บัว แสนวิเศษ

เยาวชนกลุ่มรักษ์เขาใหญ่ เขียนไว้ในคอลัมน์ ชุมชนขอคุย อภัยภูเบศรสาร ฉบับที่ 121 ว่า ริมแม่น้ำปราจีนบุรี มีบัวขึ้นอยู่เต็มสองข้างทาง มีทั้งบัวสายแดง สายขาว บัวหลวง และบัวฉัตร ละลานตา ภาพที่เห็นเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามจริงๆ

นอกจากความสวยงามของบัว คุณประโยชน์ที่แสนล้ำค่าของบัวมีตั้งแต่รากถึงดอก ใช้ทำเป็นอาหารและยังมีสรรพคุณทางการรักษา บำรุงร่างกายในส่วนต่างๆ ของบัว แตกต่างกันออกไป

เหง้าบัว หรือรากบัว นิยมนำมารับประทานเป็นของหวาน โดยการนำมาเชื่อม ส่วนเหง้าอ่อนนำมาผัดน้ำมันหอยหรือต้มเป็นน้ำสมุนไพรรากบัวก็ได้ สรรพคุณใช้บำรุงกำลัง แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้พุพอง แก้อาเจียน แก้อาการไอ ขับเสมหะ ลดอาการอ่อนเพลีย ระงับอาการท้องร่วง ธาตุไม่ปกติในเด็ก

ไหลบัว เป็นหน่อของบัวหรือส่วนที่งอกขึ้นมาและเจริญเป็นลำต้นใหม่ต่อไป สีของไหลบัวจะเป็นสีขาว ไหลบัวที่เรานิยมนำมากินนั้นเป็นบัวหลวงหรือบัวบูชาพระ และจะมีความกรอบกว่าสายบัว นิยมนำมาทำแกงส้ม หรือผัดน้ำมันกับเนื้อสัตว์ต่างๆ นำมาดองจิ้มกับน้ำพริก หรือนำมาทำขนมไหลบัวก็อร่อยเหลือหลาย ไหลบัวมีสรรพคุณ แก้อ่อนเพลียและบำรุงหัวใจ มีเส้นใยอาหารมาก จึงช่วยแก้โรคท้องผูกได้

สายบัว คือก้านของดอกบัวสาย เวลานำมากินต้องลอกเปลือกนอกออกก่อน โดยสีของสายบัวจะออกสีน้ำตาลอมชมพู นิยมนำมาต้มกะทิ แกงสายบัวใส่ปลา ผัดกับหมูหรือกุ้ง กินสดๆ หรือลวกจิ้มน้ำพริก นอกจากนี้ ยังทำเป็นขนมสายบัว สรรพคุณสายบัวจะช่วยลดอาการเกร็งของลำไส้และกระเพาะ ลดความเครียดทางสมอง บรรเทาอาการท้องผูก ขับปัสสาวะ ดับพิษร้อนในร่างกาย


สำหรับแฟนๆ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน หากต้องการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปักษ์ ส่งตรงถึงบ้าน รวดเร็วทันใจอ่านได้ในทุกๆ 15 วัน สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ คลิกลิ้ง https://shorturl.asia/0zJwQ 📲- Line: @matichonbook หรือ สำนักพิมพ์มติชน เลขที่ 12 ถนนเทศบาลนฤมาล หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ติดต่อฝ่ายขาย 02-589-0020 ต่อ 3354