อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ลงพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ชมผลสำเร็จโครงการส่งเสริมอาชีพการเกษตร

อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์จังหวัดบึงกาฬ ตรวจเยี่ยมความก้าวหน้า การส่งเสริมอาชีพและการตลาดโดยใช้ระบบสหกรณ์เพื่อสนับสนุนเกษตรกรที่ในจังหวัดบึงกาฬ

จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งเป็นสหกรณ์ตัวอย่างที่ประสบผลสำเร็จในการดูแลส่งเสริมอาชีพให้กับสมาชิก จนสามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับเกษตรกรในพื้นที่ได้ ภายใต้โครงการ “แก้จน พ้นหนี้ วิถีคนเซกา” และได้รับคัดเลือกให้เป็นผลงานดีเด่นที่เสนอเข้ารับรางวัลการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม กับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) ปี 2565 ประเภทร่วมใจแก้จน

ทั้งนี้ อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ มีประชากรทั้งสิ้น 80,563 ราย จำนวนครัวเรือน 25,972 ครัวเรือน มีพื้นที่ทำการเกษตรจำนวน 317,388.32 ไร่ ประกอบด้วย ยางพารา 156,012.88 ไร่ ข้าว 136,019.45 ไร่ ปาล์มน้ำมัน 9,212.39 ไร่ มันสำปะหลัง 3,865.17 ไร่ ในจำนวนดังกล่าวเป็นสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรเซกา จำกัด จำนวน 2,087 ราย สมาชิกสหกรณ์ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำการเกษตร

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริม ให้ข้อมูลว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่อยากจะลดหนี้สินให้กับเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะเกษตรกรรายเล็กที่ต้องทำเกษตรผสมผสาน บวกกับการนำแหล่งท่องเที่ยวเข้ามาเสริม เพื่อสร้างรายได้ไปพร้อมๆ กัน จึงทำให้เกิดรายได้หลากหลายจากสิ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่นของพื้นที่นั้นๆ เพื่อให้เกษตรกรปลดหนี้สินเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ

“เรามีการปล่อยสินเชื่อให้กับสมาชิก เพื่อให้เงินทุนเหล่านี้ สามารถนำไปช่วยส่งเสริมการทำเกษตรได้ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ทิ้งถิ่นบ้านเกิดไป ก็นำความรู้มาช่วยเหลือครอบครัว ไม่ต้องทิ้งบ้านเกิดไปทำงานยังเมืองใหญ่ เมื่อครอบครัวมีความอบอุ่น ก็ทำให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีรายได้ทั้งรายวัน รายเดือน รายปี” นายวิศิษฐ์ กล่าว

โดยมีพืชหลักที่สำคัญ ได้แก่ ยางพารา ข้าว ปาล์มน้ำมัน และมันสำปะหลัง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 มีการส่งเสริมการปลูกยางพาราในพื้นที่จำนวนมาก ทำให้สมาชิกส่วนใหญ่หันมาปลูกยางพาราเพียงอย่างเดียว

จากสภาวการณ์ปัจจุบันสภาพภูมิอากาศมีการเปลี่ยนแปลงเกิดภัยแล้งและการชะลอตัวด้านเศรษฐกิจ ส่งผลให้สมาชิกสหกรณ์ประสบกับปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ไม่สามารถส่งชำระหนี้ได้ตามกำหนดและมีแนวโน้มว่าปัญหาหนี้สินสมาชิกเพิ่มสูงขึ้นทุกปี

สำนักงานสหกรณ์จังหวัดบึงกาฬ ได้เล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นของสมาชิกจึงมีแนวคิดที่จะให้สหกรณ์การเกษตรเซกา จำกัด เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับสมาชิก โดยเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนเซกาจากการปลูกยางพาราหรือปลูกพืชเชิงเดี่ยว มาเป็นการทำเกษตรแบบพออยู่พอกินบนพื้นฐานของความพอเพียง ตามคำกล่าวที่ว่า “เฮ็ดอยู่เฮ็ดกิน”

เริ่มจากการวิเคราะห์ข้อมูลหนี้ของสมาชิกสหกรณ์พบว่า สมาชิกสหกรณ์ 2,071 ราย มีสมาชิกที่มีหนี้ค้างนานรายละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท ซึ่งมีจำนวนรวม 243 ราย สหกรณ์จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมอาชีพให้แก่สมาชิก ในปี พ.ศ. 2562 เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ค้างนานของสมาชิก จัดกิจกรรมส่งเสริมอาชีพ 3 กลุ่มอาชีพ ประกอบด้วย

  1. กลุ่มนาเฮา มุ่งเน้นการผลิตข้าวอินทรีย์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สนับสนุนเงินอุดหนุน 100,000 บาท เพื่อนำไปใช้ในการจัดหาปัจจัยการผลิตและทุนหมุนเวียน ปัจจุบันมีสมาชิก 16 ราย สามารถแปรรูปเป็นข้าวอินทรีย์จำหน่ายในชุมชนได้
  2. กลุ่มอาชีพการเลี้ยงสุกรตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ปัจจุบันมีสมาชิก 52 ราย ได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ที่ได้จัดสรรให้สมาชิกกู้ยืมรายละ 30,000 บาท นำไปทำฟาร์มเลี้ยงหมูและหาแม่พันธุ์ โดยสหกรณ์การเกษตรเซกา จำกัด ได้จัดประชุมกลุ่มสมาชิกและวางแผนการผลิต จัดหาอาหารหมูต้นทุนต่ำมาจำหน่ายให้กับเกษตรกร พร้อมประสานปศุสัตว์จังหวัดมาให้ความรู้การจัดการฟาร์มหมูที่ได้มาตรฐานและครบวงจร

อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า จากความสำเร็จนี้เอง จึงทำให้เกษตรกรภายในจังหวัดบึงกาฬมีความมั่นใจในการทำอาชีพทางการเกษตรและมีความสุขกับอาชีพที่ทำ และที่สำคัญได้อยู่กับครอบครัวโดยไม่ต้องเข้าเมืองใหญ่เพื่อเข้าไปทำงานในแหล่งอื่น แต่สามารถทำกินในที่ดินของตัวเองได้อย่างยั่งยืน