เลี้ยงนกแก้วมาคอว์เพื่อฝึกบินอิสระ (call back) เติมความสุข สร้างความเพลิดเพลินทั้งคนและนก

จุดประสงค์และวิธีการเลี้ยงนกแก้วเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนที่เลี้ยงไว้ในกรงเพื่อชื่นชมความสวยงามหรือฝึกพูดเลียนเสียงมนุษย์ แต่สมัยนี้แนวทางการเลี้ยงแบบปล่อยให้นกบินเองแบบอิสระผ่านการฝึกที่มีระบบ ควบคุมการบินด้วยการส่งสัญญาณเสียงจากเจ้าของนกแล้วบินวนกลับมาหาเจ้าของได้ ถือเป็นการเลี้ยงแนวทางใหม่ที่ได้รับความนิยมกันอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศเพราะสร้างความสุข ตื่นเต้น และสนุกสนานให้กับผู้เลี้ยงมากกว่า

คุณธนิดา เหมไปรยา หรือ คุณนิ่ม ชาวจังหวัดนนทบุรี ชอบนกแก้วมาคอว์ ได้เรียนรู้วิธีการฝึกบินแบบอิสระ (call back) ด้วยตัวเอง พร้อมพานกคู่ใจร่วมเดินทางไปบินตามสถานที่ต่างจังหวัดหลายแห่ง สร้างความเพลิดเพลินและความสุข

คุณธนิดา เหมไปรยา หรือ คุณนิ่ม กับไฮโลและมาเกวซ

คุณนิ่มมีความสนใจนกแก้วมาคอว์มากเพราะมีสีสัน รูปร่างที่ถูกใจจึงซื้อมาเลี้ยงเป็นสายพันธุ์บลูโกลมาคอร์ (สีฟ้าเหลือง) ราคาตัวละ 35,000 บาท ตอนที่ซื้อมามีอายุ 25 วัน ยังไม่มีขน ตั้งชื่อว่า “ไฮโล” อีกไม่กี่เดือนซื้อมาอีกตัวหนึ่งเป็นสายพันธุ์แคทรีนามาคอร์ (สีเขียวส้ม) ราคา 97,000 บาท ตั้งชื่อว่า “มาเกวซ”

ความจริงนกแก้วมาคอว์ที่คุณนิ่มซื้อมาตั้งใจจะฝึกหัดเลียนเสียงมนุษย์เพื่อให้เกิดความเพลิดเพลินโดยศึกษาวิธีการฝึกจากยูทูปเป็นหลัก แต่เมื่อศึกษาไปเรื่อยๆ พบว่านกแก้วที่ตัวเองเลี้ยงสามารถฝึกให้บินไปแล้วกลับมาหาเจ้าของหรือปล่อยบินแบบอิสระ (call back) จึงลองฝึกตามไปทีละขั้นตอนพร้อมสอบถามการแนะนำจากรุ่นพี่ในกลุ่มเลี้ยงนกชนิดนี้

ถึงจุดหมายนำนกออกจากกล่องแล้วให้ยืนบนคอนเพื่อให้นกผ่อนคลาย

สิ่งสำคัญของการฝึกเพื่อให้นกคุ้นเคยกับเจ้าของจะต้องเริ่มต้นสร้างความสัมพันธ์ด้วยการคลุกคลีตั้งแต่การป้อนอาหารในช่วงเล็ก เล่นด้วยกัน ให้เดินตามไปทุกจุดในบ้าน เมื่อถึงอายุที่ควรเริ่มฝึกคือประมาณ 60 วันให้เรียกชื่อบ่อยๆ เพื่อสร้างความคุ้นชิน เมื่อเรียกชื่อแล้วให้นกเดินมากินอาหารที่เราเพื่อเป็นรางวัล ทำเช่นนี้อย่างสม่ำเสมอจนเป็นความเคยชิน

“ทั้งนี้ ใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็อาจทำให้นกเรียนรู้ได้พอสมควร แต่สิ่งที่ต้องมาก่อนการเริ่มต้นฝึกนกคือการสร้างความสัมพันธ์และใกล้ชิดระหว่างคนเลี้ยงกับนก ควรใช้เวลาสร้างความคุ้นเคยตั้งแต่วัยเด็ก ต้องคลุกคลีอยู่ด้วยกันตลอดเวลาไม่ต่ำกว่า 50 วัน”

ไฮโลและมาเกวซ ร่วมบินด้วยกัน

อาหารสำหรับนกสายพันธุ์นี้ต่างกันตามช่วงวัย โดยช่วงนกเด็กจะป้อนอาหารสำหรับลูกนกโดยเฉพาะ เมื่ออายุ 90 วันจะเปลี่ยนเป็นอาหารแบบธัญพืชเม็ด เมื่อเริ่มบินจะให้อาหารพวกผลไม้สด เสริมด้วยธัญพืชอย่างถั่ว เมล็ดทานตะวันด้วย นอกจากนั้น ต้องให้นกกินพืชสมุนไพร อาทิ ตะไคร้ บอระเพ็ด พริกสด ให้กินได้ทุกวันเพื่อสร้างภูมิต้านทานโรค ปริมาณการให้อาหาร ถ้าเป็นผลไม้สดวันละ 2 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 3-4 ชั่วโมง ส่วนอาหารชนิดอื่นสามารถเติมได้ตลอดเวลา

Advertisement

คุณนิ่มให้รายละเอียดการฝึกนกบินอิสระว่า อย่างไฮโลจะเริ่มฝึกเมื่ออายุ 60 วัน เริ่มฝึกด้วยการเรียกชื่อแล้วให้เดินมากินอาหารจากผู้เลี้ยงที่อยู่ระยะห่างกัน จะฝึกแบบนี้ตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง เมื่อนกอายุได้ 90 วัน สามารถบินได้ จะให้บินไปเกาะที่คอน แล้วฝึกให้อาหารด้วยการบินมาหาผู้เลี้ยง (แทนการเดิน) การฝึกบินเบื้องต้นใช้สถานที่ในบ้านหรือบริเวณบ้านที่มีระยะทางสัก 3-4 เมตรก็ได้ อย่างบ้านพักแบบทาวน์เฮ้าส์ก็ฝึกได้

นอกจากจะฝึกบินแนวระนาบแล้ว ยังต้องเปลี่ยนไปฝึกแบบแนวดิ่งควบคู่ไปด้วยโดยให้นกอยู่ที่สูงแล้วบินโฉบลงมาด้านล่างเพื่อกินอาหาร จะฝึกแบบนี้ไปตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง การฝึกบินทั้งแนวราบและแนวดิ่งจะเพิ่มความแข็งแรงของปีก ช่วยให้บินได้อย่างคล่องแคล่วและเหมาะสมกับจังหวะ ส่วนทักษะอื่นต้องนำนกไปฝึกยังสถานที่โล่งแจ้งจะถูกต้องและเหมาะสม

Advertisement
ปล่อยให้ผ่อนคลายกับธรรมชาติริมน้ำ

เมื่อเห็นว่านกมีความชำนาญและคล่องแคล่วดีจากนั้นถึงเวลาต้องพานกไปตระเวนบินนอกสถานที่ ควรเป็นสถานที่โล่งโปร่ง ตอนแรกให้นกที่เลี้ยงดูการบินของนกตัวอื่นก่อน ต้องการให้เห็นภาพจำเป็นตัวอย่าง แล้วค่อยปล่อยให้นกของเราออกบินเอง นกที่เริ่มบินในช่วงแรกจะบินระยะใกล้ก่อนเพราะปีกยังไม่แข็งแรง บินไกลไม่ได้

“ตอนแรกพานกไปฝึกตามทุ่งนา หรือลานกว้างที่ไม่มีอะไรกีดขวางการบิน ควรฝึกให้นกคุ้นเคยกับการฝึกบินสัก 2-3 เดือนก่อนเพื่อช่วยให้ปีกนกมีกำลัง มีความแข็งแรง แล้วค่อยเปลี่ยนบรรยากาศพานกไปบินสถานที่อื่นหลายแห่งเพื่อสร้างความหลากหลาย สร้างทักษะการบินให้กับนก”

การสื่อสารเพื่อให้นกบินแล้วกลับมาหาเจ้าของมีด้วยกัน 2 วิธี คือการเรียกชื่อนก วิธีนี้ใช้กับการบินระยะใกล้ นิยมฝึกในช่วงหัดบินภาคสนามครั้งแรก แต่ถ้าบินระยะไกลจะสื่อสารด้วยการเป่านกหวีด อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการเรียกชื่อหรือเป่านกหวีดจะฝึกนกตั้งแต่วัยเด็กเพื่อให้นกตัวนั้นคุ้นเคยกับชื่อและเสียงนกหวีด ดังนั้น เมื่อใช้วิธีเรียกชื่อหรือเป่านกหวีดนกจะบินกลับมาหาเจ้าของทันที

ปล่อยบินบนเนินเขา

การฝึกให้นกบินไปแล้วกลับมาเป็นกิจกรรมที่สร้างความสุขให้กับผู้เลี้ยงอีกรูปแบบหนึ่งแทนการเลี้ยงไว้ดูเล่นในกรงหรือเพียงแค่ฝึกเลียนเสียงมนุษย์ เพราะไม่เพียงมีความภูมิใจว่าสามารถฝึกให้นกเรียนรู้การบินตามสัญญาณการสื่อสาร แต่ที่มากไปกว่านั้นคือนกมีทักษะความชำนาญและแข็งแรงจะทำให้ผู้เลี้ยงพานกเดินทางไปบินตามสถานที่หลายแห่ง มีกิจกรรมร่วมกับเพื่อนสมาชิกรายอื่นในรูปแบบสันทนาการ นับเป็นการพักผ่อนสร้างความสุขให้กับผู้เลี้ยงและตัวนกได้อย่างดี จนเมื่อถึงจุดหมายจึงนำนกออกจากกล่องแล้วให้ยืนบนคอนเพื่อให้นกผ่อนคลายภายหลังเดินทางอยู่ในรถมาเป็นเวลานาน

ท้ายนี้คุณนิ่มมีข้อแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจจะเลี้ยงนกแก้วมาคอว์ว่า 1. ก่อนอื่นต้องตั้งใจจะเลี้ยงนกชนิดนี้อย่างจริงจัง 2. ต้องมีเวลาให้กับการสร้างความคุ้นชินระหว่างผู้เลี้ยงกับนก อันนี้สำคัญมากเพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการฝึกนกเพื่อนำไปสู่กิจกรรมหลายชนิดในภายหลังต่อไป 3. สามารถหาความรู้การเลี้ยงนกได้ในทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็นทางยูทูป คนขายนก หรือแม้แต่การสมัครเข้าเป็นสมาชิกในกลุ่มเลี้ยงนก

คุณนิ่มกับอิริยาบถเคียงคู่กับนกตัวโปรด

ถ้าหากจะเลี้ยงนกชนิดนี้สิ่งที่ต้องลงทุนคือ 1. ตัวนก 2. ชุดป้อนอาหาร 3. กรงและอุปกรณ์ประกอบ 4. กล่องใส่นกสำหรับเดินทาง และ 5. ค่าอาหาร

สิ่งที่บอกมานี้เป็นตัวหลักเท่านั้น ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอื่นที่ตามมาระหว่างเลี้ยง ดังนั้น คนที่มีรสนิยมเลี้ยงนกแก้วมาคอร์จึงต้องใช้ทุนพอสมควรที่จะซื้อหาความสุขที่ตามมา คุณนิ่ม ชี้ว่า ตอนนี้คนนิยมเลี้ยงนกแก้วมาคอร์มากขึ้น แล้วนิยมเลี้ยงกันหลายประเทศ

……………………………………………………

สำหรับแฟนๆ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน หากต้องการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปักษ์ ส่งตรงถึงบ้าน รวดเร็วทันใจอ่านได้ในทุกๆ 15 วัน สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ คลิกลิงก์ https://shorturl.asia/0zJwQ – Line: @matichonbook หรือ สำนักพิมพ์มติชน เลขที่ 12 ถนนเทศบาลนฤมาล หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ติดต่อฝ่ายขาย 02-589-0020 ต่อ 3354