นมฮอกไกโดลุยอาเซียน ตั้งเป้าดันยอดปี’60 โต 5%

“นมฮอกไกโด” ตั้งเป้าปักธงตลาดอาเซียนปีนี้ ดันยอดขายโต 5% พร้อมลงทุนเครื่องจักรเพิ่มเชลฟ์ไลฟ์-เปิดตัวนมสดรสพีชญี่ปุ่น 1 กรกฎาคม นี้

นายวรวิทย์ วงศ์แสนประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮอกไกโด โมริโมโตะ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแฟรนไชส์นมพร้อมดื่มแบรนด์ “Hokkaido Milk” เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปีนี้จะสามารถผลักดันยอดขายให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน เนื่องจากขณะนี้บริษัทเตรียมขยายตลาดส่งออกไปต่างประเทศ โดยอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรที่จะมาเป็นตัวแทนจำหน่ายแฟรนไชส์ (Sublicense) ในประเทศมาเลเซียและเมียนมา เพื่อขายแฟรนไชส์ต้นแบบ (Master Franchise) ไปยังต่างประเทศ ให้ผู้รับสิทธิ์นำไปขายต่อ พร้อมกันนี้ ทางบริษัทเตรียมจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์นมพีชอากาโน ซึ่งเป็นนมสดรสพีชญี่ปุ่น โดยจะต้องวางจำหน่ายในวันที่ 1 กรกฎาคม นี้

สำหรับกลยุทธ์สำคัญในการคัดเลือกคู่ค้าในต่างประเทศนั้น ทางบริษัทมุ่งเน้นที่จะเลือกคู่ค้าที่มีความสนใจในผลิตภัณฑ์และธุรกิจนี้อย่างแท้จริง เพื่อให้เข้าใจในระบบการทำธุรกิจ และเป็นเสมือนตัวแทนของบริษัทในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจเข้มแข็ง สามารถขยายแฟรนไชส์ได้อย่างยั่งยืน ไม่ใช่เพียงขายเพื่อเพิ่มยอดจำนวนร้านค้าเท่านั้น

พร้อมกันนี้ บริษัทได้ลงทุนเครื่องจักร มูลค่า 5 ล้านบาท เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น จาก 10 วัน เป็น 20 วัน โดยขณะนี้อยู่ในช่วงของการทดสอบ หากสามารถเพิ่มเชลฟ์ไลฟ์ของผลิตภัณฑ์ได้จะสร้างโอกาสทางการค้ามากขึ้น

นายวรวิทย์ กล่าวถึงแนวทางการผลักดันธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทยว่า ควรจะต้องมีกฎหมายเฉพาะเพื่อออกมาดูแลปกป้องผู้ประกอบการ เช่นเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้วในกลุ่มอาเซียน อย่าง สิงคโปร์ เพราะที่ผ่านมากลุ่มผู้ประกอบการแฟรนไชซอร์ (Franchisor) และแฟรนไชซี (Franchisee) มักจะมีปัญหาข้อขัดแย้งในการประกอบธุรกิจ ภายหลังจากการทำสัญญาแฟรนไชส์กันไปแล้ว

“กฎหมายที่จะออกมาดูแลแฟรนไชส์จะต้องมีข้อมูลระบุชัดเจนว่า ผู้ประกอบการแฟรนไชซอร์และแฟรนไชซีต้องมีลักษณะอย่างไร เช่น แฟรนไชซอร์ต้องมีการประกอบธุรกิจประสบความสำเร็จมาแล้ว สามารถขยายสาขามาแล้วไม่น้อยกว่า 5 สาขา มีระบบบัญชี ส่วนแฟรนไชซีต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เช่น ต้องอบรม และต้องผ่านการตรวจสอบการดำเนินกิจการ ต้องมีที่มาของแหล่งเงินทุน เป็นต้น”

หากไทยสามารถยกระดับมาตรฐานการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ได้ ก็จะส่งผลดีต่ออนาคตการขยายธุรกิจแฟรนไชส์ออกไปยังต่างประเทศ เพราะปัจจุบันแฟรนไชส์ไทยมีศักยภาพและสามารถแข่งขันได้หลายราย แต่ยังต้องได้รับการส่งเสริม เช่น ส่งเสริมการทำการตลาดโดยการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ ซึ่งอาจจะโฟกัสไปที่ตลาดอาเซียนก่อน ตลอดจนการส่งเสริมด้านการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เป็นต้น ซึ่งจากการเข้าร่วมกับงานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เหมือนเป็นการสำรวจข้อมูลทางการตลาด ทำให้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคและช่องทางจำหน่ายสินค้าในประเทศเพื่อนบ้าน

ทั้งนี้ ธุรกิจนมพร้อมดื่มฮอกไกโด ปัจจุบันมี 42 สาขา บริหารเอง 30 สาขา และแฟรนไชส์ 12 สาขา โดยระดับราคาแฟรนไชส์ตั้งแต่ 1.5-2.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ เริ่มตั้งแต่ 15-60 ตารางเมตร สำหรับ Hokkaido Milk แบ่งสินค้าเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ นมสด มีรสชาติต่างๆ ได้แก่ รสธรรมชาติ กล้วยหอม ชาเขียวมัจฉะ ชาซีลอนช็อกโกแลตแคนตาลูปญี่ปุ่น White Chocolate นอกจากนี้ ยังมีรสชาติตามฤดูกาลและเทศกาลต่างๆ ที่ญี่ปุ่นด้วย อาทิ ช่วงเทศกาลซากุระ จะผลิตนมรสซากุระ หรือช่วงเทศกาลดอกลาเวนเดอร์ ก็จะมีนมรสลาเวนเดอร์ด้วย และกลุ่มผลิตภัณฑ์จากนม ได้แก่ โยเกิร์ต พุดดิ้ง ไอศกรีม แบรนด์ฮอกไกโด ซอฟต์ เจลาโต้ และเบเกอรี่ภายใต้แบรนด์ฮอกไกโด โมริโมโตะ

 

ขอบคุณข้อมูลจากประชาชาติธุรกิจ