ที่มา | เทคโนฯ เกษตร |
---|---|
ผู้เขียน | ปิยพร วิสระพันธุ์ |
เผยแพร่ |
สับปะรดห้วยมุ่น คือ สับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียที่ถูกนําเข้าไปปลูกในตำบลห้วยมุ่น เมื่อประมาณ 50 กว่าปีมาแล้ว (บ้างก็ว่า 100 ปี แล้ว) จนกลายเป็นพันธุ์ท้องถิ่น ด้วยดินปลูกในพื้นที่ตำบลห้วยมุ่น อุดมไปด้วยสารอาหารและแร่ธาตุต่างๆ ทำให้มีรสชาติที่ดียิ่งขึ้นมากกว่าสายพันธุ์ดั่งเดิม (สับปะรดปัตตาเวีย) โดยเฉพาะรสชาติหวานอร่อย เนื้อหนานิ่ม ตาตื้น เนื้อมีสีเหลืองอมน้ำผึ้ง รสชาติหวานฉ่ำ ตาไม่ลึก ทําให้มีส่วนของเนื้อมาก ผลค่อนข้างเล็ก รับประทานแล้วไม่ระคายคอ
สับปะรด เป็นพันธุ์ไม้ล้มลุกที่มีอายุอยู่ได้นานหลายปี มีลําต้นใต้ดิน ลักษณะเป็นปล้องสัน ลําต้นจะถูกห่อหุ้มด้วยกาบ ใบ ไม่มีการแตกกิ่งก้าน มีความสูงของลําต้นประมาณ 90-100 เซนติเมตร
ใบ ออกเป็นใบเดียวเรียงกันแบบถี่ๆ ใบเรียวยาว ไม่มีก้านใบ ปลายใบแหลม โคนใบมีลักษณะเป็นกาบหุ้มลําต้น ใบสีเขียวเข้ม ด้านล่างใบมีลักษณะเป็นแป้งสีขาวปกคลุมอยู่ มีหนามเล็กแหลมบริเวณขอบใบ
ดอก ออกเป็นช่อเรียงกันแน่นรอบแกนช่อดอกที่ปลายยอด ก้านช่อดอกมีขนาดใหญ่และแข็งแรง มีกลีบดอก 3 กลีบ กลีบด้านบนมีสีชมพูอมม่วง ส่วนกลีบดอกด้านล่างมีสีขาว มีเกสรเพศผู้เรียงกันอยู่ 2 ชั้น ชั้นละ 3 อัน
ผล มีลักษณะเป็นผลรวมรูปทรงรี โคนผลกว้าง ใบผลสอบแคบ ที่ปลายผลมีใบสั้นๆ ออกกระจุกกันอยู่ เนื้อภายในผลมีลักษณะฉ่ำน้ำ เป็นสีเหลืองสด รสชาติหวานอมเปรี้ยวเพียงเล็กน้อย
คุณพงศกร วงษ์ลา อายุ 28 ปี อาศัยอยู่บ้านห้วยมุ่น หมู่ที่ 2 ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ปัจจุบันประกอบอาชีพเกษตรกรปลูกสับปะรดห้วยมุ่น คุณพงศกร คืออีกหนึ่งบุคคลที่เป็นเกษตรกรยุคใหม่ ที่มาพัฒนาและยกระดับสับปะรดห้วยมุ่นให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น ผู้บริโภคสามารถรู้ถึงแหล่งผลิตต้นทางจากชาวสวนโดยตรง และสั่งซื้อได้จากเกษตรกรโดยตรงไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
ผู้บริโภคได้ทานสับปะรดห้วยมุ่นสายพันธุ์แท้ 100% ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงรสชาติที่แท้จริง และถูกต้อง คุณพงศกร กล่าวว่า ต้องยอมรับเลยว่า ปัจจุบันสับปะรดห้วยมุ่นแท้ 100% หาได้ยากมาก ทำให้ผู้บริโภคหลายท่านเข้าใจถึงรสชาติ และเนื้อสัมผัสของสับปะรดห้วยมุ่นผิดไป
สับปะรดห้วยมุ่นแท้ จำเป็นต้องปลูกที่ห้วยมุ่นเท่านั้นและเป็นพันธุ์ดั้งเดิมของท้องถิ่น เนื่องด้วยดินในพื้นที่ห้วยมุ่นมีแร่ธาตุสารอาหารต่างๆ ที่หาจากที่ไหนไม่ได้ ถึงแม้จะนำพันธุ์ห้วยมุ่นแท้ดั้งเดิมไปปลูกในพื้นที่อื่น ยังไงก็ไม่ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่ถูกต้องเท่าปลูกในพื้นที่ห้วยมุ่น
คุณพงศกร กล่าวว่า เดิมทีชาวบ้านในหมู่บ้านห้วยมุ่นปลูกสับปะรดไว้เพื่อทานในครัวเรือนเท่านั้น แต่ด้วยที่ชาวบ้านปลูกกันมากขึ้น ก็ทำให้เกิดการเอาผลผลิตออกมาขาย ทำให้ผู้ที่แวะเวียนมาบ้านห้วยมุ่น ต้องซื้อติดมือกลับไปเป็นของฝาก ในอดีตสับปะรดห้วยมุ่นอาจไม่ได้มีราคามากนัก ชาวบ้านเลยขายเป็นหัว แต่พอวันเวลาผ่านไปราคาก็เริ่มดีขึ้น เลยเปลี่ยนมาขายเป็นกิโลกรัม
สับปะรดห้วยมุ่น หลักๆ แล้วจะแบ่งเป็น 2 เนื้อ คือ เนื้อ 1 และเนื้อ 2 เนื้อ 1 จะมีสีที่เหลืองกว่าเนื้อ 2 ส่วนเนื้อ 2 นั้นจะมีสีเนื้อขาวปนเหลือง รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อยเหมือนกัน และเนื้อ 2 จะสามารถเก็บไว้ได้นานกว่า เนื้อ 1
เทคนิค การปลูกสับปะรดห้วยมุ่น
พื้นที่เพาะปลูกสับปะรดนั้นต้องเป็นพื้นที่ที่ระบายน้ำได้ดี พื้นที่จะต้องไม่มีน้ำท่วมขัง การเตรียมดินเพื่อการเพาะปลูกสับปะรดมี 2 ขั้นตอน ดังนี้ 1. ต้องไถปั่นเศษวัชพืช 1 ครั้ง เพื่อให้วัชพืชย่อยสลายง่ายขึ้น 2. ต้องไถพรวนประมาณ 1-2 ครั้ง เพื่อปรับหน้าดินพร้อมที่จะปลูก จากนั้นหว่านปูนขาว และตากดินเป็นระยะเวลา 14 วัน
จากนั้นคัดหน่อ หรือจุกที่มีขนาดเท่ากัน ปลูกเป็นแถวคู่ ระยะห่าง 1 เมตร คูณ 1 เมตร เมื่อนำลงแปลงปลูกแล้วก็ทำการรดน้ำให้ชุ่ม ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1 เมื่อต้นสับปะรดมีอายุ 2 สัปดาห์ จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเป็นอาหารเสริมทางลำต้นเพื่อเร่งการเจริญเติบโต ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 หลังจากปลูกแล้ว 2 เดือน เพื่อเร่งสะโพกให้ต้นเป็นสาวพร้อมที่จะมีลูก โดยฟันใบออกประมาณ 1 ส่วน 4 ของต้น แล้วให้ปุ๋ยทางใบ
ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 3 ก่อนบังคับออกดอกประมาณ 1 เดือน ให้ทั้งปุ๋ยสูตรอาหารเสริมทางลำต้นควบคู่กับการให้อาหารเสริมฉีดพ่นทางใบ และ ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 4 ก่อนเร่งออกดอก ประมาณ 7 วัน สามารถสังเกตได้จากยอดที่เริ่มแปะออก ให้ฉีดพ่นทางใบ โดยใช้ปุ๋ยสูตรควบคู่ไปกับการฉีดพ่นก่อนบังคับออกผล 7 วัน การให้ปุ๋ยครั้งสุดท้ายจะอยู่ในช่วงหลังสับปะรดออกหัว จะเป็นการฉีดพ่นทางใบ เพื่อเพิ่มความหวานให้กับผลผลิต
ผลผลิตจะออกให้เก็บปีละ 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ออกผลผลิต พฤษภาคม-กรกฎาคม ในฤดูฝน ผลผลิตรอบแรกจะดกกว่าผลผลิตในรอบ 2 และให้ผลผลิตครั้งที่ 2 ธันวาคม-กุมภาพันธ์ ในช่วงฤดูหนาว ผลผลิตจะน้อยกว่ารอบแรก
คุณพงศกร กล่าวว่า สับปะรดเป็นพืชที่ทนแล้งได้ดี แต่ก็ต้องการน้ำเพื่อการเจริญเติบโตเป็นระยะ และต้องคอยดูแลเอาใจใส่ให้ต้นสับปะรดแข็งแรง เพราะหากต้นสับปะรดไม่แข็งแรง ก็จะทำให้เกิดโรครากเน่า โคนเน่า ใบแดง เมื่อต้นสับปะรดเป็นโรคเหล่านี้ไม่สามารถรักษาให้หายได้ เกษตรกรก็จะไม่สามารถเก็บผลผลิตได้จากต้นที่เป็นโรค
ราคาของสับปะรด มีการขึ้นลงของตลาดในแต่ละวัน แต่สวนสับปะรดห้วยมุ่นของคุณพงศกร สามารถขายได้ราคาดีกว่าราคาท้องตลาดทั่วไป เพราะคุณพงศกร มุ่งเน้นตลาดออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากการใช้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป เน้นการซื้อสินค้าออนไลน์มากกว่า การออกไปตลาดหรือห้างสรรพสินค้า
ทำให้เกษตรกรสามารถส่งผลผลิตโดยตรงให้แก่ผู้บริโภคได้ ผู้บริโภคก็สามารถเห็นถึงวิธีการขั้นตอนการเพาะปลูกได้จากเพจเฟซบุ๊ก เช่น ลูกค้าสั่งสินค้าวันนี้ เกษตรกรก็ทำการเก็บเกี่ยวในวันนี้และส่งสินค้าให้กับลูกค้าในวันถัดไป จึงมั่นใจได้ว่า สด ใหม่ และเป็นสายพันธุ์แท้ 100 เปอร์เซ็นต์
สำหรับท่านใดที่สนใจผลผลิตสับปะรดห้วยมุ่น ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณพงศกร วงษ์ลา อายุ 28 ปี อาศัยอยู่บ้านห้วยมุ่น หมู่ที่ 2 ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ โทรศัพท์ 087-207-2985 หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางเฟซบุ๊ก สับปะรดห้วยมุ่น อุตรดิตถ์
สำหรับแฟนๆ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน หากต้องการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปักษ์ ส่งตรงถึงบ้าน รวดเร็วทันใจอ่านได้ในทุกๆ 15 วัน สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ คลิกลิ้ง https://shorturl.asia/0zJwQ 📲- Line: @matichonbook หรือ สำนักพิมพ์มติชน เลขที่ 12 ถนนเทศบาลนฤมาล หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ติดต่อฝ่ายขาย 02-589-0020 ต่อ 3354