจตนาที่ต้องการให้ลูกค้าเลือกพันธุ์ที่ชอบและขนาดที่ใช่ตามความเหมาะสมและรสนิยม ดังนี้ ถ้าเป็น นกขนาดเล็ก 1. ฮัน มาคอว์ (Hahn Macaw) 2. นกแก้วมองค์ (Monk parakeet ) 3. นกแก้วแบล็คเฮดไคท์ (Black head caique) 4. นกแก้วไวท์เบลลี่ไคท์ (White bellied caique) ขนาดกลาง 1. นกแก้วอิเล็กตัส (Eclectus parrot) 2. นกแก้วอเมซอนเยลโล่คราวน์ (Yellow crowned amazon) 3. นกแก้วแอฟริกันเกรย์ (African grey) 4. เชสต์นัต มาคอว์ (Chestnut Macaw) 5. เรดฟรอนท์ คอนัวร์ (Red fronted conure 6. นกกระตั้วกาล่า (Galah Cockatoo) และ ขนาดใหญ่ 1. นกกระตั้ว อัมเบลล่า (Umbrella Cockatoo) 2. นกกระตั้วมอลลัคคั่น (Moluccan Cockatoo) 3. บลูแอนด์โกลด์ มาคอว์ (Blue and Gold Macaw) 4. สกาเล็ต มาคอว์ (Scarlet Macaw)
คุณโน๊ต บอกว่า ในช่วงสิบกว่าปีมานี้คนหันมาเลี้ยงนกแก้วเพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะพันธุ์จากต่างประเทศ มีจุดประสงค์และลักษณะการเลี้ยงเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนที่เลี้ยงไว้เพื่อชื่นชมความสวยงามหรือฝึกพูดจะได้มีความแปลก แต่สมัยนี้แนวทางการเลี้ยงจะปล่อยให้นกบินเองแบบอิสระผ่านการฝึกที่มีระบบ ควบคุมการบินโดยสัญญาณเสียงและท่าทางจากเจ้าของนก ถือเป็นการเลี้ยงนกสวยงามแนวทางใหม่ที่ได้รับความนิยมกันอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศเพราะสร้างความสุข ตื่นเต้น และสนุกสนานให้กับผู้เลี้ยงนกมากกว่า
ทุ่มเท ใส่ใจ
ใกล้ชิดทุกขั้นตอนการเพาะเลี้ยง
TN Chicky & Bird Farm เป็นแหล่งเพาะขายพันธุ์นกแก้วต่างประเทศที่ได้มาตรฐานแห่งหนึ่ง จัดระบบการบริหารจัดการฟาร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใส่ใจทุกรายละเอียดทุกขั้นตอนจากทุกคนในครอบครัวสุประดิษฐ์ ไม่ว่าจะเป็นพ่อโน๊ต แม่ยุ้ย และน้องต้นน้ำ ที่ต่างทุ่มเท ใส่ใจ ใกล้ชิดเพื่อให้สมาชิกในครอบครัวทุกตัวมีความแข็งแรงสมบูรณ์ สวยงาม
โดยเริ่มจากการคัดเลือกพ่อ-แม่พันธุ์ของนกแก้วแต่ละชนิดก่อน ดูความสมบูรณ์ของโครงสร้างร่างกายจากภายนอก ตลอดจนลักษณะขนและสีสัน หรือหากต้องการดูความละเอียดใช้วิธีเจาะเลือดตรวจเพื่อหาความผิดปกติที่อาจส่งไปยังลูก หลังจากเลือกพันธุ์นกได้แล้วให้นำมาจับคู่ใส่ในกรง แล้วเตรียมรังฟัก แต่หากนกที่จับคู่แล้วเกิดทะเลาะกันจะต้องจับแยกก่อนแล้วให้เปลี่ยนหาตัวผู้หรือตัวเมียที่สามารถอยู่ด้วยกันได้
ความจริงนกแก้วเป็นสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงง่าย ดูแลง่าย กินง่าย นกที่เตรียมผสมพันธุ์จะให้อาหารวันละ 2 ครั้งเป็นผลไม้สดหลายชนิดที่สามารถหาได้ในพื้นที่ตามความสะดวก อย่างฟาร์มคุณโน๊ตใช้กล้วยน้ำว้า ชมพู่ และฝรั่งที่ปลูกไว้อยู่แล้ว ร่วมกับถั่วธัญพืชหลายชนิดนำมานึ่ง คุณโน๊ต เผยว่า อาหารนกเป็นการลงทุนมาก คนเลี้ยงต้องรู้จักบริหารจัดการและปรับให้เหมาะสมเพื่อควบคุมรายจ่าย
นกแก้วผสมพันธุ์ในช่วงปลายฝนต้นหนาว หรือในราวเดือนตุลาคม หลังผสมพันธุ์แล้วเมื่อได้ไข่ใบแรกผู้เลี้ยงต้องบำรุงแม่นกอย่างเต็มที่ทั้งอาหารและวิตามิน เพื่อให้แม่นกและไข่จำนวนที่เหลือมีความสมบูรณ์อย่างเต็มที่ทั้งตัวเชื้อ รวมถึงเปลือกไข่ จำนวนไข่ที่แม่นกออกแต่ละครั้งเรียกเป็น 1 ตับ ถ้าเป็นนกขนาดเล็กมีจำนวนประมาณ 2-5 ฟอง ส่วนนกขนาดใหญ่จำนวน 2-3 ฟอง
เมื่อแม่นกออกไข่หมดแล้ว (หลังจากทิ้งไว้สัก 5 วัน) ต่อจากนั้นเป็นขั้นตอนการฟักซึ่งมี 2 แบบ คือปล่อยให้แม่นกกกไข่ หรือใช้วิธีนำไข่ไปเข้าตู้ฟัก ระยะเวลาฟักไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับขนาดและสายพันธุ์ แต่ปกติถ้าเป็นนกขนาดเล็กใช้เวลาประมาณ 20-22 วัน
ลูกนกที่เพิ่งออกจากเปลือกไข่จะย้ายมาเข้าตู้อบที่คอยปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมอยู่ตลอดเวลาเพื่อสร้างความสมดุลของตัวลูกนกกับสภาวะอุณหภูมิทั่วไปใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 25 วันหรือจนกว่าลูกนกจะเริ่มมีขนหนามออกมา โดยสามารถขายลูกนกได้เมื่ออายุไม่ต่ำกว่า 45 วัน
ได้รับความสนใจทุกเพศ ทุกวัย
โดยเฉพาะเด็ก
คุณโน๊ต บอกว่า ลูกค้าที่สั่งซื้อนกมีทุกเพศและวัย โดยเฉพาะวัยเด็กนิยมซื้อกันมากเพราะนกแก้วมีความน่ารัก สีสวยงาม จุดประสงค์ของการซื้อมีตั้งแต่เลี้ยงเล่นจนถึงนำไปเลี้ยงเพื่อขายต่อ นอกจากนั้น ยังมีลูกค้าในประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นตลาดสำคัญด้วย โดยมักซื้อเพื่อนำไปเป็นพ่อ-แม่พันธุ์ หรือซื้อเพื่อนำไปฝึกเป็นนกบินอิสระซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากเช่นเดียวกัน
เจ้าของฟาร์มนกเผยว่า กำหนดราคาขายเริ่มตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักล้านขึ้นอยู่กับตัวแปรหลายอย่าง เหตุผลที่นกแก้วต่างประเทศมีราคาค่อนข้างสูงเนื่องจากจะต้องผ่านการเลี้ยงและดูแลเอาใจใส่อย่างดีทุกขั้นตอนตั้งแต่เรื่องการฟักไข่ การเลี้ยงดูแต่ละช่วงวัย การให้อาหาร การผสมพันธุ์ รวมถึงสุขอนามัยของสถานที่เลี้ยงต้องสะอาด มีระเบียบ
สำหรับคนที่สนใจอยากซื้อไปเลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัว คุณโน๊ต แนะนำว่า ถามตัวเองก่อนว่าต้องการเลี้ยงนกแก้วแนวใด เช่น ต้องการเลี้ยงเพื่อชื่นชมความสวยงาม ความน่ารัก แนะนำให้เลี้ยงนกที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 2 เดือนเพราะวัยนี้ช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว
หากต้องการได้นกที่มีความเชื่องแบบติดคนเลี้ยง ต้องการปล่อยให้นกสามารถบินไป-มาได้อย่างอิสระในที่พักอาศัยหรือสถานที่โล่งแจ้งซึ่งแนวนี้กำลังได้รับความนิยมมากก็จะแนะนำให้เลี้ยงนกที่มีอายุประมาณ 1 เดือน แต่แนวนี้ผู้เลี้ยงต้องอยู่ใกล้ชิดแล้วยังต้องป้อนอาหารนกด้วยตัวเอง ซึ่งมักเรียกว่านกลูกป้อน เพราะความใกล้ชิดจะสร้างความคุ้นชินแล้วเกิดความผูกพันขึ้นระหว่างนกและผู้เลี้ยง
“เมียร์แคต” สัตว์ทะเลทรายที่มีเสน่ห์
น่ารัก เลี้ยงง่าย
ทั่วโลกรู้จักเมียร์แคตผ่านหนัง The Lion King ในชื่อ “ทีโมน” มีเอกลักษณ์เด่นในเรื่องที่ชอบพูดมาก ท่าทางตลกแล้วชอบเกาะอยู่บนหลัง “พุมบา” หมูป่าเพื่อนซี้ ที่รวมแก๊งสามเกลอกับ “ซิมบา” จึงเกิดเป็นภาพจำความน่ารักของเมียร์แคตขึ้น
เมียร์แคตเป็นสัตว์ที่มีเสน่ห์จากความน่ารักน่าเอ็นดู มีความกระตือรือร้นและเชื่อง มีลักษณะเหมือนพังพอนเพราะอยู่ในวงศ์เดียวกัน พบได้มากในทะเลทรายคาลาฮารีทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เมียร์แคตเติบโตเต็มที่จะมีความสูงที่ 50 เซนติเมตร หนักประมาณ 1 กิโลกรัม มีขนสั้นสีน้ำตาล เมียร์แคตเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย จัดระบบการเลี้ยงไม่ยุ่งยาก รวมถึงอาหารและสถานที่เลี้ยง ปัจจุบันการนำสัตว์ชนิดนี้มาเลี้ยงไม่ผิดกฎหมาย
TN Chicky & Bird Farm เลี้ยงเมียร์แคตไว้จำนวน 12 คู่ ในกรงเลี้ยงขนาดสูง 1.50 เมตร ยาว 2 เมตร หน้ากว้าง 1 เมตร ภายในกรงใส่ท่อใยหินซึ่งทำเลียนแบบโพรงตามธรรมชาติเพื่อเป็นที่อาศัยของเมียร์แคต พื้นล่างโรยด้วยทรายเพราะเป็นสัตว์ทะเลทราย วางในตำแหน่งที่มีแดดส่องถึงในกรง สัตว์ชนิดนี้สามารถอยู่ในสภาวะอากาศร้อนอย่างประเทศไทยได้สบาย เมียร์แคตกินง่าย ใช้อาหารสุนัขหรือแมวแบบเม็ด เสริมด้วยโครงไก่ดิบทั้งตัวบดละเอียด เพราะเป็นสัตว์กินเนื้ออาจหาจิ้งหรีดหรือหนอนมาเป็นอาหารได้ จัดน้ำสะอาด แล้วให้ถ่ายพยาธิทุก 3 เดือน
ในธรรมชาติเมียร์แคตเพศเมียตั้งตัวเป็นจ่าฝูงแล้วจะเลือกตัวผู้ผสมพันธุ์เอง แต่สำหรับการเลี้ยงในระบบฟาร์มคุณโน๊ตใช้วิธีจับคู่ผสมไว้ตั้งแต่อายุ 3-6 เดือนเพื่อให้ทั้งตัวเมีย-ตัวผู้สร้างความคุ้นเคยเรื่องนิสัย เมียร์แคตมีอายุตั้งท้องประมาณ 2 เดือนครึ่ง-3 เดือน
จำนวนลูกต่อคอก ถ้าเป็นแม่สาวอายุน้อยท้องแรกประมาณ 2-3 ตัว แต่ถ้าเป็นแม่พันธุ์ที่คลอดบ่อยจะให้ลูกได้ 2-6 ตัวต่อครอก ลูกเมียร์แคตจะปล่อยให้แม่เลี้ยงเองก็ได้ หรือผู้เลี้ยงจะนำมาป้อนนมและอาหารเองก็ได้ อย่างไรก็ตาม หากสังเกตพฤติกรรมพ่อ-แม่ดูก้าวร้าวต่อลูก ให้นำลูกมาเลี้ยงเองจะปลอดภัยกว่า โดยนำไปเข้าในตู้อบก่อนในช่วงแรกเกิด ลูกเมียร์แคตกินนม (ใช้นมผสมแบบเลี้ยงลูกแมว) ประมาณ 1 เดือน แล้วจึงเริ่มกินอาหารได้
เมียร์แคตสามารถเลี้ยงและครอบครองเป็นสัตว์สวยงามได้โดยไม่ผิดกฎหมายเช่นเดียวกับสุนัข-แมวสามารถปล่อยให้วิ่งเล่นในบ้านได้ เพราะเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีขนาดเล็ก ปราดเปรียวสามารถพาไปเที่ยวได้ พกใส่กระเป๋าหรือตะกร้าได้เช่นเดียวกับสุนัข-แมว เวลาจูงเดินให้ใส่เอี้ยม สามารถฝึกขับถ่ายได้เป็นที่
ตอนนี้เมียร์แคตเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ยอดขายกำลังจะแซงนกแก้ว โดยลูกค้ามีทุกวัย โดยเฉพาะเด็กจะชอบมาก เนื่องจากเป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็ก เลี้ยงง่าย ลูกค้ามักนิยมซื้อไว้เลี้ยงที่พักที่มีขนาดจำกัด อย่างคอนโดฯ อพาร์ตเมนต์
ความโดดเด่นจากมาตรฐานและคุณภาพการเพาะเลี้ยงสัตว์ของ “TN Chicky & Bird Farm” จึงได้รับความสนใจจากลูกค้าเพิ่มมากขึ้น สร้างกำลังใจให้กับคุณโน๊ตและครอบครัวเป็นอย่างมาก พร้อมกับตั้งใจจะขยับขยายเปลี่ยนแปลงฟาร์มให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม แล้วเพิ่มสัตว์อีกหลายชนิดและสายพันธุ์เข้ามาเติมอีกเป็นจำนวนมาก หวังในอนาคต ให้เป็นฟาร์มเพาะเลี้ยงที่มีความสมบูรณ์แบบทั้งคุณภาพและปริมาณ
คุณโน๊ต บอกว่า สัตว์เลี้ยงที่สั่งซื้อหากอยู่ไม่ไกลจากฟาร์มจะไปส่งเอง แต่ถ้าอยู่ไกลจะส่งผ่านรถขนส่งสัตว์ที่เชื่อถือได้ อีกทั้งยังมีบริการให้คำปรึกษาแนะนำหลังการขายตลอดเวลาด้วย เพราะลูกค้าทุกท่านถือเป็นสมาชิกในครอบครัวแล้ว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ “TN Chicky & Bird Farm” ตั้งอยู่เลขที่ 131/2 บ้านท่าต้นโพธิ์ ซอย 1 ตำบลท่าคอย อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี โทร. 081-750-3938 หรือเข้าไปส่องดูความน่ารักของสมาชิกฟาร์มได้ที่ facebook: https://www.facebook.com/nithi.supradith
สำหรับแฟนๆ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน หากต้องการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปักษ์ ส่งตรงถึงบ้าน รวดเร็วทันใจอ่านได้ในทุกๆ 15 วัน สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ คลิกลิ้ง https://shorturl.asia/0zJwQ 📲- Line: @matichonbook หรือ สำนักพิมพ์มติชน เลขที่ 12 ถนนเทศบาลนฤมาล หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ติดต่อฝ่ายขาย 02-589-0020 ต่อ 3354
