โรงเรียนชาวนาตำบลตูม เมืองย่าโม

ชายร่างเล็ก ในวัย 47 ปี เจ้าของแววตาขี้เล่น แต่ดูฉลาดเฉลียว “ยอด” ที่ชาวบ้านรู้จักหรือเรียกชื่ออย่างสนิทสนม หรือชื่อจริง “ยอดชาย ยวดขุนทด” ลูกชาวนา ชาวจังหวัดนครราชสีมาโดยกำเนิด หลังจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนใกล้บ้าน เขาได้ช่วยครอบครัวทำนามาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งปัจจุบัน เขาได้กระโดดเข้าสู่วงการการเมืองท้องถิ่น โดยปัจจุบันเขาได้ดำรงตำแหน่งสารวัตรกำนัน ตำบลตูม อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา โดยได้อยู่ในตำแหน่งมา 8 ปีแล้ว พร้อมๆ กับการเปิดร้านขายของชำเล็กๆ ในหมู่บ้าน และทำนาหาเลี้ยงครอบครัวไปพร้อมกัน 

ที่สำคัญเขาเป็นผู้ที่นำที่ดินที่เป็นที่นาส่วนตัวมาทำเป็นโรงเรียนชาวนาที่เรากำลังจะพูดถึง

“ผมมองว่าอาชีพชาวนาก็เป็นอาชีพหนึ่งในหลายๆ อาชีพที่มีคุณูปการต่อสังคมไม่แพ้อาชีพอื่น” คุณยอดชาย เอ่ย

นี่จึงเป็นที่มาของการก่อตั้งโรงเรียนชาวนาขึ้น

คุณยอดชาย กล่าวต่อว่า หลังการไปดูงานเรื่องโรงเรียนชาวนาตามที่ต่างๆ ในประเทศร่วมกับคณะทำงานของ อบต.ตูม เช่น ที่จังหวัดสกลนคร จังหวัดชัยภูมิ ได้รู้จัก อาจารย์ตุ๊หล่าง คุณแก่นคำกล้า พิลาน้อย บุคคลดีเด่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาขาวิชาชีพ ประจำปีพุทธศักราช 2553 และอีกหลายๆ คนที่มีความคิดคล้ายๆ กัน ทำให้เกิดความคิดและแรงบันดาลใจอยากทำโรงเรียนชาวนาที่บ้านเกิดของตนเองให้เป็นจริงให้ได้

Advertisement

 แปลงนาบนเนื้อที่ 2 ไร่ จึงถือกำเนิดขึ้นเป็นโรงเรียนชาวนา โดยมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคม ปี 2565 ที่ผ่านมา

Advertisement

คุณยอดชาย กล่าวในรายละเอียดว่า ในการทำงานจัดตั้งกลุ่มนั้นได้มีการคัดเลือกชาวบ้าน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 30 คน ทั่วทั้งตำบลตูม จาก 16 หมู่บ้านทั้งตำบลมาร่วมทำงานกับเรา โดยมีเจ้าหน้าที่การเกษตรประจำตำบลตูมเป็นผู้ดูแลและให้คำปรึกษาในเรื่องพันธุ์ข้าวต่างๆ เป็นต้น และในขณะนี้โรงเรียนก็กำลังอยู่ในระหว่างการปักกล้าดำนา

ส่วนจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนในโลกปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง และการทำนาโดยไม่ใช้ปุ๋ยและสารเคมี ผลผลิตที่ได้จะแข่งกับต่างประเทศได้หรือ คุณยอดชาย กล่าวว่า เป็นไปได้แน่นอนเพราะจะทำเองขายเอง ทำยี่ห้อของตัวเอง หาตลาดและเราจะขายในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด การทำเอง ผลิตเอง ขายเอง สำคัญ

“เราจะต้องพึ่งตัวเองให้ได้ก่อนเป็นเบื้องต้น แล้วค่อยคิดพึ่งพาภายนอก”

ระหว่างนี้ทางโรงเรียนก็มีการวางแผนในอนาคตที่จะพัฒนากลุ่มเป้าหมายด้วยเช่นกัน อาทิ ให้มีการศึกษาดูงาน อบรม สัมมนาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานที่ทำเพื่อที่จะพัฒนาคนและพัฒนางานไปพร้อมกัน

“ตอนนี้งานของเราเพิ่งเริ่มครับ ถ้าเปรียบขณะนี้เรากำลังอยู่ชั้น ป.1 ซึ่งแน่นอนหลังจากนี้เราก็จะต้องพัฒนาตัวเองอีกต่อไปโดยไม่หยุดครับ”

ส่วนอนาคตจะมีการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น โฮมสเตย์ หรือทำเป็นร้านกาแฟเช่นที่อื่นไหม คุณยอดชาย กล่าวว่า มีโครงการทำเป็นร้านกาแฟ ในด้านชีวิตส่วนตัวขณะนี้ลูกชายก็เรียนจบปริญญาตรีแล้ว จากนี้ก็จะมีเวลาและมีงบประมาณมากขึ้นสำหรับการทำร้านกาแฟเช่นที่ได้ตั้งใจไว้

สุดท้ายของการสนทนาเมื่อถามถึงความฝัน ความตั้งใจที่จะทำงานนี้ต่อไปอีกนานเท่าใด เขากล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและมั่นคงว่า

“ผมก็คงจะทำนาไปจนวาระสุดท้ายของชีวิต เพราะการทำนาคือชีวิตของผม”

พูดคุยสอบถามเพิ่มเติมที่ คุณยอดชาย ยวดขุนทด โทร. 089-848-3039