ผู้เขียน | วิภาวรรณ เพ็ชรศรี |
---|---|
เผยแพร่ |
แมวไทยเป็นสัตว์ที่อยู่คู่กับคนไทยมานานแล้ว ซึ่งมีบันทึกอยู่ในสมัยสุโขทัย เมื่อเปรียบเทียบเวลาจะเป็นเวลากว่า 700 ปี ในอดีตแมวที่เป็นแมวไทยโบราณมีทั้งหมด 23 สายพันธุ์ จำแนกเป็นแมวให้คุณประโยชน์ 17 สายพันธุ์ และแมวให้โทษ 5 สายพันธุ์ ปัจจุบันเหลือเพียง 4 สายพันธุ์ คือ วิเชียรมาศ โคราชหรือสีสวาด ศุภลักษณ์ และโกญจา ส่วนขาวมณีนั้นเป็นแมวไทยเหมือนกันแต่เพิ่งค้นพบเมื่อช่วงต้นรัตนโกสินทร์เมื่อประมาณ 200 ปี ซึ่งสายพันธุ์แมวไทยทั้งหมดจะมีบันทึกในสมุดข่อยโบราณ
“ถ้าหากถามว่าเรารู้ได้อย่างไรว่าแมวนั้นมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย เพราะในสมัยนั้นจะมีตำราสำหรับดูช้าง ดูม้า และตำราดูแมวจะโดนเขียนคู่กับตำราดูช้าง ดูม้า จนกระทั่ง 500 ปีหลัง ประเทศไทยเริ่มมีตำราสมุดข่อยโบราณแมวไทย”
คุณชนินทร์ มาศสุพงศ์ หรือ คุณบอล เจ้าของฟาร์ม “บ้านแมวไทยโบราณ CN Rangsit” ในพื้นที่ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ที่นำความรักและความชอบแมวส่วนตัว มาต่อยอดด้วยการเปิดฟาร์มและเพาะพันธุ์แมวไทยโบราณส่งขายและส่งประกวด ก่อนจะเล็งเห็นช่องทางการสร้างรายได้จากการเลี้ยงแมวไทยโบราณ ทำให้สร้างรายได้ตลอดทั้งปี
จุดเริ่มต้นของการเลี้ยงแมวไทยโบราณนั้น เริ่มขึ้นเมื่อ 11 ปีก่อน คุณชนินทร์ได้นำแมวบ้านมาเลี้ยงและเสียชีวิตลง จึงมีความคิดว่าอยากจะหาแมวเข้ามาเลี้ยงใหม่ โดยศึกษาหาความรู้เรื่องการเลี้ยงแมวอย่าวจริงจัง ซึ่งสายพันธุ์แรกที่คุณชนินทร์ได้มาคือ แมวสายพันธุ์วิเชียรมาศ หลังจากนั้นได้นำแมวสายพันธุ์วิเชียรมาศตัวดังกล่าว ลงสนามแข่งขันการเข้าประกวดแมวไทยโบราณ ได้รางวัลชนะเลิศ จึงเริ่มเพาะพันธุ์แมวไทยโบราณอย่างเต็มรูปแบบ หลังจากคุณชนินทร์เริ่มเฟ้นหาแมวไทยโบราณ เพื่อนำมาทำสายพันธุ์ภายในฟาร์ม ทั้งแมวโคราชหรือสีสวาด ขาวมณี โกญจา และศุภลักษณ์ ตามลำดับ ซึ่งแมวสายพันธุ์ศุภลักษณ์ เมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อน คุณบอลได้ร่วมมือกับสมาคมแมวไทย ในการทำให้แมวสายพันธุ์ศุภลักษณ์นิ่งอีกด้วย
“แรงบันดาลใจอีกหนึ่งเรื่อง สำหรับการเลี้ยงแมวไทยโบราณนั้นคือ คนไทยไม่ค่อยรู้จักแมวไทยสายพันธุ์แท้นะครับ ซึ่งเราเห็นแมวบ้าน แมวที่มีสีเปรอะปะ เขาก็จะเรียกกันว่าเป็นแมวไทย แต่ถ้าคนที่เลี้ยงแมวไทยสายพันธุ์จริงๆ เขาจะรู้ ก็คืออย่างที่ผมบอกว่าที่เหลืออยู่และอีกประเด็นหนึ่งคือ อยากให้คนไทยเห็นว่าการที่เรามีแมวไทย อนุรักษ์แมวไทยอย่างไรเราก็ไม่น้อยหน้ากว่าชาวต่างชาติแน่นอน ซึ่งชาวต่างชาติทุกคน เกือบทุกประเทศ เขาอยากได้แมวไทยไปเลี้ยงนะครับ เวลาเขาซื้อกัน เขายอมจ่ายถึง 9 หมื่น ถึง 1 แสนบาท เพื่อจะนำแมวไทยเข้ายุโรป ถามว่าทำไมเขาถึงจ่ายแพง อย่าลืมว่าค่าตั๋วเครื่องบินก็อยู่ที่ราคา 1 หมื่น ถึง 2 หมื่นบาทแล้ว กว่าแมวไทยของเราจะเข้ายุโรปได้นั้น จะมีการตรวจคัดกรองหลายขั้นตอนมาก ทั้งโรคต่างๆ สุดท้ายต้องทำเรบีส์ คือ โรคพิษสุนัขบ้า กว่าแมวเราจะไปต่างประเทศได้ ก็อายุก็จะอยู่ที่ประมาณ 6 เดือนครับ ค่าตัวน้องจริงๆ จะอยู่ที่ 3 หมื่นบาท ส่วนใหญ่จะหมดไปกับค่าเดินทาง ค่าตรวจโรคมากกว่าครับ”
คุณบอล เล่าว่า การที่จะทำแมวขึ้นมาหนึ่งสายพันธุ์ จำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูลของแมวสายพันธุ์ดังกล่าว และนำมาเทียบกับตำราสมุดข่อยโบราณแมวไทยในการผสมพันธุ์ก่อนทุกครั้งหากตรงตำราทั้งเรื่องสีตา สีขน ใบหน้า กระบอกปาก ทรงหน้า รูปทรง ทรงหาง เป็นต้น
นิสัยทั่วไปของแมวไทยโดยรวมนั้น จะมีนิสัยที่ฉลาด ช่างประจบ หวงถิ่นที่อยู่ รักบ้าน รักเจ้าของ รักอิสระ จะมีความเป็นตัวของตัวเองและไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่ง
สุขภาพโดยรวมของแมวไทยที่สามารถสังเกตได้ง่าย มีดังนี้
- นอกจากจะมีหุ่นที่พอเหมาะสมแล้ว ไม่อ้วนและไม่ผอมจนเกินไป
- เรื่องสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ ขนต้องเงางาม ไม่หลุดร่วงมาก
- ขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง และไม่มีเลือดปะปนมากับอุจจาระ
- ไม่สลัดหูหรือเกาหูบ่อยๆ จนเกินไป หากเกาหูบ่อยจนเกินไป สามารถสันนิษฐานได้ว่าแมวอาจจะมีไรในใบหู
- การเคลื่อนไหวต้องกระฉับกระเฉง ว่องไว ร่าเริง กินเก่ง
- จมูกต้องชื้นเล็กน้อย ไม่มีน้ำมูก เวลาหายใจต้องไม่มีเสียงครืดคราด
- สุขภาพช่องปาก ต้องมีฟันที่ดีและแข็งแรง ไม่มีหินปูนและกลิ่นปาก
- ดวงตาต้องสดใส ไม่มีขี้ตา
ปัจจุบันทางบ้านแมวไทยโบราณ CN Rangsit นั้น มีแมวทั้งหมด 37 ตัว จะมีการเพาะพันธุ์ลูกแมวไทยเกือบทุกสายพันธุ์ ทั้งวิเชียรมาศ สีสวาดหรือโคราช ศุภลักษณ์ และขาวมณี ส่วนโกญจาทางฟาร์มจะมีตัวผู้เพียงตัวเดียว สำหรับไว้เดินสายประกวด เนื่องจากยังไม่สามารถหาแม่พันธุ์โกญจาที่มีลักษณะตรงกับตำราสมุดข่อยโบราณแมวไทยในการผสมพันธุ์ได้นั่นเอง
ด้านการผสมพันธุ์หรือที่เรียกกันว่าการบรีดแมวในสายพันธุ์แมวไทยโบราณนั้น ไม่มีความแตกต่างกัน แมวจะผสมพันธุ์กันตามธรรมชาติ ผสมพันธุ์ในสถานที่ที่เงียบ ไม่มีเสียงรบกวนจากแมวตัวอื่นมาก ก่อนที่จะเริ่มผสมพันธุ์แมวต้องได้รับวัคซีนประจำปีครบถ้วน ถ่ายพยาธิ และร่างกายแข็งแรง แม่แมวที่พร้อมผสมพันธุ์สามารถสังเกตได้จากการลูบช่วงโคนหาง ถ้าหากแมวมีการกดหางหรือกระดกก้น และนอนกลิ้ง พลิกซ้าย พลิกขวาตามพื้น แสดงว่ามีความพร้อมที่จะผสมพันธุ์ ส่วนพ่อพันธุ์ก่อนที่จะทำการผสมพันธุ์ จะมีการเสริมอกไก่ต้มเป็นพิเศษเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกันกับแม่แมว เพราะเวลาที่แมวผสมพันธุ์กันแล้วนั้น จะสามารถถ่ายทอดความสมบูรณ์ไปยังลูกแมวที่จะเกิดได้
“ลูกแมว 1 คอกที่ได้ ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ บางครั้งเราอาจจะได้มา 4 ตัว หรือ 8 ตัว ก็ได้ แม่แมวตั้งท้องอยู่ที่ 60 วัน ไม่เกิน 64 วันนะครับ แม่แมวจะให้นมลูก จนกว่าลูกแมวจะสามารถกินอาหารเองได้ อยู่ที่ประมาณ 2 เดือน ดังนั้น ระยะเวลาตั้งแต่เราเริ่มบรีดจนถึงแม่แมวตั้งท้องและเลี้ยงลูกนั้น แม่แมวจะใช้ระยะเวลาทั้งหมดอยู่ประมาณ 4 เดือน ทางฟาร์มจะให้แม่แมวพักท้อง 2 เดือน จึงจะสามารถเริ่มผสมลูกแมวคอกใหม่ได้ เพราะฉะนั้นแม่แมวใน 1 ปี โดยเฉลี่ยจะให้ลูกแมวประมาณ 2 คอก”
หลังจากลูกแมวหย่านมแล้ว ทางฟาร์มจะให้อาหารเม็ดเสริมกับอกไก่ จนถึงอายุ 1 ปี หลังจากแมวมีอายุ 1 ปีขึ้นไปแล้วจะให้เป็นอาหารแมวโต สามารถเลือกสูตรได้ตามคุณภาพและความเหมาะสม เมื่อแมวมีอายุมากขึ้น จำนวนการให้อาหารก็จะลดน้อยลง
“ในส่วนของการดูแลรักษา แมวทุกตัวภายในฟาร์มจะได้รับวัคซีนประจำปีครบทุกปี หากเรื่องการเจ็บป่วยก็จะเป็นอาการจามเล็กน้อย ทางฟาร์มจะมียาฆ่าเชื้อด้วยการป้อนให้แมว ประมาณ 2-3 วัน อาการก็จะดีขึ้น หากเป็นอาการเจ็บป่วยหนักๆ ทางฟาร์มยังไม่เคยเจอครับ หากในอนาคตแมวเจ็บป่วยเป็นโรคไตหรือโรคต่างๆ วิธีการรักษาคือต้องพาไปรักษากับสัตวแพทย์ ตามอาการที่น้องเป็นครับ”
บ้านแมวไทยโบราณ CN Rangsit จะมีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 70,000-80,000 บาท ด้านราคาแมวแต่ละสายพันธุ์ จะมีหลากหลายราคาตามลักษณะของสายพันธุ์ ดังนี้
- สายพันธุ์วิเชียรมาศ ราคาเริ่มต้นที่ 7,000-9,000 บาท
- สายพันธุ์สีสวาดหรือโคราช ราคาเริ่มต้นที่ 10,000-12,000 บาท
- สายพันธุ์ศุภลักษณ์ ราคาเริ่มต้นที่ 10,000-12,000 บาท
- สายพันธุ์ขาวมณี ตาสีเหลืองราคา 7,000 บาท ตาสีฟ้าราคา 8,000 บาท และตา 2 สี ราคา 12,000 บาท
- สายพันธุ์โกญจา ราคาเริ่มต้นที่ 7,000-8,000 บาท
คุณชนินทร์ แนะนำสำหรับใครที่อยากเลี้ยงแมวไทยโบราณว่า ควรเริ่มจากความรักและความชอบจริงๆ เพราะหากเริ่มจากทั้ง 2 สิ่งดี เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องการดูแล ความใส่ใจ และเรื่องอาหารก็จะตามมาเป็นลำดับต่อไป
สำหรับใครที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องแมวไทยโบราณ สามารถติดต่อคุณชนินทร์ มาศสุพงศ์ หรือ คุณบอล ได้ที่ฟาร์ม ซึ่งตั้งในพื้นที่ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี หรือสอบถามผ่านเพจเฟซบุ๊ก “บ้านแมวไทยโบราณ CN Rangsit” และทางเบอร์โทรศัพท์ 089-806-6688